Tag Archives: โบท็อกซ์กราม

หลังฉีดโบท็อกซ์ ห้ามกินอะไร และห้ามทำอะไร

หลังฉีดโบท็อกซ์ ห้ามกินอะไร งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมง งดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนอย่างน้อย 24 ชั่วโมง งดอาหารรสเผ็ดจัดอย่างน้อย 24 ชั่วโมง งดอาหารหมักดองอย่างน้อย 24 ชั่วโมง งดอาหารที่มีโซเดียมสูงอย่างน้อย 24 ชั่วโมง งดอาหารที่มีไขมันสูงอย่างน้อย 24 ชั่วโมง งดอาหารที่มีน้ำตาลสูงอย่างน้อย 24 ชั่วโมง งดอาหารที่มีคอลลาเจนสูงอย่างน้อย 24 ชั่วโมง ห้ามทำอะไร ห้ามนอนราบอย่างน้อย 4 ชั่วโมง ห้ามนวดหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง ห้ามออกกำลังกายหนักอย่างน้อย 24 ชั่วโมง ห้ามอาบน้ำร้อนหรือซาวน่าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง ห้ามสัมผัสหรือกดบริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์อย่างน้อย 24 ชั่วโมง ห้ามใช้เครื่องสำอางบนบริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์อย่างน้อย 24 ชั่วโมง ห้ามใช้ยาแอสไพรินหรือยาต้านการอักเสบอย่างน้อย 24 ชั่วโมง ห้ามใช้ยาแก้อักเสบอย่างน้อย 24 ชั่วโมง

เมโสฝ้า กระ ทำแล้วเห็นผลเลยไหม อยู่ได้นานเท่าไร

เมโสแฟต คือ การฉีดยาสลายไขมันเพื่อลดไขมันส่วนเกินที่สะสมอยู่ใต้ผิวหนัง เป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เหมาะสำหรับการลดไขมันในบริเวณที่มีไขมันสะสมเฉพาะจุด เช่น แก้ม คาง ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง และสะโพก โดยผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นการลดขนาดของเซลล์ไขมันให้เล็กลง และสลายไขมันออกมานอกเซลล์ จากนั้นไขมันจะถูกดูดซึมกลับเข้าสู่ร่างกายผ่านทางระบบน้ำเหลือง และถูกกำจัดออกไปตามธรรมชาติโดยตับ หลังจากฉีดเมโสแฟต สามารถเห็นผลได้ทันที โดยเฉพาะในบริเวณที่มีไขมันสะสมอยู่หนา เช่น แก้ม คาง และต้นขา แต่สำหรับบริเวณที่มีไขมันสะสมอยู่ไม่มากนัก เช่น ต้นแขน และหน้าท้อง อาจต้องรอประมาณ 1-2 สัปดาห์จึงจะเห็นผลอย่างชัดเจน เมโสแฟตสามารถอยู่ได้นานประมาณ 3-6 เดือนขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ชนิดของสารที่ใช้ฉีด ปริมาณไขมันที่สะสมอยู่ ความเร็วในการเผาผลาญไขมันของร่างกาย และการดูแลรักษาหลังการฉีด โดยทั่วไปแล้ว หากต้องการคงสภาพของรูปร่างหลังการฉีดเมโสแฟต ควรเข้ารับการฉีดซ้ำทุกๆ 3-6 เดือน สำหรับผลข้างเคียงจากการฉีดเมโสแฟต อาจเกิดขึ้นได้ เช่น อาการบวมแดง รอยช้ำ หรือรู้สึกเจ็บปวดบริเวณที่ฉีด ซึ่งอาการเหล่านี้มักจะหายไปภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่หากมีอาการผิดปกติหรือมีอาการไม่พึงประสงค์รุนแรง ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสม

Ulthera รอบดวงตา ยกกระชับรอบดวงตา

Ulthera รอบดวงตา คือการใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ในปริมาณน้อยและมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะส่งผ่านลงไปในชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นในสุดของชั้นผิวหนัง ทำหน้าที่ในการยกกระชับผิว เพื่อเข้าไปในชั้นกล้ามเนื้อ ให้เกิดการกระตุ้นการทำงานของคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนังและเนื้อเยื่อ ทำให้ผิวหนังเต่งตึง ยกกระชับขึ้น โดยไม่มีการผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น Ulthera รอบดวงตา เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหารอบดวงตาหย่อนคล้อย หนังตาตก มีริ้วรอยบาง ๆ ร่องลึกบริเวณหางตา รวมไปถึงถุงใต้ตาและรอยเหี่ยวย่น รวมทั้งบริเวณโหนกแก้มและคิ้ว Ulthera รอบดวงตาจะช่วยในเรื่อง ยกกระชับผิวหนังรอบดวงตาที่หย่อนคล้อย ลดถุงใต้ตา ลดรอยเหี่ยวย่นและริ้วรอยบางๆ บริเวณรอบดวงตา ยกหางตาที่ตกให้สูงขึ้น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนัง การทำ Ulthera รอบดวงตา แพทย์จะทำการทายาชาก่อน เพื่อลดความรู้สึกเจ็บ ซึ่งก่อนการทำแพทย์จะวาดจุดหรือเส้นบริเวณผิวหนังรอบดวงตาเพื่อกำหนดจุดทำการรักษา แล้วใช้หัวเครื่องปล่อยคลื่นเสียงอัลตราซาวด์บริเวณจุดที่แพทย์ทำการวาดไว้ ทั่วบริเวณรอบดวงตาโดยใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที หลังทำ Ulthera รอบตา ผู้รับบริการจะรู้สึกได้ถึงความเต่งตึงบนผิวบริเวณรอบดวงตาทันที ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว และใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนมากขึ้น

โบท็อกซ์ปีกจมูก ลดขนาดจมูกที่บานให้เล็กลง

โบท็อกซ์ปีกจมูก เป็นเทคนิคการลดขนาดปีกจมูกแบบใหม่ ที่ไม่ต้องผ่าตัด ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ โดยใช้โบท็อกซ์ฉีดบริเวณปีกจมูก เพื่อให้กล้ามเนื้อปีกจมูกคลายตัวและเล็กลง ปีกจมูกจึงเล็กลงและกระชับยิ่งขึ้น โบท็อกซ์ปีกจมูก เหมาะสำหรับผู้ที่มีปีกจมูกใหญ่หรือบาน ต้องการให้ปีกจมูกเล็กลงและกระชับยิ่งขึ้น แต่ไม่ต้องการผ่าตัด ข้อดีของการฉีดโบท็อกซ์ปีกจมูก ไม่ต้องผ่าตัด ปลอดภัย ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน ไม่เจ็บ ไม่ต้องพักฟื้น ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-12 เดือน ขั้นตอนการฉีดโบท็อกซ์ปีกจมูก แพทย์จะทำความสะอาดปีกจมูกและทายาชา แพทย์จะฉีดโบท็อกซ์บริเวณปีกจมูก หลังจากฉีดโบท็อกซ์แล้ว อาจมีอาการบวมหรือช้ำเล็กน้อย ซึ่งจะหายไปภายในไม่กี่วัน ผลข้างเคียงของการฉีดโบท็อกซ์ปีกจมูก การฉีดโบท็อกซ์ปีกจมูกเป็นวิธีการที่ปลอดภัย แต่ก็อาจมีผลข้างเคียงได้ เช่น อาการบวมหรือช้ำเล็กน้อย การฉีดยาชาอาจทำให้รู้สึกไม่สบายเล็กน้อย คำแนะนำหลังการฉีดโบท็อกซ์ปีกจมูก หลีกเลี่ยงการกดนวดบริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์ หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักๆ ในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังจากการฉีดโบท็อกซ์

