การฉีดแฟตบวมเป็นวิธีการลดไขมันในร่างกายและช่วยให้รูปร่างดูเรียวกระชับได้ โดยจะมีการฉีดสารสกัดจากไขมันเข้าไปในบริเวณที่มีไขมันส่วนเกินสะสม เพื่อให้ไขมันละลายและถูกกำจัดออกจากร่างกาย ซึ่งระยะเวลาในการลดอาการบวมหลังฉีดแฟตจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อายุ เพศ และความสมดุลของระดับโฮโมนในร่างกาย โดยทั่วไปแล้วอาการบวมหลังฉีดแฟตจะเริ่มลดลงภายใน 1-2 สัปดาห์ และจะค่อยๆ หายไปจนหมดภายใน 4-6 สัปดาห์ ทั้งนี้ นอกจากระยะเวลาที่ใช้ในการลดอาการบวมแล้ว ยังมีวิธีอื่นๆ ที่สามารถช่วยลดอาการบวมหลังฉีดแฟตได้ เช่น ประคบเย็นบริเวณที่ฉีดแฟต: การประคบเย็นบริเวณที่ฉีดแฟตสามารถช่วยลดอาการอักเสบและบวมได้ โดยให้ประคบประมาณ 15-20 นาที วันละ 3-4 ครั้ง ยกแขนขาสูง: การยกแขนขาสูงช่วยให้ของเหลวไหลเวียนได้ดีขึ้น และช่วยลดอาการบวมได้ โดยให้ยกแขนขาสูงประมาณ 15-20 นาที วันละ 3-4 ครั้ง ดื่มน้ำเปล่าให้มาก: การดื่มน้ำเปล่าในปริมาณที่เพียงพอช่วยให้ร่างกายขับของเสียออกได้ดีขึ้น ช่วยลดอาการบวมได้ โดยควรดื่มน้ำเปล่าประมาณ 8-10 แก้วต่อวัน รับประทานอาหารที่มีกากใยสูง: การรับประทานอาหารที่มีกากใยสูง ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น ช่วยลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ และช่วยลดอาการบวมได้ 5.หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ : เนื่องจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ส่งผลก่อให้เกิดการบวมจึงควรงดหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดในระหว่างการลดอาการบวมหลังฉีดแฟต สวมชุดรัดรูป : การสวมชุดรัดรูปจะช่วยให้การไหลเวียนของของเหลวในร่างกายดียิ่งขึ้น […]
Tag Archives: โบท็อกซ์กราม
ฟิลเลอร์ Yvoire เป็นฟิลเลอร์แท้ 100% นำเข้าจากประเทศฝรั่งเศส ได้รับการรับรองจาก อย. ทั้งไทยและฝรั่งเศส มีส่วนประกอบสำคัญคือ Hyaluronic Acid ความบริสุทธิ์สูงถึง 99.99% ปลอดภัยและไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ จุดเด่นของฟิลเลอร์ Yvoire คือความนุ่มเป็นธรรมชาติหลังฉีด และแทบไม่เกิดผลข้างเคียงใดๆ ฟิลเลอร์ Yvoire มีทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ Yvoire Classic: เป็นฟิลเลอร์ที่มีความนุ่มและยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับการเติมเต็มริ้วรอยลึก รอยย่นบนใบหน้า และขมับ โดยสามารถอยู่ได้นานถึง 1 ปี Yvoire Fine: เป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อละเอียดกว่า Classic เหมาะสำหรับการเติมเต็มริ้วรอยตื้น รอยย่นใต้ตา และร่องแก้ม โดยสามารถอยู่ได้นานถึง 6 เดือน Yvoire Volume: เป็นฟิลเลอร์ที่มีความหนาแน่นสูง เหมาะสำหรับการปรับรูปหน้าให้เรียวสวย เติมเต็มโหนกแก้ม คาง และจมูก โดยสามารถอยู่ได้นานถึง 1-2 ปี ฟิลเลอร์ Yvoire […]
ราคาฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก มีค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 10,000-25,000 บาท ขึ้นอยู่กับปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ ยี่ห้อของฟิลเลอร์ และแพทย์ผู้ฉีด โดยราคาฟิลเลอร์จะแตกต่างกันไปตามคุณภาพและยี่ห้อ โดยฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมและมีคุณภาพดีจะมีราคาสูงกว่าฟิลเลอร์ทั่วไป ยี่ห้อฟิลเลอร์หน้าผากที่นิยม Restylane: เป็นฟิลเลอร์ที่ทำจากไฮยาลูโรนิกแอซิด ซึ่งเป็นสารที่พบตามธรรมชาติในร่างกาย จึงมีความปลอดภัยสูงและสามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ ราคาโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 15,000-20,000 บาท ต่อหลอด Juvederm: เป็นฟิลเลอร์ที่ทำจากไฮยาลูโรนิกแอซิดเช่นกัน มีความปลอดภัยสูงและสามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ ราคาโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 15,000-20,000 บาท ต่อหลอด Perlane: เป็นฟิลเลอร์ที่ทำจากไฮยาลูโรนิกแอซิดที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่กว่า Restylane และ Juvederm จึงให้ผลลัพธ์ที่คงทนยาวนานกว่า ราคาโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 20,000-25,000 บาท ต่อหลอด สิ่งที่ควรคำนึงถึงก่อนการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์และคลินิกที่ให้บริการอย่างละเอียด รวมถึงประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของแพทย์ผู้ฉีด แจ้งแพทย์ถึงประวัติการแพ้ยาหรือโรคประจำตัว หากมี ควรทำความสะอาดใบหน้าให้สะอาดก่อนเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ และหลีกเลี่ยงการแต่งหน้า แพทย์จะทำการประเมินรูปหน้าและความต้องการของผู้เข้ารับบริการ เพื่อพิจารณาปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสม แพทย์จะทำการฉีดฟิลเลอร์เข้าบริเวณหน้าผาก โดยใช้เข็มขนาดเล็กหรือทื่อ เพื่อให้เกิดความเจ็บปวดน้อยที่สุด หลังจากการฉีดฟิลเลอร์อาจมีอาการบวม แดง หรือช้ำในบริเวณที่ฉีดได้ ซึ่งอาการเหล่านี้จะค่อยๆ หายไปภายในไม่กี่วัน
ร้อยไหมยกหางตา แก้ปัญหาตาตก คิ้วตก ดีไหม การร้อยไหมยกหางตา เป็นวิธีการปรับแต่งรูปลักษณ์ดวงตาให้ดูสวยงาม แก้ไขปัญหาตาตก คิ้วตก ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และเห็นผลลัพธ์ได้ทันที วิธีการร้อยไหมยกหางตา การร้อยไหมยกหางตานั้น แพทย์จะทำการฉีดยาชาเฉพาะที่บริเวณที่จะทำการรักษา จากนั้นจะใช้เข็มขนาดเล็กสอดไหมละลายเข้าไปในชั้นผิวหนังบริเวณหางตา แล้วจึงดึงรั้งให้ผิวหนังบริเวณหางตาตึงขึ้น โดยทั่วไปแล้ว แพทย์จะใช้ไหมละลายประมาณ 4-6 เส้น ต่อข้าง และใช้เวลาในการทำประมาณ 30-60 นาที ผลลัพธ์ของการร้อยไหมยกหางตา หลังจากการร้อยไหมยกหางตา จะเห็นผลลัพธ์ได้ทันที โดยจะทำให้หางตาและคิ้วที่ตกหย่อนกลับยกขึ้น ทำให้ดวงตาดูโตขึ้น สดใสขึ้น และดูอ่อนเยาว์ลง แต่ผลลัพธ์ของการร้อยไหมยกหางตานั้นจะอยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ข้อดีของการร้อยไหมยกหางตา ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลลัพธ์ได้ทันที ช่วยแก้ไขปัญหาตาตก คิ้วตก ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ดวงตาดูโตขึ้น สดใสขึ้น และดูอ่อนเยาว์ลง ข้อเสียของการร้อยไหมยกหางตา อาจเกิดอาการบวม ช้ำ หรือปวดเล็กน้อยหลังการรักษา ผลลัพธ์ของการร้อยไหมยกหางตาอาจอยู่ได้ไม่นานนัก ประมาณ 6-12 เดือน มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ […]
