Tag Archives: พืชไร่

ถั่วดาวอินคา สรรพคุณ และการปลูกถั่วดาวอินคา

ถั่วดาวอินคา ถั่วพันธุ์หายาก อุดมไปด้วยประโยชน์ ถั่วดาวอินคา หรือที่รู้จักกันในชื่อ Quechua เป็นถั่วพันธุ์หายากที่มีถิ่นกำเนิดในเทือกเขาแอนดีสของเปรู ปัจจุบันถั่วดาวอินคาได้รับการปลูกในหลายประเทศทั่วโลก เนื่องจากมีคุณค่าทางโภชนาการสูงและมีสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย สรรพคุณทางยาของถั่วดาวอินคา ถั่วดาวอินคาอุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญ เช่น ไฟเบอร์ โปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุ โดยมีสรรพคุณทางยาที่โดดเด่นดังนี้ ลดคอเลสเตอรอล: ไฟเบอร์ในถั่วดาวอินคาช่วยลดการดูดซับคอเลสเตอรอลในลำไส้ ส่งผลให้ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดลดลง ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด: ไฟเบอร์ยังช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด ช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ ต้านมะเร็ง: ถั่วดาวอินคาอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ สารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้มีความเกี่ยวข้องกับการลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งบางชนิด ต้านการอักเสบ: ถั่วดาวอินคามีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยลดอาการอักเสบในร่างกาย ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของโรคเรื้อรังต่างๆ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน: ถั่วดาวอินคาอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุซึ่งจำเป็นต่อระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง วิตามินซีและสังกะสีเป็นสารอาหารสำคัญที่สนับสนุนระบบภูมิคุ้มกัน การปลูกถั่วดาวอินคา การปลูกถั่วดาวอินคานั้นค่อนข้างง่าย และสามารถปลูกได้ในพื้นที่ต่างๆ มีขั้นตอนดังนี้ เลือกเมล็ดพันธุ์: ใช้เมล็ดพันธุ์ถั่วดาวอินคาที่ได้มาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เตรียมดิน: ขุดดินให้ลึกประมาณ 6-8 นิ้ว และเติมปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก ปลูก: ปลูกเมล็ดลึกประมาณ 1 นิ้ว และเว้นระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 6-8 นิ้ว รดน้ำ: รดน้ำให้ชุ่มหลังจากปลูกและรดน้ำสม่ำเสมอโดยเฉพาะในช่วงที่อากาศแห้ง ใส่ปุ๋ย: ใส่ปุ๋ยให้ต้นถั่วทุกๆ […]

ต้อยติ่ง/อังกาบ ประโยชน์ และสรรพคุณต้อยติ่ง

ต้อยติ่ง/อังกาบ ต้อยติ่งหรืออังกาบ เป็นสมุนไพรที่ใช้กันมาตั้งแต่โบราณ มีลักษณะเป็นส่วนที่ยื่นยาวออกจากต้นอย่างไม่มีใบ เรียกว่า “ก้านอ่อน” หรือ “ยอดอ่อน” นิยมนำมาประกอบอาหาร เนื่องจากมีรสชาติหวานกรอบ อีกทั้งยังมีสรรพคุณทางยามากมายอีกด้วย ประโยชน์และสรรพคุณของต้อยติ่ง บำรุงหัวใจและหลอดเลือด: ต้อยติ่งอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด รักษาความแข็งแรงของหลอดเลือด และลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด รักษาโรคเบาหวาน: สารสกัดจากต้อยติ่งช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ นอกจากนี้ยังมีสารที่ช่วยซ่อมแซมเซลเบต้าในตับอ่อนซึ่งทำหน้าที่ผลิตอินซูลิน บำรุงกระดูกและข้อ: ต้อยติ่งช่วยบำรุงกระดูกและข้อให้แข็งแรง กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินบริเวณข้อต่อ ช่วยลดอาการปวดข้อในผู้สูงอายุ ต้านมะเร็ง: สารสกัดจากต้อยติ่งมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งปอด และมะเร็งเม็ดเลือดขาว ระงับอาการอักเสบ: ต้อยติ่งมีสารที่ออกฤทธิ์เป็นยาต้านการอักเสบ ช่วยลดอาการอักเสบในร่างกาย เช่น โรคไขข้อ โรคข้ออักเสบ และอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ บำรุงสายตา: ต้อยติ่งอุดมไปด้วยสารลูทีนและซีแซนทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีบทบาทสำคัญในการบำรุงสายตา ป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อมและโรคต้อกระจก ลดการติดเชื้อ: สารสกัดจากต้อยติ่งมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสบางชนิด จึงช่วยลดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ระบบทางเดินอาหาร และระบบทางเดินปัสสาวะได้

