Tag Archives: พืชไร่

คนทีสอ ประโยชน์ และสรรพคุณคนทีสอ

คนทีสอ คนทีสอ (ชื่อวิทยาศาสตร์: Cassia fistula L.) เป็นพันธุ์ไม้ยืนต้นในสกุลชงโค (Cassia) จัดอยู่ในวงศ์ถั่ว (Fabaceae) ต้นคนทีสอมีลักษณะเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ลำต้นตรง เปลือกต้นสีน้ำตาลอมเทา ใบเป็นใบประกอบแบบขนนกปลายคี่ แผ่นใบย่อยมีรูปร่างมนรี ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ ดอกออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง กลีบดอกมีสีเหลืองสด ผลเป็นฝักแบนเรียวยาว ภายในมีเนื้อเยื่อสีน้ำตาลดำและเมล็ดจำนวนมาก ประโยชน์ของคนทีสอ เนื้อไม้ ใช้ทำเฟอร์นิเจอร์และของใช้ต่างๆ เปลือกไม้ ใช้เป็นยาถ่ายพยาธิและยาขับปัสสาวะ ใบ ใช้เป็นยาแก้ไข้ แก้ไอ และลดความดันโลหิต ดอก ใช้เป็นยาแก้โรคผิวหนังและยาบำรุงหัวใจ ผล ใช้เป็นยาถ่าย และรักษาโรคระบบทางเดินอาหาร สรรพคุณของคนทีสอ แก้มื้อเรื้อรัง และอาการท้องผูก ช่วยเพิ่มการเคลื่อนไหวของลำไส้และช่วยหล่อลื่นลำไส้ ทำให้ขับถ่ายได้ง่ายขึ้น รักษาโรคผิวหนัง ช่วยลดการอักเสบและการระคายเคืองของผิวหนัง บรรเทาอาการท้องเสีย ช่วยดูดซับน้ำส่วนเกินในลำไส้ ทำให้ถ่ายได้น้อยลง บรรเทาอาการปวดท้อง ช่วยลดการเกร็งของกล้ามเนื้อในลำไส้ ลดความดันโลหิตสูง ช่วยขยายหลอดเลือดและลดความต้านทานต่อการไหลเวียนของเลือด ลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยกระตุ้นการผลิตอินซูลิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยขนส่งน้ำตาลจากเลือดเข้าสู่เซลล์ ต่อต้านการอักเสบ ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง […]