ร้อยไหมดีไหม ร้อยแล้วเกิดพังผืดจริงหรือไม่

ร้อยไหมดีไหม ร้อยแล้วเกิดพังผืดจริงหรือไม่ การร้อยไหม เป็นเทคนิคการยกกระชับใบหน้าและปรับรูปหน้า ด้วยการใช้เข็มแหลมสอดไหมละลายเข้าไปใต้ผิวหนัง จากนั้นแพทย์จะดึงไหมให้ตึงเพื่อทำให้ผิวหน้ายกกระชับและตึงขึ้น แต่ยังคงความเป็นธรรมชาติ ไม่ดูแข็งเหมือนการผ่าตัด ข้อดีของการร้อยไหม เป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด รวดเร็ว เห็นผลทันทีหลังทำ ช่วยยกกระชับผิวหน้า ปรับรูปหน้าให้ชัดขึ้น ลดริ้วรอย ย่น ร่องลึกต่างๆ ได้ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้ผิวหน้าเต่งตึงขึ้น เส้นไหมที่ใช้จะค่อยๆ สลายไปในระยะเวลา 6-24 เดือน ข้อเสียของการร้อยไหม อาจเกิดการช้ำ บวม เขียวได้หลังทำ อาจเกิดการติดเชื้อได้หากไม่ได้รับการดูแลที่ถูกต้อง หากร้อยไหมไม่ถูกต้อง อาจทำให้เกิดพังผืดหรือเส้นประสาทเสียหายได้ ร้อยไหมแล้วเกิดพังผืดจริงหรือไม่ การร้อยไหมที่ถูกต้องจะไม่ทำให้เกิดพังผืด แต่หากร้อยไหมไม่ถูกต้อง อาจทำให้เกิดพังผืดได้ เช่น การร้อยไหมที่ลึกเกินไป เข้าไปถึงชั้นกล้ามเนื้อ การร้อยไหมด้วยไหมที่ไม่ละลาย การร้อยไหมโดยแพทย์ที่ไม่มีความชำนาญ วิธีการดูแลหลังการร้อยไหมที่ถูกต้อง ประคบเย็นบริเวณที่ร้อยไหมเป็นประจำ เพื่อลดอาการบวมและช้ำ หลีกเลี่ยงการนวดหรือกดบริเวณที่ร้อยไหม หลีกเลี่ยงการโดนแดดจัด ทำความสะอาดบริเวณที่ร้อยไหมด้วยน้ำเปล่าหรือน้ำเกลือเท่านั้น งดการแต่งหน้าเป็นเวลา 2-3 วัน งดการออกกำลังกายหนักเป็นเวลา 2-3 สัปดาห์ หากมีอาการผิดปกติใดๆ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที

ร้อยไหมอิตาลี Definisse ดีไหม ราคาเท่าไร

ร้อยไหมอิตาลี Definisse คืออะไร ร้อยไหมอิตาลี Definisse เป็นเทคนิกร้อยไหมละลายที่ช่วยยกกระชับผิวและปรับรูปหน้า โดยไหมอิตาลี Definisse มีความปลอดภัยสูงเพราะเป็นชนิดเดียวกับที่ใช้ในการผ่าตัดหัวใจ จึงไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคือง และสามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติภายใน 6-12 เดือน ข้อดีของการร้อยไหมอิตาลี Definisse ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยให้เต่งตึงขึ้น ปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนที่เหมาะสม ลดเลือนริ้วรอยและร่องลึกบนใบหน้า ช่วยให้ผิวเรียบเนียนและกระชับขึ้น ฟื้นฟูสภาพผิวให้ดูอ่อนเยาว์ลง ไม่มีแผลเป็นหลังการรักษา ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติและยาวนาน ราคาของการร้อยไหมอิตาลี Definisse ราคาของการร้อยไหมอิตาลี Definisse ขึ้นอยู่กับจำนวนเส้นไหมที่ใช้ จำนวนครั้งที่เข้ารับบริการ และคลินิกหรือโรงพยาบาลที่ให้บริการ โดยทั่วไปราคาจะเริ่มต้นที่ประมาณ 10,000 บาท และอาจสูงถึง 30,000 บาท ข้อควรปฏิบัติหลังการร้อยไหมอิตาลี Definisse งดการสัมผัสใบหน้าหรือบริเวณที่ร้อยไหม หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักๆ หรือการยกของหนักในช่วง 2-3 วันแรก ประคบเย็นบริเวณที่ร้อยไหมเพื่อลดอาการบวมหรือช้ำ รับประทานยาแก้ปวดหรือยาแก้อักเสบตามแพทย์สั่ง กลับมาพบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามผลการรักษา

ฉีดฟิลเลอร์ขมับราคาเท่าไร ฉีดยี่ห้อไหนดี

ค่าใช้จ่ายในการฉีดฟิลเลอร์ขมับนั้นแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภทของฟิลเลอร์ที่ใช้ ชื่อเสียงของแพทย์หรือคลินิก และปริมาณของฟิลเลอร์ที่ฉีด ราคาโดยทั่วไปอยู่ระหว่าง 5,000-20,000 บาท โดยแบ่งออกเป็นดังนี้ ฟิลเลอร์ชนิดชั่วคราว (Hyaluronic Acid Fillers) ซึ่งจะสลายไปภายใน 6-12 เดือน มีราคาโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 5,000-10,000 บาทต่อมิลลิลิตร ฟิลเลอร์ชนิดกึ่งถาวร (Radiesse และ Calcium Hydroxylapatite Fillers) ซึ่งจะคงอยู่ได้นานถึง 1-2 ปี มีราคาโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 10,000-20,000 บาทต่อมิลลิลิตร ส่วนยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่นิยมใช้ในการฉีดขมับนั้น ได้แก่ Restylane (เรสทิเลน) ผลิตจากกรดไฮยาลูรอนิก มีจุดเด่นที่เนื้อฟิลเลอร์มีความละเอียด จึงเหมาะสำหรับการฉีดบริเวณที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่น ร่องแก้ม ใต้ตา ขมับ Juvederm (จูวีเดิร์ม) ผลิตจากกรดไฮยาลูรอนิกเช่นกัน จุดเด่นคือเนื้อฟิลเลอร์มีความเหนียว ยืดหยุ่น สูง ช่วยเติมเต็มใบหน้าที่มีริ้วรอยลึกหรือเหี่ยวย่นได้ดีกว่า Restylane เหมาะสำหรับการฉีดบริเวณแก้ม หน้าผาก ร่องมุมปาก และขมับ Belotero (เบโลเทโร) ผลิตจากกรดไฮยาลูรอนิกแบบพิเศษ […]

รูขุมขนกว้าง เกิดจากอะไร รวม 5 วิธีกระชับรูขุมขน

รูขุมขนกว้าง เกิดจากอะไร รวม 5 วิธีกระชับรูขุมขน รูขุมขนกว้างเป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในบริเวณจมูก แก้ม และหน้าผาก รูขุมขนกว้างเกิดจากการผลิตน้ำมันส่วนเกินในผิวหนัง ซึ่งสามารถอุดตันรูขุมขนและทำให้เกิดสิวได้ นอกจากนี้รูขุมขนกว้างยังสามารถทำให้ผิวดูหยาบกร้านและมีริ้วรอยได้ สาเหตุของรูขุมขนกว้าง มีหลายสาเหตุที่ทำให้เกิดรูขุมขนกว้าง เช่น กรรมพันธุ์: บางคนมีแนวโน้มที่จะมีรูขุมขนกว้างมากกว่าคนอื่นๆ ฮอร์โมน: การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย เช่น ในช่วงวัยรุ่นและวัยหมดประจำเดือน สามารถทำให้เกิดรูขุมขนกว้างได้ การผลิตน้ำมันส่วนเกินในผิวหนัง: คนที่มีผิวมันมีแนวโน้มที่จะมีรูขุมขนกว้างมากกว่าคนที่มีผิวแห้ง สิว: การเกิดสิวสามารถทำให้รูขุมขนกว้างขึ้นได้ แสงแดด: การสัมผัสกับแสงแดดเป็นเวลานานสามารถทำให้ผิวหนังหนาขึ้นและทำให้รูขุมขนกว้างขึ้นได้ การสูบบุหรี่: การสูบบุหรี่สามารถทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนัง ซึ่งทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อยและทำให้รูขุมขนกว้างขึ้นได้ การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ไม่เหมาะสม: การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวแห้งเกินไปหรือมันเกินไป สามารถทำให้รูขุมขนกว้างขึ้นได้ วิธีกระชับรูขุมขน มีหลายวิธีที่สามารถช่วยกระชับรูขุมขนได้ เช่น ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างถูกวิธี: การทำความสะอาดผิวหน้าอย่างถูกวิธีเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญในการกระชับรูขุมขน ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่อ่อนโยนและเหมาะกับสภาพผิว หลังจากทำความสะอาดผิวหน้าแล้วควรทาโทนเนอร์เพื่อช่วยกระชับรูขุมขน ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสม: การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสมสามารถช่วยกระชับรูขุมขนได้ ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมที่ช่วยกระชับรูขุมขน เช่น กรดซาลิไซลิก กรดไกลโคลิก หรือวิตามินซี ใช้มาสก์กระชับรูขุมขน: การใช้มาสก์กระชับรูขุมขนเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยกระชับรูขุมขนได้ ควรเลือกใช้มาสก์กระชับรูขุมขนที่เหมาะกับสภาพผิวและใช้เป็นประจำตามคำแนะนำบนฉลากผลิตภัณฑ์ ลดการผลิตน้ำมันส่วนเกินในผิวหนัง: การลดการผลิตน้ำมันส่วนเกินในผิวหนังสามารถช่วยกระชับรูขุมขนได้ […]

