Tag Archives: พืชผัก

หญ้าเจ้าชู้ ประโยชน์ และสรรพคุณหญ้าเจ้าชู้

หญ้าเจ้าชู้ ประโยชน์ และสรรพคุณ หญ้าเจ้าชู้เป็นพืชที่พบได้ทั่วไปในประเทศไทย มักขึ้นอยู่ตามริมถนนหรือในป่าโปร่ง มีลักษณะลำต้นตรง สูงประมาณ 50-100 เซนติเมตร ใบยาวและเรียว ปลายใบแหลม ขอบใบหยักเล็กน้อย ดอกมีสีขาวหรือสีชมพูอ่อน ออกเป็นช่อที่ปลายยอด ประโยชน์ของหญ้าเจ้าชู้ ใช้ทำอาหาร: ใบอ่อนและยอดอ่อนของหญ้าเจ้าชู้สามารถนำมาปรุงอาหารได้ ทั้งแบบนำไปผัด ต้ม แกง หรือเป็นผักจิ้ม ใช้เป็นยาสมุนไพร: หญ้าเจ้าชู้มีสรรพคุณทางยา โดยในตำรายาไทยใช้ทั้งต้นสดและแห้งมาปรุงเป็นยา ใช้เป็นอาหารสัตว์: หญ้าเจ้าชู้สามารถนำมาเลี้ยงสัตว์ได้ เช่น วัว ควาย และแพะ สรรพคุณของหญ้าเจ้าชู้ แก้ไข้: หญ้าเจ้าชู้มีสรรพคุณช่วยแก้ไข้ โดยใช้ทั้งต้นหรือเฉพาะส่วนใบ สดหรือแห้ง ประมาณ 30-60 กรัม นำมาต้มกับน้ำดื่ม หรือจะใช้ใบสดหรือแห้ง ประมาณ 10-15 ใบ นำมาโขลกแล้วเติมน้ำเล็กน้อย คั้นเอาน้ำดื่มก็ได้ ขับปัสสาวะ: หญ้าเจ้าชู้มีสรรพคุณช่วยขับปัสสาวะ โดยใช้ทั้งต้นหรือเฉพาะส่วนใบ ประมาณ 30-60 กรัม นำมาต้มกับน้ำดื่มหรือนำใบมาโขลกคั้นเอาน้ำดื่มก็ได้ บำรุงธาตุ: หญ้าเจ้าชู้มีสรรพคุณช่วยบำรุงธาตุ โดยใช้ทั้งต้นหรือเฉพาะส่วนใบ […]

สนสองใบ (merkus Pine) ประโยชน์ และสรรพคุณ

สนสองใบ (merkus Pine) ประโยชน์ และสรรพคุณ สนสองใบ เป็นต้นไม้ที่มีใบเข็มสีเขียวสดใสตลอดฤดู ใบมีลักษณะเรียวแหลมยาวประมาณ 10-15 เซนติเมตร จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ที่มีอายุยืนยาว ไม่ผลัดใบ มีลำต้นตรงสูงใหญ่ได้ถึง 50 เมตร ประโยชน์สนสองใบ เนื้อไม้ของสนสองใบมีสีน้ำตาลอมแดง มีความแข็งแรงทนทาน เหมาะสำหรับการนำมาแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์ ไม้พื้น ไม้โครงสร้างอาคาร และอื่นๆ น้ำมันสนสองใบมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว สามารถนำมาใช้เป็นส่วนผสมในน้ำยาทำความสะอาดและยาฆ่าแมลง น้ำมันหอมระเหยจากใบสน น้ำมันดินจากแก่น ยางไม้ของสนสองใบสามารถนำมาใช้เป็นส่วนผสมในครีมและโลชั่นต่างๆ เปลือกสนสองใบ สามารถนำมาใช้เป็นส่วนผสมในอาหารเสริมที่ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ แก่นสนสองใบสามารถนำมาใช้เป็นส่วนผสมในยาแผนโบราณที่ช่วยรักษาอาการท้องเสีย ท้องร่วงได้ สรรพคุณสนสองใบ แกนของสนสองใบสามารถรักษาอาการเจ็บคอ ได้โดยให้ผู้ป่วยใช้เปลือกแกนของต้นสนสองใบ นำมาต้มเคี่ยวนานประมาณครึ่งชั่วโมง ก่อนจะแยกดื่มพร้อมกับน้ำผึ้ง เร่งการฟื้นฟูสมรรถภาพ ของร่างกายให้หายเจ็บป่วยได้เร็วขึ้น โดยให้ผสมน้ำมันสน 1 ช้อนโต๊ะ เข้ากับน้ำมันพืชอีก 2 ช้อนโต๊ะ นำทั้งสองมาผสมรวมกัน ใช้ทาบริเวณแผล ฝี หรือรอยฟกช้ำ ช่วยบำรุงหัวใจ และลดอาการเครียดต่าง โดยผสมใช้เปลือกแกนสนสองใบกับตังกุยเข้าด้วยกัน แล้วนำไปต้มในน้ำ จากนั้นแยกดื่มวันละ 1 ครั้ง