โบท็อกซ์ริ้วรอย ฉีดจุดไหนได้บ้าง กี่วันเห็นผล ราคาเท่าไร โบท็อกซ์ริ้วรอย เป็นเวชศาสตร์ความงามที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย โดยโบท็อกซ์คือสารสกัดจากแบคทีเรียชนิดหนึ่งชื่อว่า Clostridium botulinum ซึ่งนำมาใช้ในทางการแพทย์เพื่อช่วยในการคลายกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด โดยแพทย์ผิวหนังหรือแพทย์ศัลยกรรมตกแต่งจะเป็นผู้ฉีดโบท็อกซ์ให้ เมื่อฉีดถูกจุดและได้ปริมาณที่เหมาะสม โบท็อกซ์จะช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้าได้ชั่วคราว โบท็อกซ์ริ้วรอย ฉีดจุดไหนได้บ้าง หน้าผาก หางตา รอบดวงตา ร่องแก้ม มุมปาก คาง ลำคอ โบท็อกซ์ริ้วรอย ฉีดแล้วกี่วันเห็นผล โบท็อกซ์จะเริ่มออกฤทธิ์ภายใน 2-3 วัน และจะเห็นผลชัดเจนภายใน 1-2 สัปดาห์หลังฉีด ผลของโบท็อกซ์จะอยู่ได้นานประมาณ 3-6 เดือน โบท็อกซ์ริ้วรอย ราคาเท่าไร ราคาฉีดโบท็อกซ์แต่ละแห่งจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปริมาณโบท็อกซ์ที่ใช้ บริเวณที่ฉีด โดยทั่วไปแล้ว ราคาฉีดโบท็อกซ์ในประเทศไทยจะเริ่มต้นที่จุดละ 1,000 บาท ไปจนถึงหลักหมื่นบาท ข้อควรระวังในการฉีดโบท็อกซ์ ควรเลือกสถานที่ฉีดโบท็อกซ์ที่น่าเชื่อถือและได้มาตรฐาน ควรเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการฉีดโบท็อกซ์ ก่อนฉีดโบท็อกซ์ควรแจ้งแพทย์ประวัติการเจ็บป่วยและการแพ้ยาของตนเอง หลังฉีดโบท็อกซ์ห้ามขยับใบหน้านานๆ และห้ามนวดใบหน้าเป็นเวลา 2-3 วัน
การฉีดฟิลเลอร์ขมับเป็นหนึ่งในวิธีการด้านความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากช่วยให้ใบหน้าดูมีมิติมากขึ้น แก้ไขปัญหาหน้าผากแคบเล็ก ให้ดูสมส่วนเข้ากับรูปหน้าได้อย่างรวดเร็ว แต่ด้วยความนิยมที่พุ่งสูงขึ้นนี้ ก็มีหลายคนกังวลถึงความปลอดภัยและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีดฟิลเลอร์ด้วยเช่นกัน โดยรวมแล้ว การฉีดฟิลเลอร์ขมับถือเป็นวิธีการที่ปลอดภัย แต่ก็มีโอกาสเกิดผลข้างเคียงได้เช่นเดียวกับการฉีดฟิลเลอร์บริเวณอื่นๆ ผลข้างเคียงที่อาจพบได้ ได้แก่ อาการบวมหรือช้ำบริเวณที่ฉีด ซึ่งมักจะหายไปภายใน 1-2 สัปดาห์ อาการปวดหรือรู้สึกไม่สบายบริเวณที่ฉีด อาการคันหรือระคายเคืองบริเวณที่ฉีด การติดเชื้อบริเวณที่ฉีด ฟิลเลอร์ก้อนแข็งหรือก้อนนูน ซึ่งอาจเกิดจากการฉีดฟิลเลอร์มากเกินไปหรือการฉีดไม่ทั่วถึง ฟิลเลอร์ไหลไปยังบริเวณอื่นๆ ของใบหน้า เช่น หว่างคิ้ว หรือเหนือโหนกแก้ม ซึ่งอาจทำให้ใบหน้าดูไม่เป็นธรรมชาติ ผลข้างเคียงที่รุนแรง เช่น การอุดตันของเส้นเลือด การติดเชื้อรุนแรง หรือเนื้อตาย ซึ่งพบได้น้อยมาก เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์ขมับ ผู้ที่สนใจควรเลือกแพทย์หรือคลินิกที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ โดยควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดถึงรายละเอียดของการฉีดฟิลเลอร์ ประเภทของฟิลเลอร์ที่ใช้ และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้แพทย์สามารถประเมินความเหมาะสมและให้คำแนะนำที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณได้