ผักคะน้า และการปลูกคะน้า

ผักคะน้า ผักคะน้าเป็นผักชนิดหนึ่งที่มีอายุสั้นและเติบโตได้อย่างรวดเร็ว มักนิยมบริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยสามารถปลูกได้ทั้งในฤดูฝนและฤดูหนาว ซึ่งผักคะน้าสามารถนำมาบริโภคได้ทั้งใบและดอก แต่ส่วนมากจะนิยมนำยอดและใบอ่อนมารับประทานมากกว่า ผักคะน้าจัดเป็นผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงอุดมไปด้วยวิตามิน A B1 C และ K นอกจากนี้ยังมีเกลือแร่และแคลเซียมอยู่เป็นจำนวนมาก การปลูกคะน้า ขั้นตอนเตรียมเมล็ดคะน้า การเตรียมเมล็ดพันธุ์คะน้าสำหรับปลูกสามารถทำได้ด้วยการนำเอาเมล็ดพันธุ์ที่เก็บไว้มาแช่น้ำแล้วจึงนำไปเพาะลงในแปลงเพาะที่มีการเตรียมดินไว้เรียบร้อยแล้ว เมื่อเพาะเมล็ดเสร็จเรียบร้อยแล้วควรนำวัสดุมุงหลังฟางคลุมแปลงเพาะไว้เพื่อรักษาความชื้นและเร่งการงอกของเมล็ดพันธุ์ ขั้นตอนเตรียมดินปลูกคะน้า ควรเลือกใช้ดินร่วนหรือดินร่วนปนทรายที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงโดยเกษตรกรส่วนใหญ่จะนิยมใช้ปุ๋ยคอกเก่าหรือปุ๋ยพืชสดมาคลุกเคล้าลงในดินเพื่อช่วยเร่งการเจริญเติบโตของผักคะน้า การไถพรวนดินให้ลึก 20-30 เซนติเมตร และตากดินทิ้งไว้จนดินแห้งจึงจึงย่อยดินให้ละเอียดอีกรอบพร้อมแบ่งเป็นแปลงปลูกที่มีขนาดความกว้างแปลง 1 เมตรและระยะระหว่างแปลง 50 เซนติเมตร ขั้นตอนการปลูกผักคะน้า หลังจากไถเตรียมดินและแปลงปลูกเรียบร้อยแล้วก็นำต้นกล้าที่ได้เตรียมไว้หย่อนลงหลุมปลูกทันทีโดยเว้นระยะระหว่างต้น 20-30 เซนติเมตร และหลังจากปลูกเสร็จแล้วควรรดน้ำให้ทั่วแปลงปลูก เกษตรกรจะเริ่มเก็บเกี่ยวผักคะน้าได้ในระยะตั้งแต่เพาะปลูก 45-55 วัน การดูแลรักษาผักคะน้า หลังจากปลูกผักคะน้าแล้วจะต้องหมั่นดูแลรักษาโดยการรดน้ำ 2 ครั้งต่อวัน การใส่ปุยหมักหรือปุ๋ยอินทรีย์เพื่อเร่งการเจริญเติบโต การกำจัดวัชพืช การกำจัดโรคและแมลงที่อาจเกิดขึ้นกับแปลงปลูกผักคะน้า นอกจากนี้เมื่อผักคะน้ามีอายุได้ 20-25 วันเกษตรกรจะทำการเด็ดยอดออกเพื่อให้แตกรุ่นเพิ่มผลผลิตที่สูงขึ้นนั่นเอง

วิธีปลูก และดูแลทุเรียนเล็กหลังปลูกจนถึงก่อนออกดอกให้รอด

วิธีการปลูกทุเรียนเล็ก เลือกกิ่งพันธุ์: เลือกกิ่งพันธุ์จากต้นแม่พันธุ์ที่ดี ให้คัดเลือกกิ่งที่ออกมาจากกิ่งแบบเปิดใบที่มีคุณภาพดี คือใบไม่มีรอยโรคแมลง อายุของกิ่งอย่างน้อย 4 ครั้ง เตรียมดิน: ดินถึงจะต้องร่วนซุย น้ำไม่ขัง ไม่เป็นกรด ขุดหลุม: ขนาดหลุม 50 x 50 x 50 เซนติเมตร รองก้นหลุม: ใช้วัสดุรองก้นหลุม ได้แก่ ปุ๋ยคอกเก่า ปุ๋ยหมัก และแกลบสด คลุกเคล้ากัน ปลูกต้นทุเรียน: นำต้นทุเรียนลงปลูกในหลุม ระวังอย่าให้รากหัก จากนั้นกลบดินระหว่างโคนต้นและราก รดน้ำ: หลังจากปลูกแล้ว รดน้ำให้โชก ตัดแต่งกิ่ง: ตัดแต่งกิ่งโดยใช้กรรไกรตัดกิ่งที่สะอาด ตัดกิ่งที่เป็นโรค กิ่งที่ไม่มีคุณภาพ วิธีการดูแลทุเรียนเล็กหลังการปลูกจนถึงก่อนออกดอก รดน้ำ: หลังจากปลูกแล้ว รดน้ำให้โชก จากนั้นรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ โดยให้ความชื้นในดินประมาณ 60-70% ใส่ปุ๋ย: ให้ปุ๋ยสูตร 15-5-20 หรือ 16-16-16 โดยใส่ทุก 1 เดือน ในช่วงหลังการปลูก 6 […]

