ต้อยติ่ง หรือ อังกาบ ต้อยติ่ง หรือ อังกาบ เป็นไม้ล้มลุกชนิดหนึ่ง จัดอยู่ในวงศ์เดียวกับมะเขือเทศ และมะเขือพวง มีถิ่นกำเนิดในแถบอเมริกากลาง และตอนเหนือของทวีปอเมริกาใต้ ต้อยติ่งมีชื่อเรียกที่หลากหลาย เช่น อังกาดแดง อังกฤษแดง ต้อยเต่ง กลูดิบ และผักฮังแดง ต้อยติ่ง ลำต้นสูงประมาณ 30-90 เซนติเมตร ลำต้นและกิ่งก้านมีขนเล็กปกคลุม ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก มีใบย่อยประมาณ 5-9 ใบ รูปไข่หรือรูปขอบขนาน ขอบใบหยัก และมีขนปกคลุมทั้งสองด้าน ดอกออกเป็นช่อที่ซอกใบ มีกลีบดอก 5 กลีบ สีม่วงอ่อนหรือสีขาว ผลเป็นผลเบอร์รี่ กลมแบน มีขนาดประมาณ 1-2 เซนติเมตร ผิวเรียบหรือมีขนเล็กปกคลุม เมื่อผลแก่จะมีสีแดงหรือม่วงเข้ม ประโยชน์และสรรพคุณของต้อยติ่ง ต้อยติ่ง มีสรรพคุณทางยาหลากหลาย โดยเฉพาะส่วนของใบและผล โดยส่วนต่างๆ ของต้อยติ่งสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ดังนี้ สรรพคุณทางยา ใบ บรรเทาอาการอักเสบและลดอาการปวด แก้ไข้ ลดไข้ แก้ไอ แก้เจ็บคอ […]
Tag Archives: สมุนไพร
ผักหนาม ผักป่า ใบกรอบหวาน และสรรพคุณ ผักหนาม หรือผักหนามหน่อ เป็นผักป่าที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ มักพบในพื้นที่ที่มีความชื้นสูงหรือบริเวณริมน้ำ ลำธาร ลักษณะเด่นของผักชนิดนี้คือมีใบเป็นแฉกคล้ายพัด ก้านใบเป็นหนามแหลม ใบอ่อนมีรสชาติกรอบหวาน นอกจากรับประทานเป็นอาหารแล้ว ผักหนามยังมีสรรพคุณทางยาอีกด้วย สรรพคุณของผักหนาม ผักหนามมีสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย ได้แก่ บำรุงสายตา ช่วยป้องกันโรคตาต่างๆ เช่น ต้อกระจก ต้อหิน บำรุงกระดูกและฟัน ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน ช่วยขับปัสสาวะ ลดอาการบวมน้ำ ช่วยลดน้ำหนัก ช่วยย่อยอาหาร ช่วยรักษาโรคเบาหวาน ช่วยสมานแผล ลดอาการอักเสบและระคายเคือง ช่วยบำรุงหัวใจ ลดความดันโลหิต ช่วยรักษาโรคผิวหนัง เช่น กลาก เกลื้อน
ผักเขียด/ผักขาเขียด/ผักอฮิน ผักเขียด หรือที่รู้จักในชื่อผักขาเขียดหรือผักอฮิน เป็นพืชวัชพืชที่พบได้ทั่วไปตามหนองน้ำและพื้นที่ชื้นแฉะ ในอดีตผักเขียดถูกมองว่าเป็นวัชพืชที่ไร้ประโยชน์ แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นที่นิยมในด้านสรรพคุณทางยาและการนำไปประกอบอาหาร สรรพคุณทางยา ผักเขียดมีสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย ได้แก่ ต้านการอักเสบ: มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยลดอาการปวด บวม และการอักเสบของข้อต่อและกล้ามเนื้อ ต้านแบคทีเรีย: มีสารต้านแบคทีเรียที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียก่อโรค ลดความดันโลหิต: ช่วยลดความดันโลหิตสูง บำรุงเลือด: มีสารอาหารที่ช่วยบำรุงเลือด เช่น เหล็ก และ วิตามินเอ ขับปัสสาวะ: ช่วยขับปัสสาวะ ขับสารพิษออกจากร่างกาย แก้ท้องเสีย: ช่วยบรรเทาอาการท้องเสีย การนำไปใช้ นอกจากสรรพคุณทางยาแล้ว ผักเขียดยังนำไปใช้ประกอบอาหารได้หลากหลาย เช่น ลวกหรือต้มเป็นผักเคียง นำไปผัดกับเนื้อสัตว์หรือไข่ ใช้เป็นเครื่องเคียงในเมนูส้มตำ นำไปต้มกับน้ำดื่มเป็นชาดื่ม ข้อควรระวัง แม้ว่าผักเขียดจะมีสรรพคุณทางยาหลายประการ แต่ก็ควรบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม ผู้ที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรควรงดบริโภคผักเขียด และผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือกำลังรับประทานยาบางชนิด ควรปรึกษาแพทย์ก่อนบริโภค
ชวนชม ชวนชม เป็นไม้พุ่มขนาดเล็กที่มีถิ่นกำเนิดในแถบแอฟริกาตะวันออก เป็นไม้ผลัดใบที่มีความสูงได้ถึง 3 เมตร ลำต้นมีสีน้ำตาลถึงสีเทา ใบเป็นใบเดี่ยวมีลักษณะเป็นแผ่นบางเป็นมัน มีสีเขียวเข้มเป็นมัน ดอกชวนชมมีหลายสี เช่น สีขาว แดง ชมพู ม่วง ลักษณะดอกเป็นดอกรวมที่ประกอบด้วยดอกย่อยจำนวนมาก ดอกชวนชมมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ออกดอกตลอดปี bột rau xanh Nhật Bản การปลูกชวนชม ชวนชมเป็นไม้ที่ปลูกง่ายไม่ต้องการการดูแลมากนัก เหมาะสำหรับปลูกเป็นไม้ประดับในสวนหรือปลูกในกระถางประดับภายในบ้าน โดยทั่วไปแล้วชวนชมสามารถปลูกได้ในดินร่วนระบายน้ำได้ดีและมีความเป็นกรดเล็กน้อยถึงปานกลาง นอกจากนี้ยังควรปลูกในพื้นที่ที่มีแสงแดดส่องถึงอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน การรดน้ำชวนชมควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอแต่ไม่ควรให้น้ำมากเกินไปเพราะจะทำให้รากเน่า สำหรับการให้ปุ๋ยควรใช้ปุ๋ยสูตรเสมอเช่นสูตร 15-15-15 โดยให้ปุ๋ยทุกๆ 1-2 เดือนเพื่อช่วยให้ชวนชมเจริญเติบโตได้ดีและออกดอกดก การขยายพันธุ์ชวนชมสามารถทำได้โดยการเพาะเมล็ดหรือการปักชำกิ่ง โดยทั่วไปแล้วการเพาะเมล็ดจะใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือนกว่าเมล็ดจะงอก ส่วนการปักชำกิ่งจะใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์กว่ากิ่งจะติดราก ชวนชมเป็นไม้ประดับที่สวยงามและเป็นที่นิยมปลูกกันอย่างแพร่หลาย หากคุณกำลังมองหาไม้ประดับที่ปลูกง่ายและไม่ต้องการการดูแลมากนัก ชวนชมก็เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคุณ
ผักแพว ผักแพวเป็นผักที่ปลูกง่าย พบได้ทั่วไปในประเทศไทย มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ทั้งยังมีสรรพคุณช่วยบำรุงร่างกาย แก้โรคได้หลายอย่าง สรรพคุณของผักแพว ช่วยบำรุงปอด แก้ไอ ขับเสมหะ ช่วยขับปัสสาวะ แก้กระษัยน้ำ และแก้ท้องผูก ช่วยแก้熱ใน ลดอาการอักเสบ ช่วยบำรุงเลือด แก้貧血 ฟอกโลหิต ช่วยบำรุงร่างกาย ฟื้นฟูหลังการเจ็บป่วย bột rau xanh Nhật Bản การปลูกผักแพว การเตรียมดิน: ปลูกในดินร่วนซุย น้ำไหลเวียนดี มีค่า pH ประมาณ 6-7 ผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงในดิน การเพาะกล้า: แช่เมล็ดในน้ำอุ่นประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วเพาะลงในถุงเพาะกล้าหรือกระบะเพาะเมล็ด การย้ายกล้า: เมื่อกล้ามีใบจริง 2-3 ใบ ให้ย้ายลงปลูกในแปลง โดยระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 30-50 เซนติเมตร การดูแลรักษา: รดน้ำสม่ำเสมอ ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักทุกๆ 1-2 เดือน กำจัดวัชพืชบ่อยๆ การเก็บเกี่ยว: […]
กระทือ ประโยชน์ และสรรพคุณกระทือ กระทือ เป็นพืชสมุนไพรที่พบได้ทั่วไปในประเทศไทย เป็นพืชล้มลุกที่มีอายุ 1-2 ปี ลำต้นสูงประมาณ 1-2 เมตร ใบมีลักษณะเป็นแผ่นยาว ขอบใบหยัก ดอกมีสีขาวหรือม่วง ผลเป็นฝักแบน กระทือมีสรรพคุณทางยาหลายประการ เช่น แก้ไข้ แก้หวัด ลดอาการไอ แก้บวมน้ำ ขับปัสสาวะ แก้ประจำเดือนมาไม่ปกติ แก้ปวดศีรษะ แก้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย แก้พิษงู กระทือสามารถใช้ในรูปแบบของยาต้ม ยาชง หรือยาพอกได้ โดยส่วนที่ใช้เป็นยาคือราก ลำต้น ใบ ดอก และผล ข้อควรระวัง ไม่ควรรับประทานกระทือในปริมาณมาก เพราะอาจทำให้เกิดอาการท้องร่วง และปวดท้อง สตรีมีครรภ์และให้นมบุตรไม่ควรรับประทานกระทือ ผู้ที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานกระทือ ไม่ควรรับประทานกระทือร่วมกับยาต้านลิ่มเลือด เพราะอาจทำให้เกิดการเลือดออกมากขึ้น ไม่ควรรับประทานกระทือร่วมกับยาที่เพิ่มความดันโลหิต เพราะอาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นได้ ไม่ควรรับประทานกระทือร่วมกับยาที่กระตุ้นการทำงานของระบบประสาท เพราะอาจทำให้เกิดอาการใจสั่น หัวใจเต้นเร็วได้
ปรง ปรงเป็นพืชในกลุ่มโบราณที่ยังคงหลงเหลือมาถึงปัจจุบัน โดยที่ทั่วโลกมีการแบ่งประเภทไว้ในระดับ Tribe โดยมีจำนวน 3 Tribe ได้แก่ Zamiaceae Stangeriaceae Cycadaceae ในประเทศไทยมี 2 ชนิดที่สำคัญ ได้แก่ ปรงร่ม และปรงใบพัด แยกตาม Genus ได้ดังนี้ Zamiaceae : Bowenia spectabilis Cycadaceae : Cycas siamensis Miq., Cycas revoluta Thunb. ปรงถือเป็นพืชที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจสูง ทั้งส่วนของลำต้น เมล็ด และใบ นอกจากนี้ยังสามารถนำทุกส่วนของปรงมาใช้ทำยาสมุนไพรและอาหารได้อีกด้วย ประโยชน์ของปรง ใบ ปรงมีใบสวยงามและมีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่น สามารถนำใบไปประดับตกแต่งภายในบ้านได้และนิยมปลูกในบ้านเรือน