ว่านเสน่ห์จันทร์แดง ความเป็นมงคล ประโยชน์ สรรพคุณ และการปลูกว่านเสน่ห์จันทร์แดง

ว่านเสน่ห์จันทร์แดง มหามงคล ว่านเสน่ห์จันทร์แดง มีลักษณะโดดเด่นที่ใบที่มีสีสันสวยงาม คล้ายกับว่านเสน่ห์จันทร์เขียว แต่มีขนาดใหญ่กว่าและมีสีแดงชัดเจน ว่านชนิดนี้มีความเชื่อในทางมงคลว่าเป็นเสน่ห์เมตตามหานิยม ช่วยให้เป็นที่รักใคร่ของผู้พบเห็น นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย เช่น ประโยชน์และสรรพคุณ ใช้ทาแก้ฝี แก้แผล ใช้พอกแผล ช่วยสมานแผล ใช้พอกแก้แมลงสัตว์กัดต่อย ใช้ทาแก้กลากเกลื้อน การปลูก ว่านเสน่ห์จันทร์แดงเจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุยที่มีการระบายน้ำดี ชอบแสงแดดรำไรถึงแดดจัด ควรปลูกในกระถางหรือแปลงที่มีขนาดเล็กและถ่ายเทอากาศได้ดี รดน้ำเพียงพอ ไม่ให้แฉะหรือแห้งจนเกินไป ว่านชนิดนี้ขยายพันธุ์โดยการแยกหน่อจากต้นแม่

บัวบกโขด/บัวบกโคก ไม้ป่าประดับยอดนิยม ใบทำวุ้น และสรรพคุณเด่น

บัวบกโขด ไม้ป่าประดับยอดนิยม บัวบกโขด หรือบัวบกโคก มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Centella cordifolia เป็นพืชในวงศ์ผักชี มีชื่อท้องถิ่นอื่นๆ ได้แก่ บัวบกชี, ผักโขด, ปลาสะก๊าด และหญ้าปากเป็ด ลักษณะเด่นคือ มีใบกลมรีคล้ายรูปหัวใจ เนื้อใบหนากมีสีเขียวเข้ม ขอบใบมีหยักฟันเลื่อย ผิวสัมผัสใบมีขนเล็กๆ ทั่วทั้งใบ บัวบกโขดเป็นพรรณไม้ป่า แต่ปัจจุบันนิยมปลูกเป็นไม้ประดับ เพราะมีรูปทรงใบและสีสันที่สวยงาม มีการแตกก้านช่อดอกที่ยาว ทอดตัวไปตามพื้นดิน ออกดอกเป็นช่อขนาดเล็กสีขาว มีกลีบดอก 5 กลีบ กลีบดอกโค้งงอเข้าหาก้านดอก เมื่อดอกบานเต็มที่สูงขึ้นจากพื้นได้เพียงเล็กน้อย สรรพคุณของบัวบกโขด นอกจากความสวยงามในการปลูกเป็นไม้ประดับแล้ว บัวบกโขดยังมีสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย ได้แก่ ช่วยสมานแผล: ใบบัวบกโขดมีสารเคมีที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนัง จึงมีสรรพคุณช่วยรักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก แผลฟกช้ำ แผลหลังผ่าตัด และแผลเป็น รักษาโรคกระเพาะ: สารไกลโคไซด์ในใบบัวบกโขด ช่วยเคลือบกระเพาะอาหาร ลดอาการอักเสบ และรักษาแผลในกระเพาะอาหาร บำรุงสมองและความจำ: สารไกลโคไซด์และสารต้านอนุมูลอิสระในใบบัวบกโขด ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในสมอง ลดอาการสมองเสื่อมและความจำเสื่อม ลดการอักเสบ: สารต้านอักเสบในใบบัวบกโขด ช่วยลดการอักเสบของข้อและกล้ามเนื้อ ลดอาการปวดบวม […]