มะปราง มะยงชิด และการปลูกมะปรางมะยงชิด

มะปรางและมะยงชิดเป็นผลไม้อร่อยที่ปลูกในประเทศไทย มะปรางเป็นผลไม้ที่มีเปลือกสีเขียวหรือทอง และมีเนื้อสีขาว มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว ส่วนมะยงชิดมีลักษณะคล้ายมะปราง แต่มีเปลือกสีแดง และมีเนื้อสีขาวหรือสีเหลือง มีรสชาติหวานและกรอบ การปลูกมะปรางและมะยงชิด มะปรางและมะยงชิดสามารถปลูกได้ในดินทุกประเภท แต่จะเจริญเติบโตได้ดีที่สุดในดินร่วนซุยที่มีการระบายน้ำที่ดี ควรปลูกในที่ที่มีแสงแดดส่องถึงตลอดวัน การเตรียมดิน เตรียมดินโดยการไถพรวนให้ลึกประมาณ 30 เซนติเมตร ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในอัตรา 1-2 ตันต่อไร่ คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วรดน้ำให้ชุ่ม การปลูก ขุดหลุมปลูกขนาด 60 x 60 x 60 เซนติเมตร เว้นระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 6-8 เมตร ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักรองก้นหลุมในอัตรา 1 กิโลกรัมต่อหลุม ผสมกับดินปลูก แล้วนำกิ่งพันธุ์ลงปลูก กดดินให้แน่น รดน้ำให้ชุ่ม การดูแลรักษา รดน้ำให้มะปรางและมะยงชิดเป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในอัตรา 1-2 กิโลกรัมต่อต้น ทุกๆ 3-4 เดือน ตัดแต่งกิ่งที่แห้งหรือเป็นโรคออก เพื่อให้ต้นมะปรางและมะยงชิดเจริญเติบโตได้ดี การเก็บเกี่ยว มะปรางและมะยงชิดจะเริ่มให้ผลผลิตหลังจากปลูกประมาณ 3-4 ปี เมื่อผลไม้แก่จัดแล้วจึงสามารถเก็บเกี่ยวได้ […]

บอนเต่า บอนป่า ใช้ทำกับข้าว ปลูกเป็นไม้ประดับ และสรรพคุณเด่น

บอนเต่า บอนป่า บอนเต่าและบอนป่าเป็นพืชที่รู้จักกันดีในกลุ่มผู้ชื่นชอบการปลูกต้นไม้และผู้ที่แสวงหาสมุนไพรธรรมชาติเนื่องจากบอนเต่าและบอนป่าเป็นพืชที่มีความโดดเด่นทั้งในด้านรูปลักษณ์ การใช้งาน และสรรพคุณทางยา บอนเต่ามีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Alocasia odora (Lodd.) Sweet ส่วนบอนป่ามีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Colocasia esculenta (L.) Schott ซึ่งทั้งคู่เป็นพืชหัวที่มีถิ่นกำเนิดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่บอนเต่ามักถูกเรียกว่า “บอนป่า” เนื่องจากมีความคล้ายคลึงกันในลักษณะของลำต้นและใบ โดยทั่วไปแล้ว บอนเต่าและบอนป่ามีลักษณะทางกายภาพดังนี้: ลำต้น: ทั้งคู่มีลำต้นใต้ดินที่บวมออกคล้ายหัว มีสีขาวหรือสีเหลือง และอุดมไปด้วยสารอาหาร ใบ: ใบของบอนเต่าและบอนป่า ค่อนข้างโค้ง ตลับใบขนาดใหญ่ ให้สีสันสดใส ดอก: ออกดอกเป็นช่อที่เรียกว่า “ซองกาบ” ซึ่งมีรูปร่างแปลกตาและงดงามบานในระยะเวลาไม่นานนัก ผล: ผลของบอนเต่าจะเป็นผลสีแดงและมีรสเผ็ดร้อนในขณะที่ผลของบอนป่าจะเป็นผลสีเหลืองและมีรสชาติหวาน ข้อแตกต่าง: บอนเต่าจะมีลำต้นที่เตี้ยกว่าและมีสีของใบที่แตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ ในขณะที่บอนป่าจะมีลำต้นที่สูงกว่าและมีสีของใบที่เป็นสีเขียวเข้ม การใช้ประโยชน์บอนเต่าและบอนป่า จากข้อมูลที่กล่าวมาแล้ว บอนเต่าและบอนป่านับเป็นพืชที่มีประโยชน์มากมายและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ดังนี้: ใช้ประกอบอาหาร: คนไทยนิยมใช้หัวของบอนเต่าและบอนป่าเพื่อนำมาประกอบอาหารหลายประเภท เช่น แกงเผ็ด แกงส้ม ต้มจืด แกงเลียง และอื่นๆ นอกจากนี้ ยังสามารถรับประทานเป็นผักสดในสลัดหรือเมนูอื่นๆ ได้ ทำเป็นไม้ประดับ: ทั้งสองพืชนี้ยังเป็นไม้ประดับยอดนิยม […]

