ใบต่างเหรียญ (agracejo Rastrero) ประโยชน์ และวิธีปลูก ใบต่างเหรียญ หรือที่รู้จักกันในชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Agraz หรือ Gracilis เป็นพืชล้มลุกในตระกูล Solanaceae ซึ่งเป็นตระกูลพืชเดียวกับมะเขือเทศ มะเขือม่วง และพริก เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในอเมริกากลางและอเมริกาใต้ ใบต่างเหรียญเป็นพืชที่เจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและสามารถขึ้นได้ในสภาพดินและสภาพอากาศที่หลากหลาย ทำให้เป็นพืชที่เหมาะสำหรับการปลูกในบ้านหรือในสวน ใบต่างเหรียญมีใบสีเขียวเข้มเป็นมัน มีลักษณะขอบหยัก มีดอกสีขาวขนาดเล็ก และมีผลสีม่วงเข้มขนาดเล็ก ผลของใบต่างเหรียญสามารถรับประทานได้ทั้งดิบและสุก โดยผลดิบจะมีรสชาติเปรี้ยวจัด ในขณะที่ผลสุกจะมีรสชาติหวานอมเปรี้ยว ใบต่างเหรียญเป็นพืชที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย โดยมีงานวิจัยหลายชิ้นที่พบว่าใบต่างเหรียญมีสรรพคุณทางยาในการช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดความดันโลหิต และช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้ นอกจากนี้ ใบต่างเหรียญยังมีสรรพคุณในการช่วยต้านการอักเสบ ต้านทานอนุมูลอิสระ และช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายได้อีกด้วย ใบต่างเหรียญสามารถปลูกได้ง่ายทั้งในกระถางและในแปลงปลูก โดยควรปลูกในดินร่วนซุยที่มีการระบายน้ำที่ดี ในพื้นที่ที่มีแสงแดดส่องถึงอย่างเต็มที่ เมื่อปลูกแล้วควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอและใส่ปุ๋ยเป็นประจำ โดยควรใส่ปุ๋ยที่มีไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมในอัตราที่เหมาะสม ใบต่างเหรียญจะเริ่มออกดอกและติดผลเมื่อมีอายุประมาณ 3-4 เดือน หลังจากนั้นก็สามารถเก็บเกี่ยวผลได้เรื่อยๆ เมื่อผลมีสีม่วงเข้มเต็มที่ ใบต่างเหรียญมีประโยชน์มากมาย ทั้งในด้านอาหารและยา โดยสามารถใช้ประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู เช่น แกงส้ม แกงเลียง ต้มยำ และยังสามารถใช้ทำน้ำพริก น้ำสมุนไพร และชาได้อีกด้วย […]
Tag Archives: สมุนไพร
แสมดำ แสมดำ (Avicennia officinalis) เป็นไม้ป่าชายเลนที่มีความสำคัญทางนิเวศและเศรษฐกิจในหลายภูมิภาคของโลก โดยเฉพาะในเขตร้อนและกึ่งเขตร้อน แสมดำมีประโยชน์และสรรพคุณที่หลากหลาย โดยเฉพาะในด้านการแพทย์และการดูแลสุขภาพ ประโยชน์ของแสมดำ ใช้เป็นยาสมุนไพร: แสมดำมีสรรพคุณทางยาหลายประการ เช่น ช่วยรักษาโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคมะเร็ง และโรคติดเชื้อต่าง ๆ ใช้ในการทำยาและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร: สารสกัดจากแสมดำถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในยาและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อรักษาและป้องกันโรคต่างๆ ใช้ในการทำเครื่องสำอาง: สารสกัดจากแสมดำยังถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเพื่อบำรุงผิว และปกป้องผิวจากริ้วรอยเหี่ยวย่นและการอักเสบ ใช้เป็นไม้ประดับ: แสมดำเป็นไม้ที่มีรูปร่างและใบที่สวยงาม จึงนิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับในสวนสาธารณะและริมถนน สรรพคุณแสมดำ ช่วยรักษาโรคเบาหวาน: สารสกัดจากแสมดำมีฤทธิ์ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดและเพิ่มความไวต่ออินซูลิน ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง: สารสกัดจากแสมดำมีฤทธิ์ช่วยลดความดันโลหิต systolic (ความดันตอนหัวใจบีบตัว) และ diastolic (ความดันตอนหัวใจคลายตัว) ช่วยรักษาโรคหัวใจ: สารสกัดจากแสมดำมีฤทธิ์ต้านการเกิดออกซิเดชันของไขมันเลว (LDL) ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคหัวใจ ช่วยรักษาโรคมะเร็ง: สารสกัดจากแสมดำมีฤทธิ์ต้านมะเร็ง โดยสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งและก่อให้เกิดการตายของเซลล์มะเร็งได้ ช่วยรักษาโรคติดเชื้อ: สารสกัดจากแสมดำมีฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย เชื้อรา และไวรัส จึงสามารถนำมาใช้รักษาโรคติดเชื้อต่าง ๆ ได้
ผักคะน้า และการปลูกคะน้า ผักคะน้า ผักคะน้าเป็นผักที่มีอายุปีเดียว เป็นพืชล้มลุก ลำต้นสูง 1-2 เมตร ลำต้นตรงหรือกึ่งเลื้อย ใบประกอบแบบขนนก ขอบใบจักฟันซี่กลม ใบอ่อนมีสีเขียวอ่อน ใบแก่มีสีเขียวเข้ม ดอกช่อแบบกระจุก ออกที่ยอดสุดหรือซอกใบ ดอกย่อยสีขาว or สีเหลือง ผลเป็นฝักยาว ปลายฝักแหลม มี 2-3 เมล็ด เป็นพืชกินใบ แต่สามารถกินยอด ก้านใบ และดอกได้ด้วย การปลูกคะน้า การเตรียมดิน ผักคะน้าเจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนปนทรายหรือดินร่วนที่ระบายน้ำได้ดี มีความเป็นกรด-ด่าง (pH) ระหว่าง 6.0-6.8 ควรไถดินลึก 20-30 เซนติเมตร ตากดินไว้ 7-10 วัน แล้วใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในอัตรา 2-3 ตันต่อไร่ การเพาะเมล็ด เมล็ดผักคะน้าสามารถหยอดหรือหว่านได้ โดยหว่านในแปลงหรือเพาะในถาดเพาะ เมล็ดงอกในเวลา 3-5 วัน หลังจากนั้น เมื่อต้นกล้ามีใบจริง 2-3 คู่ ให้ถอนแยกไปปลูกในแปลงปลูก การปลูก […]
ผักเคล (curly kale) ราชินีผักใบเขียว คุณค่าทางโภชนาการสูง สรรพคุณ และวิธีปลูก ผักเคล (Curly Kale) เป็นผักใบเขียวที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากชนิดหนึ่ง อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย จึงได้รับการขนานนามว่าเป็น “ราชินีผักใบเขียว” คุณค่าทางโภชนาการของผักเคล ผักเคล (Curly Kale) มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก โดยมีสารอาหารที่สำคัญ ได้แก่ วิตามิน A, C, และ K แคลเซียม โพแทสเซียม แมกนีเซียม เหล็ก สารต้านอนุมูลอิสระ สรรพคุณของผักเคล (Curly Kale) ผักเคล (Curly Kale) มีสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย ได้แก่ ช่วยบำรุงสายตา ช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยลดน้ำหนัก ช่วยบำรุงผิวพรรณ วิธีปลูกผักเคล (Curly Kale) เตรียมดินโดยไถพรวนและใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก หว่านเมล็ดผักเคลลงไปในดินโดยให้ห่างกันประมาณ 30 เซนติเมตร รดน้ำให้ดินชุ่ม พรวนดินและกำจัดวัชพืชเป็นประจำ […]
หญ้าแดง ประโยชน์ของหญ้าแดง ต้มดื่มเป็นยาแก้ไข้ แก้ปวดหัว แก้ท้องเสีย แก้ท้องอืด แก้โรคเลือดออกตามไรฟัน แก้โรคลักปิดลักเปิด แก้โรคพุพอง แก้โรคเรื้อน : ทั้งต้น ตำพอกที่บาดแผล : ทั้งต้น รักษาแผลเป็นหนอง : ทั้งต้น รักษาโรคกระเพาะอาหาร : ทั้งต้น รักษาโรคลำไส้ : ทั้งต้น รักษาโรคตับ : ทั้งต้น รักษาโรคไต : ทั้งต้น รักษาโรคเบาหวาน : ทั้งต้น (ข้อควรระวัง : ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้) ข้อเสียของหญ้าแดง อาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ : ในบางคนอาจเกิดอาการแพ้หญ้าแดงได้ เช่น ผื่นคัน แสบร้อน ผิวหนังไหม้ หรือหายใจลำบาก อาจทำให้เกิดอาการท้องเสียได้ : การรับประทานหญ้าแดงมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการท้องเสียได้ อาจทำให้เกิดอาการปัสสาวะบ่อยได้ : การรับประทานหญ้าแดงมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการปัสสาวะบ่อยได้ (ข้อควรระวัง : ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้)
ชะอม ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ชะอมเป็นไม้พุ่มขนาดกลาง จัดอยู่ในวงศ์กระดังงา (Annonaceae) โดยมีลักษณะทางพฤกษศาสตร์ดังนี้ ลำต้น ลำต้นมีความสูงประมาณ 1-3 เมตร ลำต้นเป็นสีน้ำตาล มีเปลือกลำต้นหนาและค่อนข้างขรุขระ กิ่งก้านมีลักษณะเป็นเหลี่ยมและมีขนปกคลุมทั่วไป ใบ ใบมีลักษณะเป็นใบเดี่ยว รูปทรงใบคล้ายกับใบมะนาว มีขนาดความยาวประมาณ 10-20 เซนติเมตร และกว้างประมาณ 5-8 เซนติเมตร ขอบใบหยักเว้าลึกเป็นแฉก 3-4 แฉก โคนใบสอบและมีติ่งที่โคนก้านใบ ดอก ชะอมเป็นพืชที่แยกเพศ มีทั้งต้นตัวผู้และต้นตัวเมีย ดอกของชะอม มีลักษณะเป็นดอกสมบูรณ์เพศ ดอกของชะอมมีสีเขียวอ่อน มีขนาดค่อนข้างเล็ก มีกลีบดอก 6 กลีบ มีเกสรตัวผู้จำนวนมาก และมีเกสรตัวเมีย 1 เกสร ผล ผลของชะอมมีลักษณะเป็นผลกลุ่ม ผลย่อยแต่ละผลมีลักษณะเป็นทรงกระบอกคล้ายฝักถั่ว เปลือกผลมีสีเขียวหรือสีเขียวอมเหลือง เมื่อผลแก่จะมีสีน้ำตาลเข้ม เปลือกผลค่อนข้างแข็ง มีเมล็ดจำนวนมาก เมล็ดของชะอมจะมีขนาดเล็ก มีลักษณะเป็นทรงกลมรี มีสีน้ำตาลและมีขนปกคลุมอยู่ทั่วไป การปลูกชะอม การปลูกชะอมสามารถทำได้ง่ายโดยใช้ทั้งเมล็ดหรือกิ่งพันธุ์ โดยทั่วไปนิยมใช้กิ่งพันธุ์เพราะจะให้ผลผลิตเร็วกว่าการเพาะเมล็ด การเลือกพื้นที่ปลูก ชะอมสามารถปลูกได้ในสภาพดินที่หลากหลาย […]
