แมงลัก/ใบแมงลัก (hairy Basil) ใบแมงลักที่เรารู้จักกันดีนี้ จัดเป็นพืชล้มลุก พบได้ตามพื้นที่ลุ่มต่างๆ ทั่วทุกภาคของประเทศไทย ด้วยกลิ่นหอมโดดเด่นเฉพาะตัว ใบสวยดูแล้วสดชื่น บำรุงสายตา ใบโกรยออกเป็นชั้นๆ มีขนาดไม่ใหญ่มาก มีทั้งสีเขียวอ่อน เขียวปนแดง และสีแดง เรียกได้ว่าสวยดูดี หลายๆ คนได้หันมาปลูกตั้งแต่ช่วงโควิด-19 มาจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากสรรพคุณที่น่าสนใจและมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย สรรพคุณ และประโยชน์ของแมงลัก ช่วยแก้หวัด คัดจมูก ละลายเสมหะ โดยนำใบแมงลัก 1 กำมือ ต้มกับน้ำ 1 ลิตร แล้วสูดดมกลิ่นและดื่มน้ำ ใบแมงลักช่วยขับลม ลดอาการปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ ด้วยการเคี้ยวใบและกลืนหรือคั้นเอาน้ำแล้วดื่ม ช่วยลดไข้ โดยการนำใบมาโขลกผสมกับน้ำปูนใสแล้วนำมาพอกที่หน้าผาก บำรุงหัวใจ ทำให้หัวใจแข็ง แรง ด้วยการนำเมล็ด 1 ช้อนชาใส่กระบอกน้ำ ดื่มแทนน้ำเปล่าทุกวัน ช่วยบำรุงสายตา ด้วยการนำใบสดๆ มาล้างทำความสะอาด แช่น้ำเกลือให้ทั่ว นำใส่ถ้วยหรือพานที่มีน้ำสะอาดแล้วลอยใว้ แล้วจึงค่อยๆ อ่านหนังสือหรืองานที่อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ลดความดันโลหิตสูง ช่วยป้องกันโรคมะเร็งหลายชนิด […]
Tag Archives: พืชไร่
ว่านเศรษฐีเรือนนอก ว่านเศรษฐีเรือนนอก เป็นว่านที่มีถิ่นกำเนิดในป่าดิบชื้นของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จัดเป็นว่านมงคลที่มีสรรพคุณทางยาและความเชื่อมากมาย ในประเทศไทย ว่านเศรษฐีเรือนนอกได้รับการยกย่องให้เป็น “ราชินีแห่งว่าน” เนื่องจากมีสรรพคุณในการเสริมโชคลาภและความมั่งคั่งร่ำรวย ว่านเศรษฐีเรือนนอกมีลักษณะลำต้นเป็นหัวขนาดเล็ก หัวมีสีน้ำตาลแดง และมีรากจำนวนมาก แตกแขนงออกจากหัวไปทั่วหัวมีผิวเรียบเป็นมันเป็นใบเดี่ยว แตกออกเป็นแฉกคล้ายใบปาล์ม ปลายใบแหลม แผ่นใบมีสีเขียวสดใส ขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อย ดอกออกเป็นช่อที่ปลายก้านช่อ ยาวตรงไม่แตกกิ่งก้าน ปลายช่อมีดอกสีเหลืองอ่อน ดอกมีลักษณะเป็นดอกเล็กๆ ดอกย่อยมีกลีบดอก 5 กลีบ กลีบดอกมีสีเหลืองอ่อน มีเกสรตัวผู้ 5 อัน เกสรตัวเมีย 1 อัน ผลมีลักษณะเป็นฝักกลมแบน มีสีน้ำตาลเข้ม เมื่อแก่แห้งจะแตกออกและมีเมล็ดจำนวนมากอยู่ภายใน เมล็ดมีลักษณะเป็นเมล็ดกลม สีน้ำตาลเข้ม มีขนาดเล็ก ประโยชน์ของว่านเศรษฐีเรือนนอก ว่านเศรษฐีเรือนนอกมีสรรพคุณทางยาดังนี้ ช่วยบำรุงร่างกาย แก้ไข้ ขับพิษร้อนออกจากร่างกาย ช่วยลดอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย แก้ไข้ข้ออักเสบ ช่วยแก้โรคผิวหนัง เช่น กลาก เกลื้อน ผื่นคัน ช่วยแก้โรคกระเพาะอาหาร เช่น โรคแผลในกระเพาะอาหาร โรคกระเพาะอาหารอักเสบ ช่วยรักษาโรคเบาหวาน ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง […]
ดอกดิน หรือ ดอกดินแดง ดอกดินแดง เป็นพืชล้มลุกที่มีหัวใต้ดิน มีลำต้นและใบคล้ายต้นขิง ดอกสีแดงหรือสีชมพูเข้ม มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดอกดินนิยมใช้ในอาหารและยาไทย โดยส่วนที่นำมาใช้คือหัวและใบ ประโยชน์ทางโภชนาการ ดอกดินเป็นแหล่งของสารอาหารสำคัญหลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินซี แคลเซียม และฟอสฟอรัส ดอกดินยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจและมะเร็ง ประโยชน์ทางยา ดอกดินมีสรรพคุณทางยามากมาย เช่น แก้ไอ ลดไข้ แก้โรคข้อกระดูก ต้านมะเร็ง รักษาโรคผิวหนัง บำรุงสายตา วิธีรับประทาน ดอกดินสามารถรับประทานได้ทั้งแบบสดและแบบแห้ง สำหรับแบบสดสามารถนำมารับประทานเป็นผักจิ้มกับน้ำพริก หรือนำมาทำแกงจืดก็ได้ ส่วนแบบแห้งสามารถนำมาบดเป็นผงแล้วชงดื่มเป็นชา ข้อควรระวัง ดอกดินเป็นพืชที่มีสารพิษบางชนิด ดังนั้นจึงไม่ควรรับประทานในปริมาณมาก ผู้ที่เป็นโรคตับและโรคไตควรหลีกเลี่ยงการรับประทานดอกดิน
Heading: Community Involvement and Healthy Lifestyles Subheading: The Importance of Community Participation Community involvement is vital to fostering healthy lifestyles and creating thriving communities. Strong community participation facilitates neighborhood connectivity, creating a sense of ownership and encouraging engagement in health-related initiatives. Engaged communities can work together to promote well-being, fostering social, emotional, and physical health. […]
## ผลักเคล (curly Kale): ราชีนีแห่ง ผักใบสีเขียว เครือญาติของมันคือ กวางตุ้ง บรอッコลิ และ ดอกกระหลํ่า เครือญาติยังรวมถึง Brussels sprouts และ kohlrabis แม้จะมีลักษณะเหมือนเช่น กวางตุ้ง ผักเคลก็เป็นประเภทรายปี ไม่ใช่ไม้สองปี สายพันธฺุที่ว่ากันว่าเป็นพันธฺุที่เก่าแก่ที่สุดของ ผักเคล คือพันธฺุที่รู้จักกันในชื่อ ต้นเลือดดอกไม้ หรือ (bloody butcher). ผักเคลมีความอดทรทานต่อความร้อนและความหนาว มีความอดทรทานต่อความร้อนและความหนาว ผักเคลก็เป็นที่รู้จักกันดีที่สุดในเรื่องของความสามารถในการเติ่งโตได้ดีในช่วงกลางถึงปลายปี ซึ่งเป็นช่วงที่รสชาติเกิดความเต็มเปี่ยมที่สุด และมีรสที่ยอดเยี่ยม แต่ผลผลิตจะลดลงในช่วงที่มีความหนาวที่จัด คุณค่าทางสารอาหาร มีความโดเด่นเป็นอย่างมากในเรื่องของวิตามินและสารอาหาร มีวิตามินในกลุ่ม เอ ซีและ เคล็น อีกทั้งแอคลแคโรที และเบตาแคโรที ซึ่งล้วนนับเป็นสารอาหารต้นกลุ่มมีสารอาหารจากกลุ่ม บ่อยไปจนถึง ธ อีกทั้งมีส่วนสนับสนุนจากแบ้วครือบทัพแลียมแก่สารเช่น เหรียม แคลเซียม และโพแทเชียม โดยที่การบริโกคุณค่าของการบริโกสามารถลดความเสี่ยของการเกิดโรคม้าม เสมือยังกับช่วยในการเสริมสร้างสุขภาพตา สามารถลดความเสี่ยของโรคม้าม เสมือยังกับช่วยในการเสริมสร้างสุขภาพตา สามรถหลีกเลี่ยการเกิดโรคล้อใจได้ ในการเลือกรับประทานเคล ควรรับประทานเคลในประเภที่สด […]
โสน สรรพคุณโสน แก้โรคผิวหนังต่างๆ รวมถึงผดผื่น คัน มีหนอง แก้ไข้หวัด แก้ปวดหัว แก้ไอ เจ็บคอ แก้ท้องเสีย แก้ปวดท้องน้อย แก้ตกขาว แก้หืดหอบ แก้ริดสีดวงทวาร แก้บิด การปลูกโสน โสนเป็นพืชที่ปลูกง่าย