ผักเขียด/ผักขาเขียด/ผักอฮิน ผักวัชพืชตามหนองนา และสรรพคุณเด่น

ผักขาเขียด : ผักวัชพืชที่ให้คุณประโยชน์ ผักขาเขียดหรือผักเขียด เป็นผักที่พบได้ทั่วไปตามหนองนา และเป็นผักพื้นบ้านที่ได้รับความนิยมมายาวนาน ผักขาเขียดมีรสชาติขมเล็กน้อย แต่มีสรรพคุณทางยาที่โดดเด่นมากมาย จนได้รับการกล่าวถึงในตำรายาโบราณของไทย สรรพคุณเด่นของผักเขียด แก้ไขปัญหาทางเดินอาหาร: ช่วยบรรเทาอาการท้องเสียและท้องผูก แก้ปัญหาเลือดออกในกระเพาะอาหารและลำไส้ ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี บำรุงโลหิต : มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยบำรุงโลหิต เสริมสร้างเม็ดเลือดแดง บำบัดเลือดจาง และโรคผิวหนังต่างๆ ช่วยให้ระบบการไหลเวียนโลหิตดีขึ้น : ด้วยคุณสมบัติต้านการอักเสบทระดับสูง ผักขาเขียดช่วยลดการอักเสบของหลอดเลือด เพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือดไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย ลดไข้ แก้ไอ : ผักขาเขียดช่วยลดไข้และแก้ไอ บรรเทาอาการหอบหืด และช่วยให้หลอดลมโล่ง ต้านมะเร็ง : สารต้านอนุมูลอิสระในผักขาเขียด ช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็ง และกระบวนการหลอนและแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง รักษาโรคเบาหวาน : ผักขาเขียดมีฤทธิ์ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง ซึ่งได้ผลดีสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน และช่วยป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ลดความดันโลหิตสูง : โดยฤทธิ์ของผักขาเขียดที่ช่วยลดระดับน้ำตาลในเส้นเลือด โดยการยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ ACE