โลดทะนงแดง ทานอาเจียน เด่นช่วยผิวขาว ขัดเซลล์ผิว ลดรอยหมองคล้ำ

โลดทะนงแดง คืออะไร? โลดทะนงแดงเป็นต้นไม้ในตระกูลเดียวกันกับว่านเสน่ห์จันทร์ นิยมปลูกเป็นไม้มงคล คนโดยทั่วไปมักใช้เป็นส่วนผสมของพืชสมุนไพรต่างๆ ส่วนประกอบสำคัญ ได้แก่ กลีเซอรีน, ไพล, ว่านหางจระเข้ มะหาด, ขมิ้นชัน สรรพคุณช่วยแก้สิว ทาแล้วรู้สึกเย็นสบาย ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียซึ่งทำให้เกิดสิว บางรายที่มีสิวยอดอกอาจใช้ผงโลดทะนงแดงละลายในน้ำแตะจุดที่สิวอักเสบก็จะช่วยให้อาการอักเสบยุบตัวลงได้ ประโยชน์ของโลดทะนงแดงสำหรับผิว โลดทะนงแดงมีประโยชน์ต่อผิวดังนี้ ช่วยให้ผิวขาวและเปล่งปลั่ง ลดรอยหมองคล้ำและจุดด่างดำ ช่วยขัดเซลล์ผิวและลดสิว บำรุงผิวให้เนียนนุ่ม ชุ่มชื้น ลดการอักเสบของผิว ช่วยให้แผลเป็นจางลง วิธีใช้โลดทะนงแดงให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ทำความสะอาดผิวหน้า ก่อนใช้โลดทะนงแดงให้ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึก โดยใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เหมาะกับสภาพผิว เมื่อทำความสะอาดผิวหน้าเสร็จแล้วซับหน้าให้แห้งด้วยผ้าสะอาด ทาโลดทะนงแดง ใช้โลดทะนงแดงในปริมาณเล็กน้อยแต้มบริเวณที่เป็นสิวอักเสบ ฝ้า กระ หรือจุดด่างดำ จากนั้นใช้นิ้วนางเกลี่ยเนื้อแป้งโลดทะนงแดงไปให้ทั่วผิวหน้า