กระดุมทองเลื้อย กระดุมทองเลื้อยเป็นไม้เลื้อยชนิดหนึ่งที่มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาใต้ จัดอยู่ในสกุล Passiflora วงศ์ Passifloraceae ลักษณะเด่นของกระดุมทองเลื้อยคือ มีดอกที่มีขนาดใหญ่และมีสีสันสวยงาม ดอกมีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ และกลีบดอก 5 กลีบ กลีบเลี้ยงมีขนาดใหญ่กว่ากลีบดอกและมีสีสันหลากหลาย เช่น ม่วง ขาว ชมพู เขียว กลีบดอกมีขนาดเล็กกว่ากลีบเลี้ยงและมีสีขาวหรือม่วงอ่อน นอกจากนี้ กระดุมทองเลื้อยยังมีใบที่เป็นรูปหัวใจ มีติ่งที่ขอบใบ และมีสีเขียวสด กระดุมทองเลื้อยชอบขึ้นในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง แสงแดดเพียงพอถึงรำไร และดินที่ระบายน้ำได้ดี โดยสามารถปลูกได้ทั้งในกระถางและในแปลงดิน การปลูกในกระถางควรใช้ดินร่วนปนทราย และให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ ส่วนการปลูกในแปลงดินควรขุดหลุมปลูกขนาดกว้างและลึกประมาณ 50 เซนติเมตร ผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงในดิน และรดน้ำให้ชุ่มหลังปลูก เบญจมาศเครือ เบญจมาศเครือเป็นไม้เลื้อยชนิดหนึ่งที่มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาเหนือ จัดอยู่ในสกุล Clematis วงศ์ Ranunculaceae ลักษณะเด่นของเบญจมาศเครือคือ มีดอกที่มีขนาดใหญ่และมีสีสันสวยงาม ดอกมี 4 กลีบ กลีบมีขนาดใหญ่ รูปไข่กลับ และมีสีสันหลากหลาย เช่น ขาว ม่วง ชมพู ฟ้า […]
มะตูม มะตูมเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยมีทั้งวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ ประโยชน์และสรรพคุณของมะตูม ช่วยลดน้ำหนัก: มะตูมมีเส้นใยอาหารสูง ซึ่งช่วยเพิ่มความรู้สึกอิ่ม ช่วยควบคุมความอยากอาหาร และป้องกันการรับประทานอาหารมากเกินไป ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด: มะตูมมีดัชนีน้ำตาลต่ำ และมีสารที่ช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลในเลือด ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ช่วยลดความดันโลหิตสูง: มะตูมมีโพแทสเซียมสูง ซึ่งช่วยขยายหลอดเลือดและลดความดันโลหิต ช่วยกระตุ้นการย่อยอาหาร: มะตูมมีเอนไซม์ที่ช่วยย่อยโปรตีนและไขมัน ช่วยลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และอาการกรดไหลย้อน ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน: มะตูมมีวิตามินซีสูง ซึ่งช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ช่วยปกป้องร่างกายจากการติดเชื้อ ช่วยบำรุงผิวพรรณ: มะตูมมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันผิวจากความเสียหายจากแสงแดดและมลภาวะ ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย และทำให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่งสดใส ช่วยลดอาการเสมหะ: มะตูมมีสารเมือกที่ช่วยเคลือบและลดการระคายเคืองของทางเดินหายใจ ช่วยบรรเทาอาการไอและเสมหะ