กล้วยเล็บมือนาง ประโยชน์ และการปลูกกล้วยเล็บมือนาง

กล้วยเล็บมือนาง กล้วยเล็บมือนางเป็นกล้วยสายพันธุ์หนึ่งที่มีลักษณะผลเป็นสีเหลืองปนเขียวหรือเหลืองอมชมพู ผิวบาง เนื้อนุ่ม หวาน หอม มีเมล็ดดำขนาดเล็กหลายเมล็ด นิยมรับประทานกันทั้งแบบดิบและแบบสุก ประโยชน์ของกล้วยเล็บมือนาง กล้วยเล็บมือนางมีประโยชน์มากมาย ดังนี้ ให้พลังงานสูง เหมาะสำหรับการรับประทานก่อนออกกำลังกายหรือหลังจากออกกำลังกาย อุดมไปด้วยวิตามินซี ซึ่งช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน มีโพแทสเซียมสูง ซึ่งช่วยรักษาสมดุลของน้ำในร่างกายและควบคุมความดันโลหิต มีใยอาหารสูง ซึ่งช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี ช่วยลดอาการท้องผูก ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง การปลูกกล้วยเล็บมือนาง สามารถปลูกกล้วยเล็บมือนางได้ด้วยวิธีการดังนี้ การเตรียมดิน กล้วยเล็บมือนางเจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุย ดินร่วนปนทราย หรือดินร่วนปนดินเหนียว มีความเป็นกรดเป็นด่างประมาณ 5.5-6.5 ควรไถพรวนดินให้ลึกประมาณ 30-40 เซนติเมตร ตากดินทิ้งไว้ประมาณ 1-2 สัปดาห์ การเตรียมต้นพันธุ์ นิยมใช้หน่อของกล้วยเล็บมือนางที่มีอายุประมาณ 8-12 เดือนมาเป็นต้นพันธุ์ ควรเลือกหน่อที่สมบูรณ์ แข็งแรง ไม่มีโรคและแมลงศัตรูพืช การปลูก ขุดหลุมปลูกขนาดกว้างประมาณ 50-60 เซนติเมตร ลึกประมาณ 50-60 เซนติเมตร ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไปในหลุมปลูก รองก้นหลุมด้วยใบไม้หรือฟางข้าว วางหน่อพันธุ์ลงในหลุมแล้วกลบดินให้แน่น รดน้ำให้ชุ่ม การดูแล […]

หญ้าหวายข้อ ประโยชน์ และการปลูกหญ้าหวายข้อ

หญ้าหวายข้อ หญ้าหวายข้อ (Orthosiphon stamineus Benth.) เป็นพืชล้มลุกในวงศ์กะเพรา มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีลำต้นตรงตั้ง สีเขียวอมแดง ใบเดี่ยว ออกตรงข้ามกัน รูปหอก ปลายแหลม ขอบหยักเป็นฟันเลื่อย ดอกช่อแบบช่อกระจะ ออกที่ปลายยอด มีกลีบดอกสีม่วงอ่อน กาบหุ้มดอกเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 5 แฉก ผลแห้งแตกได้ มีเมล็ดขนาดเล็กจำนวนมาก หญ้าหวายข้อมีสรรพคุณทางยาหลายประการ เช่น ขับปัสสาวะ ลดความดันโลหิตสูง แก้กระษัย บำรุงไต ลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ต้านการอักเสบ ประโยชน์ของหญ้าหวายข้อ หญ้าหวายข้อมีประโยชน์มากมายทั้งทางด้านสุขภาพและการเกษตร ได้แก่ ใช้เป็นยาสมุนไพรเพื่อรักษาโรคต่างๆ ตามสรรพคุณที่กล่าวมาข้างต้น ใช้เป็นชาสมุนไพรดื่มเพื่อบำรุงสุขภาพ ใช้เป็นอาหารสัตว์ เช่น วัว ควาย แพะ ใช้เป็นปุ๋ยพืชสด เนื่องจากมีไนโตรเจนสูงและสามารถย่อยสลายได้ง่าย ใช้เป็นวัสดุปกคลุมดินเพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำในดินและป้องกันวัชพืช การปลูกหญ้าหวายข้อ หญ้าหวายข้อสามารถปลูกได้ง่ายในดินทุกประเภท โดยไม่ต้องดูแลมากนัก ขั้นตอนการปลูกมีดังนี้ เตรียมดินโดยไถพรวนให้ร่วนซุย หว่านเมล็ดหญ้าหวายข้อลงในแปลงปลูก กดดินให้แน่นเพื่อให้เมล็ดสัมผัสกับดิน รดน้ำให้ชุ่ม ดูแลโดยรดน้ำสม่ำเสมอและกำจัดวัชพืช หญ้าหวายข้อจะเริ่มงอกภายใน […]