สามารถปลูกได้ในดินทุกชนิด แต่จะเจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุยที่มีการระบายน้ำดี และมีแสงแดดจัด การเตรียมดิน ไถพรวนดินให้ลึกประมาณ 10-15 เซนติเมตร ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในอัตรา 1-2 ตันต่อไร่ ย่อยดินให้ละเอียดและทำร่องลึกประมาณ 5 เซนติเมตร การปลูก นำเมล็ดโสนมาแช่นน้ำอุ่นประมาณ 12 ชั่วโมง หว่านเมล็ดโสนลงในร่องที่เตรียมไว้ โดยห่างกันประมาณ 10 เซนติเมตร ก ลบดินกลบเมล็ดโสนบางๆ รดน้ำให้ชุ่ม การดูแลรักษา รดน้ำโสนให้สม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน พรวนดินรอบๆ โสนเพื่อกำจัดวัชพืช ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในอัตรา 1-2 ตันต่อไร่ ทุกๆ 3-4 เดือน การเก็บเกี่ยว โสนจะเริ่มออกดอกในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม […]
ดอกดิน “ควันต้านมะเร็ง” แก้ไอ ลดไข้ แพทย์พื้นบ้านแนะนำใช้หุงนึ่งข้าว คุณสมบัติของดอกดิน (ดอกดินป่า) จัดเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว เป็นไม้พุ่มขนาดใหญ่ แตกกอสูงราว 1-2 เมตร ลำต้นมีหนามแหลมคมปกคลุมทั้งลำต้น สีเขียวอมเทา ใบมีสีเขียวเข้ม รูปไข่ปลายแหลม โคนใบมนหรือตัด ดอกช่อ เป็นช่อกระจุกขนาดใหญ่สีขาว ดอกตัวผู้และดอกตัวเมียแยกกัน ผลเป็นผลแห้งรูปไข่ทรงรี สีเหลือง ดอกดินมีสรรพคุณทางยา โดยเฉพาะดอกดินป่า ดอกดินทั้ง 5 ชนิด ใช้เป็นยาบำรุงร่างกาย แก้ไข้ตัวร้อน ต้านการอักเสบ รักษาโรคในกระเพาะอาหาร ขับลมในลำไส้ ช่วยเจริญอาหาร ช่วยขับเหงื่อ บำรุงธาตุช่วยฟอกเลือด แก้พิษแก้พิษงู แก้โรคข้อกระดูก บรรเทาอาการเสาะแสะคันคอ ต่อมน้ำเหลืองโต แก้ไอ โดยเฉพาะ”ดอกดินป่า” มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว สามารถทำยาลม ยารักษาไข้หวัด ยาลดไข้ ยาบรรเทาโรคกระเพาะอาหาร แก้ไอ แก้ทางเดินอาหาร และต้านมะเร็ง แพทย์พื้นบ้านเล่าขานกันว่า ดอกดินมีกลิ่นหอมของ “ควันปืน” ที่สามารถต้านมะเร็งได้ แพทย์แผนไทยจึงนำดอกดินไปปรุงยากลายเป็นตำรับยาเข้าเครื่อง มีประโยชน์มากมาย […]
แมงลัก/ใบแมงลัก (hairy basil) ใบแมงลักเป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหารไทยหลายชนิด เช่น แกงเขียวหวาน ผัดกะเพรา และต้มยำ ชอบแสงแดดเต็มที่ถึงร่มรื่น ใช้เมล็ดในการปลูก สามารถปลูกได้ง่ายในสภาพอากาศร้อนชื้น สรรพคุณใบแมงลัก ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยลดความดันโลหิต ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ช่วยป้องกันโรคหัวใจ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง ช่วยปรับปรุงระบบย่อยอาหาร ช่วยลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยขับลมในลำไส้ ช่วยป้องกันอาการท้องเสีย ช่วยป้องกันโรคติดเชื้อ การปลูกแมงลัก เลือกพื้นที่ที่มีแสงแดดจัดถึงร่มรื่น เตรียมดินโดยไถพรวนให้ละเอียด ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก หว่านเมล็ดแมงลักลงในดินให้ทั่ว รดน้ำให้ชุ่ม ดูแลด้วยการรดน้ำและใส่ปุ๋ยอย่างสม่ำเสมอ แมงลักจะโตเต็มที่ภายในประมาณ 60 วัน