แอปเปิ้ล สรรพคุณ และการปลูกแอปเปิ้ล

แอปเปิ้ล แอปเปิ้ลเป็นผลไม้ที่คนนิยมรับประทาน โดยมีถิ่นกำเนิดในเอเชียกลางและยุโรปตะวันตกเฉียงใต้ มีปลูกแพร่หลายไปในเขตอบอุ่นตามพื้นที่ทั่วโลก แอปเปิ้ลเป็นผลไม้ที่มีรสหวานกรอบหรือหวานมัน รับประทานได้ทั้งผลและใช้เป็นส่วนผสมในอาหารต่างๆ ได้มากมาย สรรพคุณของแอปเปิ้ล แอปเปิ้ลมีสารอาหารมากมาย โดยเฉพาะวิตามินซีและเส้นใยอาหารที่ช่วยในการย่อยอาหารและดูดซึมสารอาหาร แอปเปิ้ลยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอวัยและป้องกันโรคต่างๆ ได้อีกด้วย ช่วยลดน้ำหนักและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด แอปเปิ้ลเป็นผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูง ซึ่งไฟเบอร์เหล่านี้จะช่วยทำให้รู้สึกอิ่มได้นาน ช่วยลดความอยากอาหาร และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับปกติได้อีกด้วย ช่วยบำรุงหัวใจ แอปเปิ้ลมีสารพีซีทีโอ (PCTO) ซึ่งสารชนิดนี้มีส่วนช่วยลดระดับไขมันเลว (LDL) และเพิ่มระดับไขมันดี (HDL) ในร่างกาย อีกทั้งยังช่วยลดความดันโลหิตและลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง แอปเปิ้ลมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้จะช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ อีกทั้งยังช่วยยับยั้งและต่อต้านการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งบางชนิดได้ด้วย ช่วยบำรุงกระดูก แอปเปิ้ลมีสารโบรอน ซึ่งสารโบรอนชนิดนี้มีบทบาทสำคัญในการสร้างและบำรุงรักษาความแข็งแรงของกระดูก อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะกระดูกพรุนในผู้สูงอายุได้อีกด้วย ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง แอปเปิ้ลมีสารเคอเซทิน ซึ่งสารเคอเซทินนี้มีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นการทำงานของสมอง ช่วยเพิ่มความจำ ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ และช่วยป้องกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุได้ด้วย การปลูกแอปเปิ้ล เลือกสายพันธุ์แอปเปิ้ลที่เหมาะสมกับสภาพอากาศในพื้นที่ของคุณ เตรียมดินปลูกแอปเปิ้ลโดยไถพรวนดินให้ลึกแล้วใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ขุดหลุมปลูกแอปเปิ้ลให้ลึกและกว้างพอประมาณ นำกิ่งพันธุ์แอปเปิ้ลลงปลูกในหลุมปลูกแล้วกลบดินให้แน่น รดน้ำแอปเปิ้ลอย่างสม่ำเสมอ ใส่ปุ๋ยแอปเปิ้ลตามระยะเวลาที่เหมาะสม กำจัดวัชพืชและตัดแต่งกิ่งแอปเปิ้ลอย่างสม่ำเสมอ เก็บเกี่ยวแอปเปิ้ลเมื่อแอปเปิ้ลสุก

หมามุ่ย และสรรพคุณ

หมามุ่ย หมามุ่ย (ชื่อวิทยาศาสตร์: Cleome rutidosperma) เป็นวัชพืชใบเลี้ยงคู่ มีถิ่นกำเนิดที่เขตร้อนอเมริกา และได้แพร่กระจายไปในหลายๆ ประเทศ หมามุ่ยมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว และสามารถสูงได้ถึง 2 เมตร ใบของหมามุ่ยเป็นใบประกอบขนนก มีใบย่อยสีเขียวเข้ม ดอกของหมามุ่ยมีขนาดเล็ก สีเหลืองอ่อน หรือสีส้มอ่อน ผลของหมามุ่ยเป็นฝักยาวประมาณ 2-3 ซม. ภายในฝักมีเมล็ดสีน้ำตาลขนาดเล็ก สรรพคุณของหมามุ่ย หมามุ่ยมีสรรพคุณทางยาหลายประการ เช่น แก้ไข้ หมามุ่ยมีฤทธิ์ช่วยลดไข้ โดยใช้ใบหรือดอกของหมามุ่ยมาต้มน้ำดื่ม แก้อาการไอ หมามุ่ยมีฤทธิ์ช่วยบรรเทาอาการไอได้ โดยใช้ใบหรือดอกของหมามุ่ยมาต้มน้ำดื่ม รักษาโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ หมามุ่ยมีฤทธิ์ช่วยรักษาโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ โดยใช้ใบหรือดอกของหมามุ่ยมาต้มน้ำดื่ม รักษาโรคเบาหวาน หมามุ่ยมีฤทธิ์ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ โดยใช้ใบหรือดอกของหมามุ่ยมาต้มน้ำดื่ม รักษาโรคความดันโลหิตสูง หมามุ่ยมีฤทธิ์ช่วยลดความดันโลหิต โดยใช้ใบหรือดอกของหมามุ่ยมาต้มน้ำดื่ม รักษาโรคไข้หวัดใหญ่ หมามุ่ยมีฤทธิ์ช่วยรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ได้ โดยใช้ใบหรือดอกของหมามุ่ยมาต้มน้ำดื่ม รักษาโรคหอบหืด หมามุ่ยมีฤทธิ์ช่วยรักษาโรคหอบหืดได้ โดยใช้ใบหรือดอกของหมามุ่ยมาต้มน้ำดื่ม รักษาโรคผิวหนัง หมามุ่ยมีฤทธิ์ช่วยรักษาโรคผิวหนังได้ เช่น กลาก เกลื้อน หิด โดยใช้ใบหรือดอกของหมามุ่ยมาต้มน้ำแล้วนำไปอาบ หรือใช้ใบหรือดอกของหมามุ่ยมาพอกบริเวณที่เป็นโรค