ผักชีฝรั่ง สรรพคุณ และการปลูกผักชีฝรั่ง

ผักชีฝรั่ง สรรพคุณ และการปลูกผักชีฝรั่ง ผักชีฝรั่งเป็นผักพื้นบ้านที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย นอกจากนี้ ผักชีฝรั่งยังเป็นพืชที่ปลูกง่ายและดูแลรักษาง่าย จึงเป็นที่นิยมปลูกกันอย่างแพร่หลายในครัวเรือน สรรพคุณของผักชีฝรั่ง ผักชีฝรั่งมีสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย ได้แก่ ช่วยลดความดันโลหิตสูง ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา ช่วยลดอาการท้องเสีย ช่วยลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยขับลมในลำไส้ ช่วยเจริญอาหาร ช่วยลดอาการปวดหัว ช่วยลดอาการวิงเวียนศีรษะ ช่วยบำรุงสายตา ช่วยบำรุงหัวใจ การปลูกผักชีฝรั่ง ผักชีฝรั่งเป็นพืชที่ปลูกง่ายและดูแลรักษาง่าย สามารถปลูกได้ทั้งในดินและในกระถาง โดยมีวิธีการปลูกดังนี้ การเตรียมดิน ดินที่ใช้ปลูกผักชีฝรั่งควรเป็นดินร่วนปนทรายที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง มีค่า pH ระหว่าง 6.0-6.8 หากดินมีค่า pH ต่ำกว่า 6.0 ควรใส่ปูนขาวเพื่อปรับสภาพดิน การเตรียมเมล็ดพันธุ์ เมล็ดพันธุ์ผักชีฝรั่งสามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าเกษตรทั่วไป ก่อนปลูกควรแช่เมล็ดพันธุ์ในน้ำอุ่นประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อช่วยให้เมล็ดงอกเร็วขึ้น การปลูก ขุดหลุมปลูกให้มีขนาดกว้างประมาณ 10 เซนติเมตร ลึกประมาณ 5 เซนติเมตร หว่านเมล็ดพันธุ์ลงในหลุมปลูกประมาณ 2-3 เมล็ด แล้วกลบดินบางๆ […]

ว่านเสน่ห์จันทร์แดง ความเป็นมงคล ประโยชน์ สรรพคุณ และการปลูกว่านเสน่ห์จันทร์แดง

ว่านเสน่ห์จันทร์แดง เป็นว่านที่อยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน มีความเชื่อว่าเป็นว่านมงคลที่ช่วยเสริมเสน่ห์ ดึงดูดเพศตรงข้าม และเสริมดวงชะตาให้ดีขึ้น ว่านเสน่ห์จันทร์แดงเป็นว่านล้มลุกขนาดเล็ก มีลำต้นสีเขียวอ่อน แตกหน่อได้มาก ใบเป็นใบเดี่ยว รูปรีแกมใบหอก ขอบใบหยักเป็นคลื่นเล็กน้อย ดอกออกเป็นช่อแบบซี่ร่มที่ปลายกิ่ง ดอกย่อยมีขนาดเล็ก สีแดงอมม่วง กลีบดอกมี 5 กลีบ ผลเป็นแบบผลแห้งแตกได้ ความเป็นมงคล มีความเชื่อว่าว่านเสน่ห์จันทร์แดงเป็นว่านมงคลที่ช่วยเสริมเสน่ห์ ดึงดูดเพศตรงข้าม และเสริมดวงชะตาให้ดีขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมเสน่ห์และดึงดูดเพศตรงข้าม ประโยชน์และสรรพคุณ ใบนำไปตำให้ละเอียดหรือโขลกให้แหลกแล้วผสมน้ำสะอาดเล็กน้อย ใช้เป็นยารักษาโรคผิวหนัง เช่น กลาก เกลื้อน ผดผื่นคัน ใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางช่วยบำรุงผิวพรรณให้เนียนนุ่มสดใส ช่วยดับพิษร้อน แก้ไข้ แก้ท้องร่วง และขับเสมหะ ขับระดู สามารถป้องกันมดปลวกและแมลงกัดต่อยได้เมื่อนำไปวางไว้ตามมุมบ้านหรือใกล้เตียงนอน วิธีปลูกและดูแลว่านเสน่ห์จันทร์แดง ดินสำหรับปลูกและดูแลว่านเสน่ห์จันทร์แดง ควรเป็นดินร่วนปนทรายที่มีความระบายน้ำดี ใช้ปุ๋ยและน้ำในการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม การรดน้ำ ควรรดน้ำให้ชุ่มอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ควรให้แฉะเกินไป แสงแดด อยากให้โดนแดดแดดรำไร การใส่ปุ๋ย ควรใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักทุกๆ 1-2 เดือน โรคและแมลงศัตรูพืช ควรหมั่นตรวจสอบว่านเสน่ห์จันทร์แดงเพื่อดูแลรักษาโรคและกำจัดแมลงศัตรูพืชอย่างเหมาะสม