บอนเต่า บอนป่า ใช้ทำกับข้าว ปลูกเป็นไม้ประดับ และสรรพคุณเด่น

บอนเต่า บอนป่า บอนเต่า หรือ บอนป่า เป็นพืชล้มลุก มีลำต้นเตี้ย ๆ หรือไม่มีลำต้นเลย แผ่นใบใหญ่ รูปหัวใจ ปลายแหลม โคนใบเว้าเป็นรูปหัวใจ ก้านใบยาว มีขนสั้นปกคลุม ใต้ใบมีจุดและเส้นประสีแดงสด ขึ้นได้ทั่วไป มีหลายขนาด ตั้งแต่ต้นเตี้ยๆ มีใบแค่ 3-4 ใบ จนถึงขนาดลำต้นสูงใหญ่ ก้านใบสีแดง ช่อดอกกลม ออกที่ปลายก้านดอก ช่อดอกตัวผู้ยาวประมาณ 30 เซนติเมตร ช่อดอกตัวเมียยาว 20 เซนติเมตร มีดอกสีเหลืองขนาดเล็ก ประโยชน์ของบอนเต่า บอนป่า ใช้ทำกับข้าว ใบของบอนเต่าสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายเมนู เช่น แกงส้ม แกงป่า แกงเลียง ต้มยำ นอกจากนี้ยังนำมาดองเปรี้ยว ลวกจิ้ม หรือนึ่งรับประทานได้ด้วย ปลูกเป็นไม้ประดับ ด้วยรูปทรงและสีสันที่โดดเด่นของใบ บอนเต่าจึงนิยมปลูกเป็นไม้ประดับ ทั้งในบ้านและสวน สรรพคุณเด่น ช่วยลดน้ำตาลในเลือด บอนเต่ามีสารไกลโคไซด์ซึ่งช่วยในการรักษาอาการของเบาหวาน ลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ ใบบอนเผาไฟจุดทำให้เกิดควันที่ใช้ไล่และฆ่าหมัด แก้อาการท้องเสีย […]

กระจับ/กระจับเขาควาย สรรพคุณ และการปลูกกระจับ

กระจับ/กระจับเขาควาย กระจับ หรือ กระจับเขาควาย เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงใหญ่ จัดอยู่ในวงศ์ Fabaceae พบกระจายอยู่ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียใต้ และทวีปออสเตรเลีย ในประเทศไทยพบได้ทั้ง 3 ภาค โดยมักขึ้นตามป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง และป่าดงดิบแล้ง กระจับมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Bauhinia saccocalyx Pierre และมีชื่ออื่นๆ เช่น กระจับเขาควาย กระจับโค กระจับควาย ตูดเป็ด ฯลฯ สรรพคุณของกระจับ แก้โรคหัวใจ ช่วยบำรุงหัวใจโดยตรง แก้โรคหัวใจต่างๆ ได้ แก้หวัดคัดจมูก ขับเสมหะ แก้หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ ขับพิษร้อนต่างๆ ออกจากร่างกาย ยางมีฤทธิ์ทางด้านแก้โรคต่างๆ ของช่องปากเช่น ปวดฟัน ฟันผุ เปื่อยและรำมะนาด ช้ำจากการถูกฟัน ปากเป็นแผล ลิ้นเป็นแผล และโรคช่องปากอื่นๆ ใบอะตอมช่วยแก้ท้องอืด แก้ท้องเฟ้อ ลดไข้ แก้บิด ช่วยถ่าย ทำให้เจริญอาหาร ขับประจำเดือน […]