ดอกดิน ใช้หุงนึ่งข้าว เด่นต้านมะเร็ง แก้ไอ ลดไข้ แก้โรคข้อกระดูก

ดอกดิน ยาพื้นบ้านที่เต็มไปด้วยสรรพคุณ ดอกดินเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มักพบได้ตามป่าดิบและป่าละเมาะ เป็นไม้ล้มลุกขนาดเล็ก ลำต้นมีสีเขียวแกมแดง ใบเป็นใบเดี่ยว ออกตรงข้ามกัน มีลักษณะเป็นรูปไข่ ผิวใบเรียบ ดอกออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง กลีบดอกมีสีขาวหรือสีชมพูอ่อน มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ดอกดินมีสรรพคุณทางยาหลายประการ เช่น ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง ช่วยบรรเทาอาการไอ ช่วยลดไข้ ช่วยรักษาโรคข้อกระดูก ช่วยลดอาการปวดบวม ช่วยสมานแผล วิธีใช้ดอกดิน นำดอกดินมาตากแห้งแล้วบดเป็นผง ใช้น้ำรัดเอาน้ำมากินครั้งละ 1-2 ช้อนชา วันละ 2-3 ครั้ง ใช้น้ำรัดเอาน้ำมาทาบริเวณที่ปวดบวม ใช้น้ำรัดเอาน้ำมาหยอดหูเพื่อบรรเทาอาการปวดหู ใช้น้ำรัดเอาน้ำมาผสมกับน้ำมันมะพร้าวแล้วนำมาทาบริเวณแผลเพื่อช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น ดอกดินเป็นสมุนไพรพื้นบ้านที่มีสรรพคุณทางยาหลายประการ สามารถใช้รักษาโรคต่างๆ ได้หลากหลาย แต่ทั้งนี้การใช้ดอกดินควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เกิดผลข้างเคียงใดๆ

เงาะ(rambutan) เงาะโรงเรียน และการปลูกเงาะ

เงาะ (Rambutan) เงาะเป็นผลไม้เขตร้อนที่พบได้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีลักษณะเป็นผลกลมรีปกคลุมด้วยหนามอ่อน ๆ มีเกล็ดขนาดเล็กปกคลุม ผลอ่อนมีสีเขียว เมื่อสุกจะมีสีแดงเข้มหรือเหลือง เนื้อในมีรสชาติหวานและฉ่ำ นิยมรับประทานสดหรือแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น น้ำเงาะ แยมเงาะ วุ้นเงาะ เป็นต้น เงาะโรงเรียน เงาะโรงเรียนเป็นพันธุ์เงาะที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย มีลักษณะเด่นคือมีผลขนาดใหญ่ เปลือกบาง เนื้อในหนาแน่น หวานกรอบ และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว เงาะโรงเรียนมีแหล่งกำเนิดในจังหวัดชุมพร แต่ปัจจุบันได้มีการปลูกในหลายพื้นที่ของประเทศไทย การปลูกเงาะ เงาะเป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้น ต้องการน้ำและแสงแดดเป็นจำนวนมาก การปลูกเงาะสามารถทำได้ทั้งแบบปลูกในดินและแบบปลูกในกระถาง โดยทั่วไปแล้วการปลูกในดินจะให้ผลผลิตมากกว่าการปลูกในกระถาง การปลูกเงาะในดินควรเลือกพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีการระบายน้ำที่ดี และมีแสงแดดส่องถึงตลอดทั้งวัน ก่อนปลูกควรเตรียมดินโดยการไถพรวนและใส่ปุ๋ยรองพื้น จากนั้นจึงขุดหลุมปลูกขนาดประมาณ 60 x 60 x 60 เซนติเมตร ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไปในหลุมปลูก จากนั้นจึงวางต้นกล้าเงาะลงในหลุมปลูก กดดินให้แน่นและรดน้ำให้ชุ่ม การปลูกเงาะในกระถางควรเลือกใช้กระถางที่มีขนาดใหญ่พอเหมาะกับขนาดของต้นเงาะ ใส่ดินผสมลงไปในกระถางประมาณ 2/3 ของกระถาง จากนั้นจึงวางต้นกล้าเงาะลงในกระถาง กดดินให้แน่นและรดน้ำให้ชุ่ม การดูแลเงาะหลังจากปลูกต้องรดน้ำให้สม่ำเสมอ ใส่ปุ๋ยบำรุงต้นตามคำแนะนำของผู้ผลิต และกำจัดวัชพืชที่ขึ้นบริเวณโคนต้นเงาะเป็นประจำ เพื่อป้องกันโรคและแมลงศัตรูพืชที่อาจเกิดขึ้นกับต้นเงาะ เงาะเป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ช้า โดยทั่วไปแล้วจะให้ผลผลิตหลังจากปลูกประมาณ […]