โลดทะนงแดง สมุนไพรบำรุงผิวชั้นเลิศ โลดทะนงแดง เป็นสมุนไพรไทยที่มีสรรพคุณเด่นในเรื่องการดูแลผิว มาแต่โบราณ นิยมนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวต่างๆ ตั้งแต่ยาหม่อง สบู่ ไปจนถึงครีมบำรุงผิว สรรพคุณอันโดดเด่นของโลดทะนงแดง โลดทะนงแดงอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อผิวมากมาย ดังนี้ ทานอาเจียน: ช่วยลดอาการอักเสบและการระคายเคืองผิว เด่นช่วยผิวขาว: มีสารที่ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ซึ่งเป็นสาเหตุของผิวคล้ำ ขัดเซลล์ผิว: ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ให้ผิวแลดูเรียบเนียนและกระจ่างใส ลดรอยหมองคล้ำ: ช่วยลดเลือนรอยดำ รอยแดงจากสิวให้จางลง ฟื้นฟูผิว: มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะและริ้วรอยแห่งวัย บำรุงผิว: ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น นุ่มนวล เนียนเรียบ นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่พบว่าโลดทะนงแดงมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียด้วย จึงสามารถช่วยลดการเกิดสิวได้อีกด้วย
ข้าวบาร์เลย์ ข้าวบาร์เลย์ (Barley) เป็นธัญพืชชนิดหนึ่งในกลุ่มหญ้า มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Hordeum vulgare L. จัดอยู่ในวงศ์เดียวกับข้าวสาลี และข้าวโอ๊ต มีถิ่นกำเนิดในบริเวณเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ และแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ปัจจุบันได้มีการปลูกกันอย่างแพร่หลายในหลายพื้นที่ทั่วโลก โดยเฉพาะในเขตที่มีภูมิอากาศหนาวเย็นถึงเย็นจัด สรรพคุณของข้าวบาร์เลย์ ข้าวบาร์เลย์อุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ได้แก่ ไฟเบอร์: ช่วยในการขับถ่าย บรรเทาอาการท้องผูก และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เบต้ากลูแคน: เป็นไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้ ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด วิตามิน B1 (ไทอามีน): จำเป็นต่อการทำงานของระบบประสาทและหัวใจ วิตามิน B3 (ไนอาซิน): ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือด วิตามิน B5 (กรดแพนโทธีนิก): มีส่วนช่วยในการผลิตพลังงานและฮอร์โมนในร่างกาย แมกนีเซียม: ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟัน พร้อมทั้งมีส่วนช่วยในการทำงานของระบบประสาทและหัวใจ นอกจากนี้ ข้าวบาร์เลย์ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์จากการถูกทำลาย และอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังบางชนิด เช่น โรคหัวใจ และโรคมะเร็ง การปลูกข้าวบาร์เลย์ ข้าวบาร์เลย์สามารถปลูกได้ในดินที่มีการระบายน้ำดี ชอบดินร่วนซุย หรือดินร่วนปนทราย มีความเป็นกรด-ด่างในดินอยู่ระหว่าง 6.0-7.5 ต้องการแสงแดดจัด น้ำปานกลาง และอุณหภูมิเหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตอยู่ที่ประมาณ […]