ผักบุ้งจีน สรรพคุณ และการปลูกผักบุ้งจีน

ผักบุ้งจีน (ผักหวานบ้าน) ผักบุ้งจีน (ผักหวานบ้าน) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Amaranthus tricolor L. เป็นพืชผักสวนที่ปลูกกันอย่างแพร่หลายในประเทศไทย มีทั้งพันธุ์พื้นเมืองและพันธุ์ต่างประเทศ ลำต้นตั้งตรง มีกิ่งก้านสาขามาก ใบเป็นรูปรี หรือรูปไข่ มีสีเขียวหรือสีแดง ดอกเป็นช่อ ออกที่ซอกใบหรือปลายยอด ผลเป็นแบบแห้งแตกได้ ภายในมีเมล็ดเล็กๆ สรรพคุณของผักบุ้งจีน บำรุงสายตา ผักบุ้งจีนอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีนและลูทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีส่วนช่วยในการบำรุงสายตา ป้องกันการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อมและโรคต้อกระจก เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ผักบุ้งจีนอุดมไปด้วยวิตามินซี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ ได้ดีขึ้น ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด ผักบุ้งจีนอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและเส้นใยอาหาร ซึ่งมีส่วนช่วยในการลดคอเลสเตอรอลในเลือดและป้องกันการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ป้องกันโรคมะเร็ง ผักบุ้งจีนอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ เช่น เบต้าแคโรทีน วิตามินซี และลูทีน ซึ่งมีส่วนช่วยในการปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ จึงอาจช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้ บรรเทาอาการท้องผูก ผักบุ้งจีนอุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร ซึ่งมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่าย ช่วยบรรเทาอาการท้องผูกและท้องอืดได้ การปลูกผักบุ้งจีน ผักบุ้งจีนเป็นพืชที่ปลูกง่าย สามารถปลูกได้ทั้งในดินและในน้ำ การปลูกผักบุ้งจีนในดิน เตรียมดินโดยการไถพรวนและตากดินไว้ประมาณ 1-2 สัปดาห์ ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไปในดิน แล้วไถพรวนให้เข้ากัน ขุดหลุมปลูกผักบุ้งจีนให้มีระยะห่างระหว่างหลุมประมาณ 20-30 […]

บอนเต่า บอนป่า ใช้ทำกับข้าว ปลูกเป็นไม้ประดับ และสรรพคุณเด่น

บอนเต่า บอนป่า ใช้ทำกับข้าว ปลูกเป็นไม้ประดับ และสรรพคุณเด่น บอนเต่า หรือที่เรียกว่า บอนป่า เป็นพืชล้มลุกที่พบในภูมิภาคเขตร้อนและกึ่งเขตร้อนทั่วโลก มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้และแอฟริกา เป็นพืชที่ได้รับความนิยมในการนำมาประกอบอาหาร ปลูกเป็นไม้ประดับ และนำมาใช้ประโยชน์ทางสมุนไพร ด้วยรสชาติและสรรพคุณที่โดดเด่นทำให้บอนเต่าเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย การนำมาประกอบอาหาร ใบของบอนเต่าสามารถนำมาใช้ในการประกอบอาหารได้ทั้งแบบสดและแบบสุก เมื่อนำมาใช้แบบสดจะนำมาซอยฝอยแล้วใส่แกง อ่อม ต้ม หรือผัดต่างๆ ส่วนเมื่อใช้แบบสุกจะนำมาต้มเพื่อใช้ทำเป็นเมนูผัด เช่น ผัดใบบอนเต่าไฟแดง ผัดกะปิใบบอน ผัดหมูสับใบบอนเต่า เป็นต้น นอกจากนี้ในบางท้องถิ่นยังนำก้านและดอกบอนเต่ามาประกอบอาหารได้อีกด้วย การปลูกเป็นไม้ประดับ บอนเต่าจัดอยู่ในกลุ่มพืชที่สามารถปลูกเป็นไม้ประดับได้ดี เนื่องจากมีใบที่สวยงาม สีสันสดใส มีหลายเฉดสีให้เลือกปลูก ขนาดใบใหญ่และมีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ โดยจะนำมาปลูกในกระถางหรือปลูกลงดินก็ได้ บอนเต่าเป็นพืชที่ไม่ต้องการการดูแลมากนัก จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลต้นไม้เป็นอย่างดี สรรพคุณเด่น แก้อาการท้องเสีย ท้องร่วง: นำใบบอนเต่ามาต้มน้ำดื่ม แก้ท้องเสีย ท้องร่วงได้เพราะมีรสฝาด รักษาแผลอักเสบ แผลพุพอง ผื่นคัน: พอกด้วยใบบอนเต่า จะช่วยดูดหนอง แก้อักเสบได้ดี ต้านการอักเสบ: บอนเต่ามีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ จึงช่วยบรรเทาอาการปวด บวม และการอักเสบต่างๆ แก้อาการปวดฟัน: นำใบบอนเต่าที่ตำผสมกับเกลือแล้วพอกบริเวณฟันที่ปวด […]