แห้ว/แห้วจีน ประโยชน์ สรรพคุณ และการปลูกแห้ว

แห้ว/แห้วจีน ประโยชน์ สรรพคุณ และการปลูกแห้ว แห้วหรือที่รู้จักกันในชื่อ “แห้วจีน” มีลักษณะเป็นพืชที่มีหัวใต้ดินขนาดใหญ่ หัวมีสีขาว เนื้อในหวานกรอบ หากกินสดๆ จะได้รสชาติหวานฉ่ำและกรุบกรอบ นอกจากนี้ แห้วยังมีสรรพคุณทางยาที่โดดเด่นอีกด้วย ประโยชน์และสรรพคุณของแห้ว บรรเทาอาการท้องเสีย : แห้วมีฤทธิ์ฝาดช่วยสมานลำไส้ จึงช่วยบรรเทาอาการท้องเสียได้ ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด : แห้วมีดัชนีน้ำตาลต่ำและมีเส้นใยสูง ช่วยชะลอการดูดซึมกลูโคสเข้าสู่ร่างกาย จึงช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ในผู้ป่วยเบาหวานหรือผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก บรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย : แห้วมีฤทธิ์ลดการอักเสบ ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย อาการเจ็บปวดข้อ หรืออาการปวดศีรษะได้ บำรุงหัวใจ : แห้วมีโพแทสเซียมและแมกนีเซียม ช่วยควบคุมความดันโลหิตและลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจได้ บรรเทาอาการไอ : แห้วมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัส ช่วยบรรเทาอาการไอ แก้เจ็บคอได้ บำรุงผิว : แห้วมีวิตามินซีสูง ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งดูอ่อนกว่าวัย บำรุงเลือด : แห้วมีธาตุเหล็กสูง ซึ่งธาตุเหล็กมีส่วนสำคัญในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง ช่วยป้องกันและรักษาภาวะซีดได้ การปลูกแห้ว แห้วสามารถปลูกได้ทั้งในนาข้าวและแปลงนา สำหรับการปลูกในแปลงนา ควรไถเตรียมดินให้ละเอียด จากนั้นยกแปลงสูง 10-20 เซนติเมตร […]