รวม 7 วิธีรักษาหลุมสิว หน้าเรียบเนียนขึ้น

หลุมสิว คือรอยบุ๋มที่เกิดขึ้นบนใบหน้า เกิดจากการที่สิวอักเสบรุนแรงจนทำลายคอลลาเจนในชั้นหนังแท้ ทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นไม่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้ วิธีรักษาหลุมสิวมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของรอยหลุมสิว แต่โดยทั่วไปวิธีรักษาหลุมสิวสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ การรักษาด้วยวิธีธรรมชาติ และการรักษาด้วยวิธีทางการแพทย์ 1. การรักษาหลุมสิวด้วยวิธีธรรมชาติ ทาครีมที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) หรือเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) เป็นการรักษาหลุมสิวแบบเรียบง่ายที่สามารถทำได้ที่บ้าน กรดซาลิไซลิกและเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์เป็นสารที่มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียและช่วยลดการอักเสบของผิวหนัง ใช้เจลว่านหางจระเข้ ว่านหางจระเข้มีคุณสมบัติในการสมานแผลและลดการอักเสบ จึงสามารถช่วยลดรอยหลุมสิวและทำให้ผิวหนังเรียบเนียนขึ้นได้ มาร์คหน้าด้วยน้ำผึ้ง น้ำผึ้งมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียและช่วยสมานแผล จึงสามารถช่วยลดรอยหลุมสิวและทำให้ผิวหนังเรียบเนียนขึ้นได้เช่นกัน นวดหน้าด้วยน้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะพร้าวมีคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนังและช่วยลดการอักเสบ จึงสามารถช่วยลดรอยหลุมสิวและทำให้ผิวหนังเรียบเนียนขึ้นได้ ดื่มน้ำมากๆ การดื่มน้ำมากๆ จะช่วยให้ผิวหนังชุ่มชื้นและมีสุขภาพดี ซึ่งจะช่วยลดการเกิดสิวและทำให้รอยหลุมสิวดูจางลงได้ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช และโปรตีน จะช่วยให้ผิวหนังแข็งแรงและมีสุขภาพดี ซึ่งจะช่วยลดการเกิดสิวและทำให้รอยหลุมสิวดูจางลงได้ พักผ่อนให้เพียงพอ การพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายมีเวลาซ่อมแซมเซลล์ผิวหนังและลดการเกิดสิว ซึ่งจะช่วยลดรอยหลุมสิวและทำให้ผิวหนังเรียบเนียนขึ้นได้ 2. การรักษาหลุมสิวด้วยวิธีทางการแพทย์ การลอกผิวหนังด้วยสารเคมี (Chemical Peel) เป็นการใช้สารเคมีในการขจัดเซลล์ผิวหนังชั้นนอกที่มีรอยหลุมสิวออก ทำให้ผิวหนังเรียบเนียนขึ้น การลอกผิวหนังด้วยสารเคมีสามารถทำได้หลายครั้ง […]

4 วิธีแก้ขอบตาดำ ให้ขอบตากลับมาดูสดใส

นอนหลับให้เพียงพอ การนอนหลับไม่เพียงพอสามารถนำไปสู่ขอบตาดำได้ เมื่อคุณนอนหลับไม่เพียงพอ ร่างกายของคุณจะผลิตคอร์ติซอลซึ่งเป็นฮอร์โมนความเครียด ซึ่งอาจทำให้เกิดการอักเสบและการเกิดรอยคล้ำใต้ตาได้ การนอนหลับให้เพียงพออย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืนสามารถช่วยลดขอบตาดำได้ ใช้ครีมบำรุงรอบดวงตาที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน, วิตามินซีและกรดไฮยาลูโรนิก ครีมบำรุงรอบดวงตาที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนสามารถช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและลดการบวมใต้ตาได้ วิตามินซีสามารถช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอและลดการสร้างเม็ดสี ซึ่งอาจทำให้เกิดรอยคล้ำใต้ตาได้ กรดไฮยาลูโรนิกสามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวรอบดวงตาและลดการเกิดริ้วรอย ประคบเย็น การประคบเย็นสามารถช่วยลดการบวมและการอักเสบใต้ตาได้ คุณสามารถใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นหรือถุงประคบเย็นประคบใต้ตาเป็นเวลา 10-15 นาที ใช้ผลิตภัณฑ์ปกปิดรอยคล้ำใต้ตา หากคุณต้องการปกปิดรอยคล้ำใต้ตาในระหว่างวัน คุณสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ปกปิดรอยคล้ำใต้ตาได้ เลือกผลิตภัณฑ์ปกปิดรอยคล้ำใต้ตาที่มีเฉดสีที่เข้ากับสีผิวของคุณและเกลี่ยให้เรียบเนียน