การปลูกปรงต้องระมัดระวังในการปลูก เพราะปรงมีพิษอยู่ด้วย ลำต้น ปรงมีลำต้นที่แข็งแรงและทนทาน จึงสามารถนำไปใช้ในการทำเฟอร์นิเจอร์ได้ เมล็ด เมล็ดโดยทั่วไปของปรงมีเปลือกสีขาวหุ้ม เมล็ดปรงมีทั้งชนิดที่ใช้รับประทานได้และชนิดที่ใช้ไม่ได้ หากเป็นชนิดที่กินได้จะใช้วิธีคั่วเมล็ด แล้วบดทำแป้งเช่นแป้งมันสำปะหลัง แต่ปัจจุบันแทบจะไม่พบการนำเมล็ดปรงมารับประทานแล้วเนื่องจากเป็นพืชที่หาได้ยากและเมล็ดปรงอาจมีสารพิษ ซึ่งบางท้องถิ่นอาจพบการนำเมล็ดของปริงฤาษีมานึ่งให้สุก แล้วนำมาตำละเอียด นวดจนแป้งจับตัวเป็นก้อน […]
ยี่หุบ ยี่หุบเป็นพืชสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย จัดอยู่ในวงศ์กะเพรา (Lamiaceae) มีลักษณะเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก สูงประมาณ 20-60 เซนติเมตร ใบมีขนาดเล็ก รูปไข่หรือรูปหอก มีดอกสีขาวหรือชมพูอ่อนออกเป็นช่อที่ปลายยอด ประโยชน์ของยี่หุบ ใบยี่หุบสามารถนำมาใช้เป็นยาสมุนไพรได้ทั้งแบบสดและแบบแห้ง โดยมีสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย ดังนี้ ช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ ต่อมทอนซิลอักเสบ โดยนำใบยี่หุบมาต้มกับน้ำแล้วดื่ม ช่วยบรรเทาอาการไอ แก้หลอดลมอักเสบ บรรเทาอาการหอบหืด โดยนำใบยี่หุบมาต้มกับน้ำแล้วดื่ม ช่วยรักษาโรคหอบหืด โรคหลอดลมอักเสบ โรคปอดอักเสบ โดยนำใบยี่หุบมาต้มกับน้ำแล้วดื่ม ช่วยขับเสมหะ โดยนำใบยี่หุบมาต้มกับน้ำแล้วดื่ม ช่วยย่อยอาหาร แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ขับลม โดยนำใบยี่หุบมาต้มกับน้ำแล้วดื่ม ช่วยรักษาโรคบิด โดยนำใบยี่หุบมาต้มกับน้ำแล้วดื่ม ช่วยรักษาโรคริดสีดวงทวาร โดยนำใบยี่หุบมาต้มกับน้ำแล้วใช้ล้างแผล ช่วยสมานแผล โดยนำใบยี่หุบมาตำแล้วนำมาพอกแผล ช่วยรักษาโรคหิด โดยนำใบยี่หุบมาตำผสมกับน้ำมันมะพร้าวแล้วนำมาทาที่บริเวณที่เป็นหิด ช่วยดับพิษร้อน แก้พิษผิดสำแดง โดยนำใบยี่หุบมาต้มกับน้ำแล้วดื่ม สรรพคุณของยี่หุบ รากของยี่หุบสามารถนำมาใช้เป็นยาสมุนไพรได้เช่นกัน โดยมีสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย ดังนี้ ช่วยแก้ไข้ แก้ปวดหัว ขับเหงื่อ โดยนำรากยี่หุบมาต้มกับน้ำแล้วดื่ม ช่วยแก้ไข้ตัวสั่น โดยนำรากยี่หุบมาต้มกับน้ำแล้วดื่ม ช่วยแก้ไข้ไข้หวัดใหญ่ โดยนำรากยี่หุบมาต้มกับน้ำแล้วดื่ม […]