ว่านนางคุ้ม/ว่านผู้เฒ่าเฝ้าบ้าน และการปลูกว่านนางคุ้ม

ว่านนางคุ้ม/ว่านผู้เฒ่าเฝ้าบ้าน ว่านนางคุ้มหรือว่านผู้เฒ่าเฝ้าบ้าน เป็นว่านที่มีคุณสมบัติทางด้านเมตตามหานิยม โชคลาภ และยังสามารถช่วยป้องกันสิ่งชั่วร้ายและภูตผีปีศาจได้อีกด้วย นอกจากนี้ว่านนางคุ้มยังเป็นว่านที่มีความทนทานและอดทน สามารถปลูกได้ง่ายในสภาพอากาศทั่วไปของประเทศไทย ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ว่านนางคุ้มเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวที่มีลักษณะลำต้นเป็นหัวอยู่ใต้ดิน ลำต้นแท้เป็นแผ่นกลมแบน มีดอกสีขาวตรงกลางดอกมีสีเหลืองติดอยู่กับซอกใบ ปลายใบแหลม การปลูกว่านนางคุ้ม ให้เลือกดินร่วนซุยที่มีความอุดมสมบูรณ์ และมีการระบายน้ำได้ดี เมื่อเตรียมดินเสร็จแล้วให้ขุดหลุมปลูกที่มีขนาดใหญ่กว่าหัวของว่านนางคุ้ม จากนั้นนำหัวของว่านนางคุ้มวางลงไปในหลุมปลูกแล้วกลบดินให้มิด จากนั้นรดน้ำให้ชุ่มและหมั่นรดน้ำเป็นประจำเพื่อให้ดินมีความชื้นอยู่เสมอ การดูแลรักษาว่านนางคุ้ม รดน้ำให้ดินมีความชื้นอยู่เสมอ แต่ไม่ควรแฉะจนเกินไป ใส่ปุ๋ยให้ต้นว่านนางคุ้มทุกๆ 1-2 เดือน โดยใช้ปุ๋ยละลายน้ำหรือปุ๋ยคอก หมั่นกำจัดวัชพืชที่ขึ้นรอบๆ ต้นว่านนางคุ้มเพื่อไม่ให้แย่งธาตุอาหาร ตรวจสอบโรคและแมลงที่อาจจะเกิดขึ้นกับต้นว่านนางคุ้มและกำจัดอย่างถูกวิธี โดยใช้ยาเคมีหรือยาชีวภาพ ประโยชน์ของว่านนางคุ้ม ว่านนางคุ้มมีหลายประโยชน์ ตั้งแต่ช่วยเสริมดวงชะตา เพิ่มโชคลาภ เมตตามหานิยม ป้องกันสิ่งชั่วร้ายและภูตผีปีศาจ

ผักเขียด/ผักขาเขียด/ผักอฮิน ผักวัชพืชตามหนองนา และสรรพคุณเด่น

ผักเขียด/ผักขาเขียด/ผักอฮิน : ผักวัชพืชตามหนองนา และสรรพคุณเด่น ผักเขียด หรือ ผักขาเขียด หรือ ผักอฮิน เป็นวัชพืชที่มักพบได้ตามหนองนาหรือพื้นที่ชื้นแฉะ เป็นผักโบราณที่คนไทยในชนบทนิยมนำมาบริโภค เพราะมีสรรพคุณโดดเด่นหลายประการ คุณประโยชน์และสรรพคุณของผักเขียด ช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย ลดอาการอ่อนเพลีย ช่วยปรับสมดุลและฟื้นฟูระบบประสาท ช่วยแก้อาการร้อนใน ลดไข้ แก้ท้องร่วง ช่วยลดอาการปวดหัวตัวร้อน ช่วยรักษาแผลในปากและหลอดอาหาร ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย ช่วยลดอาการอักเสบในกระเพาะอาหาร ลดอาการท้องอืด ช่วยลดอาการท้องผูก ช่วยขับลม ช่วยบำรุงสายตา รักษาโรคต้อ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดไขมันในเลือด ช่วยรักษาโรคผิวหนัง เช่น สิว ผดผื่น ช่วยบำรุงกำลังและเพิ่มสมรรถภาพทางป ใช้เป็นยาไล่แมลง ใช้สำหรับกำจัดแมลงและสัตว์เล็กๆ วิธีรับประทานผักเขียด นำผักมาต้มให้สุกหรือลวกให้สุก แล้วนำมานึ่งหรือผัดรับประทาน นำผักมาต้มกับน้ำดื่ม หรือคั้นน้ำดื่ม ผสมผักเขียดในอาหาร เช่น ใส่ในแกง ผัด ยำ ใช้ปรุงเป็นยาต้ม หรือยาสมุนปรุง หากรับประทานสดอาจต้องใช้ผักในปริมาณน้อย และเมื่อรับประทานสดควรเลือกผักที่สด สะอาด และปลอดสารพิษ อย่างไรก็ตาม หากมีโรคประจำตัว […]