พลับพลึงธาร/หญ้าช้อง/หอมน้ำ พืชน้ำที่พบแห่งเดียวบนโลก

พลับพลึงธาร/หญ้าช้อง/หอมน้ำ พืชน้ำที่พบแห่งเดียวบนโลก พลับพลึงธาร หรือ หญ้าช้อง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Blyxa japonica) หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า พลับพลึงน้ำ เป็นพืชน้ำชนิดหนึ่งในวงศ์ Hydrocharitaceae ซึ่งเป็นพืชน้ำตระกูลเดียวกันกับกระจูด สาหร่ายขนนก คะน้าญี่ปุ่น และสาหร่ายจอก ต้นพลับพลึงธารมีลักษณะลำต้นเป็นเหง้าสั้นใต้พื้นน้ำ ใบเป็นรูปใบหอกยาว เรียงซ้อนสลับกันไปคล้ายดอกกุหลาบ มีดอกสีม่วงอ่อน ออกเป็นกระจุกตามซอกใบ ผลเป็นทรงรีมีเมล็ดหลายเมล็ด พบได้ทั่วไปในแหล่งน้ำ เช่น บึง หนอง คลอง บริเวณที่มีน้ำใสสะอาดและมีแดดส่องถึง มีความแปลกของดอกที่ออกหันหน้าขึ้นสู่ผิวน้ำในตอนกลางวัน และจะหุบลำตัวกลับลงใต้ดินในตอนเย็น ประโยชน์ พลับพลึงธารเป็นพืชน้ำที่นิยมนำมาปลูกเพื่อความสวยงามในบ่อบัว บ่อปลา เพราะมีรูปทรงที่สวยงามและดอกมีสีสันที่สดใส นอกจากนี้แล้ว พลับพลึงธารยังมีสรรพคุณทางยา โดยเหง้านำมาตุ๋นกับน้ำจนเปื่อยแล้วคั้นเอาแต่น้ำ แบ่งรับประทานครั้งละ 1 ช้อนแกง จะช่วยแก้อาการโรคหอบ หอบหืด และช่วยขับเสมหะได้ ส่วนรากนำมาคั้นเอาน้ำดื่ม จะช่วยแก้อาการโรคไตอักเสบได้ ความน่าสนใจ พลับพลึงธารเป็นพืชน้ำที่พบเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น เนื่องจากมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโต จึงทำให้เป็นพืชที่หายากและมีคุณค่าสูง

แสมดำ ประโยชน์ และสรรพคุณแสมดำ

แสมดำ ประโยชน์ และสรรพคุณแสมดำ แสมดำ (ชื่อวิทยาศาสตร์: Bruguiera gymnorrhiza) เป็นพืชในวงศ์ Rhizophoraceae เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ มีความสูงได้ถึง 20 เมตร ลำต้นมีสีดำ เปลือกมีรสฝาดเล็กน้อย ใบเป็นใบเดี่ยวออกตรงข้ามแบบไขว้ รูปไข่ขอบขนานหรือรูปไข่กลับ ปลายใบแหลม โคนใบมน ก้านใบยาว เนื้อใบหนา สีเขียวเข้ม ออกดอกเป็นช่อ ดอกเพศผู้มีกลีบดอก 4 กลีบ ดอกเพศเมียมีกลีบดอก 8 กลีบ ผลสดมี 1 เมล็ด รูปร่างคล้ายตัว S แสมดำเป็นพืชที่ขึ้นอยู่ในป่าชายเลน สามารถทนทานต่อน้ำทะเลและดินเค็มได้ดี จึงนิยมนำมาปลูกเพื่อป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง แสมดำเป็นแหล่งหากินของสัตว์น้ำต่างๆ และเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อนอีกด้วย ประโยชน์ของแสมดำ ใช้เป็นฟืนและไม้เผา แสมดำเป็นไม้ที่มีเนื้อแข็งจึงสามารถนำมาใช้เป็นฟืนและไม้เผาได้ดี ใช้ในการก่อสร้าง แสมดำเป็นไม้ที่มีความแข็งแรงทนทาน จึงนิยมนำมาใช้ในการก่อสร้าง เช่น ทำเสาบ้าน ทำสะพาน ทำท่าเรือ เป็นต้น ใช้ในการทำเครื่องมือเครื่องใช้ แสมดำสามารถนำมาใช้ในการทำเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ เช่น ทำด้ามขวาน ทำด้ามมีด […]