โป๊ยเซียน/ดอกโป๊ยเซียน (Crown Of Thorns Plant) โป๊ยเซียน เป็นไม้ดอกที่มีชื่อเป็นมงคล นิยมปลูกเป็นไม้ประดับทั้งในบ้าน และนอกบ้าน และยังนิยมปลูกสำหรับเป็นไม้มงคล ทั้งยังมีความเชื่อว่า บ้านใดปลูกโป๊ยเซียนแล้ว จะทำให้คนในบ้านมีสุขภาพดี ปลอดจากโรคร้าย เพราะลักษณะดอกของโป๊ยเซียนจะมีลักษณะคล้ายๆ กับดอกบัว ซึ่งชาวจีนถือว่าดอกบัวเป็นดอกไม้แห่งความบริสุทธิ์ ไร้ซึ่งมลทิน การปลูกโป๊ยเซียน สามารถปลูกได้โดยการปักชำกิ่ง และการเพาะเมล็ด ซึ่งการปักชำกิ่งจะได้ผลดีกว่าเพราะจะได้ต้นที่แข็งแรงและเจริญเติบโตได้เร็วกว่า ส่วนการเพาะเมล็ดจะได้ผลช้ากว่า และต้นที่ได้จะไม่แข็งแรงเท่ากับการปักชำกิ่ง การปลูกโป๊ยเซียนนั้น ไม่ยุ่งยาก สามารถปลูกได้ในดินทุกชนิด แต่ดินที่เหมาะสมที่สุดคือ ดินร่วนปนทราย ส่วนการดูแลรักษา ก็ไม่ยุ่งยากมากนัก โดยให้รดน้ำเพียงวันละครั้งในช่วงเช้า แต่อย่าให้แฉะเกินไป และควรให้ปุ๋ยเดือนละ 1-2 ครั้ง โป๊ยเซียนเป็นไม้ดอกที่ดูแลรักษาง่าย ออกดอกได้ตลอดทั้งปีดอกมีสีสันสวยงาม และมีความหมายที่เป็นมงคล จึงนิยมปลูกเป็นไม้ประดับทั้งในบ้าน และนอกบ้าน
ว่านเศรษฐีเรือนนอก ว่านเศรษฐีเรือนนอก ถือว่าเป็นว่านที่เป็นมงคลนาม มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Sansevieria trifasciata เป็นพืชในวงศ์ Asparagaceae ว่านชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดในทวีปแอฟริกาตะวันตก และปัจจุบันได้กลายเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในฐานะต้นไม้ประดับ ว่านเศรษฐีเรือนนอกมีลักษณะใบยาวเรียวยาวคล้ายกับดาบ ใบมีสีเขียวเข้มสลับกับสีเหลืองหรือสีขาว และมีขอบใบเป็นสีเหลือง บางสายพันธุ์อาจมีใบที่มีสีสันแตกต่างกันออกไป ประโยชน์ของว่านเศรษฐีเรือนนอก ฟอกอากาศภายในอาคาร: ว่านเศรษฐีเรือนนอกมีคุณสมบัติในการดูดซับสารพิษในอากาศ เช่น เบนซิน ฟอร์มาลดีไฮด์ ไตรคลอไรด์เอทีลีน และไนโตรเจนไดออกไซด์ จึงช่วยให้คุณภาพอากาศภายในอาคารดีขึ้น เพิ่มความชื้นในอากาศ: ว่านเศรษฐีเรือนนอกมีคุณสมบัติในการคายน้ำในเวลากลางคืน ทำให้ช่วยเพิ่มความชื้นในอากาศภายในอาคาร ซึ่งอาจเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์: ว่านเศรษฐีเรือนนอกมีคุณสมบัติในการขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ เช่น กลิ่นบุหรี่ กลิ่นอาหาร กลิ่นสี กลิ่นสัตว์เลี้ยง เป็นต้น จึงช่วยสร้างบรรยากาศที่สดชื่นภายในอาคาร เป็นไม้มงคล: คนไทยโบราณมีความเชื่อว่าบ้านใดปลูกต้นว่านเศรษฐีเรือนนอกไว้ จะช่วยเสริมโชคลาภและความร่ำรวยให้แก่ผู้อาศัย วิธีปลูกว่านเศรษฐีเรือนนอก เตรียมดินปลูก: ว่านเศรษฐีเรือนนอกสามารถเจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนปนทรายที่มีความเป็นกรดเป็นด่างเล็กน้อย pH 6.0-6.5 ควรเตรียมดินปลูกโดยการผสมดินร่วน ทราย และปุ๋ยหมักในอัตราส่วน 2:1:1 เลือกกระถางปลูก: เลือกกระถางปลูกที่มีความสูงและความกว้างประมาณ 10-12 นิ้ว และมีรูระบายน้ำที่ก้นกระถางเพื่อให้น้ำส่วนเกินสามารถไหลออกได้ ปลูกว่านเศรษฐีเรือนนอก: นำต้นว่านเศรษฐีเรือนนอกที่เตรียมไว้ลงปลูกในกระถางที่เตรียมไว้ […]