กระดังงา/การเวก กระดังงาหรือการเวก (ชื่อวิทยาศาสตร์: Cananga odorata) เป็นไม้ยืนต้นในวงศ์เดียวกับจำปี ต้นมีขนาดใหญ่ มีความสูงได้ถึง 30 เมตร ลำต้นเปลือกค่อนข้างเรียบเป็นสีเทา กิ่งอ่อนเกลี้ยงเป็นสีเขียวอมเหลือง ใบ เป็นใบเดี่ยวออกตรงข้ามกัน เป็นรูปไข่หรือรูปขอบขนานโคนใบแหลม ปลายใบเรียวแหลมมีหยักเว้าเป็นคลื่น ขอบใบเรียบเป็นสีเขียวเข้ม ดอก เป็นดอกสมบูรณ์เพศ ออกเป็นช่อกระจุกตามกิ่ง ออกดอกตลอดปี ดอกมีขนาดใหญ่ กลีบดอกหนามีหลายกลีบ กลีบนอกมีสีเขียวอ่อน กลีบในมีสีเหลืองนวลไปจนถึงสีส้ม กลิ่นหอมแรง สรรพคุณ โดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้กลีบดอก โดยนำไปสไลด์หรือบดก่อนนำไปตากแห้ง และนำดอกแห้งมาใช้ต่อไป แก้ไข้ สรรพคุณยาสมุนไพรกะดังงากล่าวไว้ว่า ใช้เปลือกและดอกแห้งของกะดังงา นำมาต้มกับน้ำดื่มเพื่อแก้ไข้ บำรุงหัวใจ ตามตำรายาไทยได้กล่าวไว้ว่า สรรพคุณของกะดังงาสามารถใช้กลีบดอกแห้งฝนกับน้ำแล้วนำมาดื่มเพื่อบำรุงหัวใจ แก้ใจสั่น บำรุงโลหิต ใช้ดอกแห้งประมาณ 5-15 กรัม ต้มกับน้ำดื่มเพื่อบำรุงโลหิต สรรพคุณของดอกกะดังงายังช่วยบรรเทาอาการวิงเวียนศรีษะได้อีกด้วย การปลูกกระดังงา การเตรียมดิน : กระดังงาชอบดินร่วนซุย มีความเป็นกรดเล็กน้อย pH 5.5-6.5 แปลงปลูกควรเตรียมให้มีขนาดกว้าง x ลึก 50 […]
ผักเขียด ผักพื้นบ้านสรรพคุณหลากชนิด ผักเขียด หรือที่เรียกกันว่า ผักขาเขียด หรือผักอฮิน เป็นผักวัชพืชที่พบได้ตามหนองนาและพื้นที่ชุ่มน้ำทั่วไป แม้ว่าจะเป็นผักวัชพืชแต่ผักเขียดก็มีสรรพคุณทางยาที่โดดเด่นมากมาย ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ผักเขียดเป็นพืชในวงศ์ชบา มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Hibiscus sagittifolius L. ลักษณะของผักเขียดคือ เป็นไม้ล้มลุกอายุปีเดียว ลำต้นมีความสูงประมาณ 1-2 เมตร ลำต้นเป็นเหลี่ยมและมีขนปกคลุม ใบมีรูปร่างคล้ายหัวลูกศร ปลายใบแหลม ขอบใบหยักเว้าลึก มีขนขึ้นปกคลุมทั้งสองด้าน ดอกมีขนาดใหญ่ กลีบดอกมีสีเหลือง มีจุดประสีแดงที่โคนกลีบ ผลเป็นฝักรูปทรงกระบอก ภายในมีเมล็ดสีดำจำนวนมาก สรรพคุณทางยา ผักเขียดมีสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย ดังนี้ แก้ไข้ ตัวร้อน ถอนพิษร้อน ขับระดู แก้โรคกระเพาะอาหาร บำรุงเลือด ลดน้ำตาลในเลือด บำรุงหัวใจ บำรุงสายตา วิธีใช้ การใช้ผักเขียดเพื่อรักษาโรคสามารถทำได้หลายวิธี เช่น ต้มน้ำดื่ม: นำส่วนใบหรือดอกผักเขียดมาต้มกับน้ำ แล้วดื่มน้ำที่ต้มได้ คั้นน้ำสด: นำส่วนใบ或ดอกผักเขียดมาคั้นน้ำสด แล้วดื่มน้ำที่ได้ ตำพอก: นำส่วนใบหรือรากผักเขียดมาตำให้ละเอียด แล้วพอกบริเวณที่ต้องการรักษา ข้อควรระวัง แม้ว่าผักเขียดจะมีสรรพคุณทางยาที่มากมาย […]