Belotero Revive ดีไหม ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นให้กับผิว Belotero Revive ประกอบด้วยไฮยาลูโรนิกแอซิด ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ตามธรรมชาติในผิวหนัง ช่วยรักษาความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นให้แก่ผิว เมื่อฉีด Belotero Revive จะเข้าไปกระตุ้นการผลิตไฮยาลูโรนิกแอซิดในผิว ทำให้ผิวดูชุ่มชื้นและยืดหยุ่นขึ้น ช่วยลดริ้วรอยและร่องลึก Belotero Revive สามารถช่วยเติมเต็มร่องลึกและริ้วรอยบนใบหน้าได้ เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ริ้วรอยหน้าผาก และริ้วรอยรอบดวงตา เมื่อฉีด Belotero Revive เข้าไปในบริเวณที่มีริ้วรอย สารไฮยาลูโรนิกแอซิดจะไปเติมเต็มบริเวณดังกล่าว ทำให้ริ้วรอยดูตื้นขึ้นและผิวเรียบเนียนขึ้น ให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ Belotero Revive มีเนื้อสัมผัสนุ่มและบางเบา จึงสามารถกระจายตัวได้อย่างสม่ำเสมอใต้ผิวหนัง ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งหรือเป็นก้อน ไม่ต้องพักฟื้น หลังจากฉีด Belotero Revive ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น สามารถกลับไปทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติ แต่ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องออกกำลังกายหนักๆ หรือทำให้อุณหภูมิของใบหน้าสูงขึ้น เช่น การอาบน้ำอุ่นหรือการอบซาวน่า เป็นเวลา 24 ชั่วโมง ราคา Belotero Revive ราคา Belotero […]
ร้อยไหมจมูก เจ็บไหม มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร? ร้อยไหมจมูก เป็นวิธีการเสริมดั้งจมูกโดยไม่ต้องผ่าตัด โดยแพทย์จะใช้เข็มร้อยไหม PDO เข้าไปใต้ผิวหนังบริเวณสันจมูก ไหมจะทำหน้าที่ดึงเนื้อเยื่อให้ยกขึ้น ทำให้สันจมูกดูโด่งขึ้น ความเจ็บ โดยทั่วไป จะรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อย เพราะมีการฉีดยาชาเฉพาะที่ก่อนทำ อาจรู้สึก แสบ บริเวณที่ฉีดยาชา หลังทำ อาจมี อาการบวม และ ตึง บริเวณที่ร้อยไหม อาการเหล่านี้จะ ค่อยๆ ดีขึ้น ภายใน 1-2 สัปดาห์ ข้อดี ไม่ต้องผ่าตัด พักฟื้นเร็ว เห็นผลทันที ราคาไม่แพง สามารถปรับแก้ได้ ข้อเสีย ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นาน ประมาณ 6-12 เดือน อาจเกิดผลข้างเคียง เช่น บวม แดง อักเสบ ติดเชื้อ ไม่เหมาะกับ คนที่มีปัญหาโครงสร้างจมูก ไม่เหมาะกับ คนที่ต้องการเสริมจมูกโด่งมาก สรุป ร้อยไหมจมูก เป็นวิธีเสริมดั้งจมูกที่สะดวก รวดเร็ว โดยไม่ต้องผ่าตัด […]
ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามนวดหรือกดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ เป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่หรือผิดรูปได้ ห้ามออกกำลังกายหนักๆ เพราะอาจทำให้เหงื่อออกมากและทำให้ฟิลเลอร์ละลายได้เร็วขึ้น ห้ามอาบน้ำร้อนจัด เพราะอาจทำให้ผิวหนังระคายเคืองและทำให้ฟิลเลอร์ละลายได้เร็วขึ้น ห้ามดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้เลือดออกและทำให้ฟิลเลอร์ละลายได้เร็วขึ้น ห้ามใช้เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีส่วนผสมของกรดหรือแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้ผิวหนังระคายเคืองและทำให้ฟิลเลอร์ละลายได้เร็วขึ้น ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ ประคบเย็นบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ เพื่อช่วยลดอาการบวมและช้ำ รับประทานยาแก้ปวดหากจำเป็น หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดจัด เพราะอาจทำให้ผิวหนังไหม้แดดและทำให้ฟิลเลอร์ละลายได้เร็วขึ้น ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง เมื่อต้องออกไปกลางแจ้ง ดื่มน้ำเปล่ามากๆ เพื่อช่วยให้ร่างกายขจัดสารพิษและทำให้ฟิลเลอร์ละลายได้เร็วขึ้น ไปพบแพทย์ตามนัด เพื่อตรวจติดตามผลการรักษาและรับคำแนะนำเพิ่มเติม
การฉีดแฟต หรือเมโสแฟต คือ การฉีดสารละลายเข้าไปยังชั้นไขมันใต้ผิวหนัง เพื่อสลายไขมันและลดขนาดเซลล์ไขมัน โดยสารละลายที่ใช้ในการฉีดแฟตมีหลายชนิด เช่น สารละลายลิโพไลติก (Lipolitic solution) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยสลายไขมันโดยตรง, สารละลายคาเฟอีน (Caffeine solution) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมันและลดการสะสมของไขมันใหม่, สารละลายคลอโรฟิลล์ (Chlorophyll solution) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลืองในบริเวณที่ฉีด ทำให้ไขมันถูกขับออกจากร่างกายได้ง่ายขึ้น, สารละลายแอล-คาร์นิทีน (L-Carnitine solution) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่ช่วยขนส่งไขมันเข้าไปเผาผลาญเป็นพลังงาน การฉีดแฟตเป็นวิธีลดไขมันที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นวิธีที่รวดเร็วและเห็นผลได้ชัดเจน โดยไขมันจะเริ่มสลายตัวหลังจากการฉีดประมาณ 2-3 สัปดาห์ และจะค่อยๆ ลดลงไปเรื่อยๆ จนเห็นผลเต็มที่ในระยะเวลาประมาณ 6-12 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม การฉีดแฟตอาจมีความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงได้ เช่น อาการบวมแดงหรือช้ำบริเวณที่ฉีด, อาการแสบร้อนหรือคัน, อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ, ผิวหนังหย่อนคล้อย, อาการแพ้สารละลายที่ใช้ในการฉีด และอาจเกิดการติดเชื้อได้หากไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง ดังนั้น ก่อนตัดสินใจฉีดแฟตควรศึกษาข้อมูลให้ดี และปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเหมาะสมของการฉีดแฟต รวมถึงเพื่อรับคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการดูแลรักษาหลังการฉีดแฟตที่ถูกต้อง เพื่อลดความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น