Tag Archives: พืชไร่

มะรุม ประโยชน์ สรรพคุณ และการปลูกมะรุมเตี้ย

มะรุม มะรุมเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงได้ถึง 10-15 เมตร มีถิ่นกำเนิดในอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนต่างๆ ของต้นมะรุมสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย เช่น ราก เปลือก ใบ ดอก และฝัก ประโยชน์ของมะรุม ใบมะรุมมีสารอาหารสูงมาก โดยเฉพาะสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี วิตามินเอ เบตาแคโรทีน และฟลาโวนอยด์ ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายของอนุมูลอิสระได้ รากมะรุมมีฤทธิ์เป็นยาขับปัสสาวะและช่วยลดอาการบวมน้ำ เปลือกมะรุมใช้เป็นยาทาแก้โรคผิวหนังและแผลต่างๆ ดอกมะรุมมีกลิ่นหอม ใช้ทำอาหารได้หลากหลายเมนู ฝักมะรุมเป็นแหล่งโปรตีนและแคลเซียมที่สำคัญ โดยในฝักมะรุม 100 กรัม มีโปรตีนสูงถึง 7 กรัม และแคลเซียมสูงถึง 165 มิลลิกรัม การปลูกมะรุม มะรุมสามารถเจริญเติบโตได้ดีในดินแทบทุกชนิด ชอบดินร่วนซุยที่มีการระบายน้ำดี ต้องการแสงแดดเต็มวันถึงวันละ 6-8 ชั่วโมง การปลูกมะรุมสามารถทำได้จากการเพาะเมล็ดหรือการปักชำ จากนั้นนำต้นกล้าไปปลูกในหลุมที่มีขนาด 50x50x50 เซนติเมตร รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 อัตรา 1 กิโลกรัมต่อหลุม คลุกเคล้าให้เข้ากัน กลบดินให้แน่น […]

การปลูกฝรั่ง

การปลูกฝรั่ง ฝรั่งเป็นผลไม้เมืองร้อนที่ปลูกง่ายและให้ผลผลิตสูงในประเทศไทย ขั้นตอนในการปลูกฝรั่งมีดังนี้ การเตรียมดิน เลือกพื้นที่ที่มีแสงแดดจัดและดินระบายน้ำดี ขุดหลุมขนาดกว้าง 1 เมตร ลึก 1 เมตร เว้นระยะห่างระหว่างหลุมประมาณ 4-6 เมตร ผสมดินกับปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในอัตรา 1:1 เพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน การปลูก นำกิ่งพันธุ์ฝรั่งที่แข็งแรงไม่มีโรคลงปลูกในหลุม กดดินให้แน่นรอบโคนต้นและรดน้ำให้ชุ่ม ปักไม้หลักเพื่อช่วยพยุงต้น การดูแล รดน้ำสม่ำเสมอโดยเฉพาะในช่วงหน้าแล้ง ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือ 16-16-16 ทุกๆ 3 เดือน ตัดแต่งกิ่งเพื่อให้ทรงพุ่มโปร่งและกระตุ้นการออกดอก กำจัดวัชพืชรอบต้น การป้องกันกำจัดโรคและแมลง ฝรั่งมักพบปัญหาโรครากเน่า โรคใบจุด โรคแอนแทรคโนส ให้ใช้สารเคมีป้องกันกำจัดตามคำแนะนำของผู้ผลิต แมลงที่พบได้บ่อย ได้แก่ เพลี้ยไฟ หนอนเจาะผล หนอนชอนใบ ให้ใช้สารเคมีหรือวิธีการกำจัดตามความเหมาะสม การเก็บเกี่ยว ฝรั่งจะแก่จัดและพร้อมเก็บเกี่ยวในระยะเวลาประมาณ 120-140 วันหลังดอกบาน สังเกตที่เปลือกผลเริ่มมีสีขาวอมเหลืองและนิ่มเล็กน้อย เก็บผลฝรั่งอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้ช้ำ

บอนเต่า บอนป่า ใช้ทำกับข้าว ปลูกเป็นไม้ประดับ และสรรพคุณเด่น

บอนเต่า บอนป่า บอนเต่า หรือที่รู้จักกันในชื่อ บอนป่า เป็นพืชล้มลุกที่มีหัวใต้ดิน มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ใช้ประโยชน์ บอนเต่ามีการใช้ประโยชน์หลากหลาย ได้แก่ ทำกับข้าว ใบอ่อนและก้านใบของบอนเต่าใช้เป็นผักปรุงอาหารได้ มีรสชาติเปรี้ยวเล็กน้อย จึงนิยมนำมาใช้ทำแกงส้ม แกงเลียง ต้มยำ หรือผัดกับเนื้อสัตว์ ปลูกเป็นไม้ประดับ ใบของบอนเต่ามีรูปร่างและสีสันที่สวยงาม มีทั้งสีเขียวอ่อน สีเขียวแก่ สีแดงอมม่วง หรือสีด่าง จึงนิยมปลูกเป็นไม้ประดับในกระถาง ตกแต่งสวน หรือริมรั้ว สรรพคุณเด่น นอกจากคุณค่าทางอาหารและการประดับแล้ว บอนเต่ายังมีสรรพคุณทางยาที่โดดเด่น ได้แก่ แก้ไข้ แก้อักเสบ: หัวและใบมีฤทธิ์เย็น ช่วยลดไข้ แก้อักเสบได้ แก้คัน ผื่นแพ้: ใบใช้พอกแก้อาการคัน ผื่นแพ้ ได้ รักษาแผลอักเสบ: ตำหัวแล้วพอกบริเวณแผลอักเสบ ช่วยลดอาการบวมแดงได้ ขับพิษ: ในตำรับยาไทย ใบใช้เป็นส่วนผสมในยาขับพิษต่างๆ แก้อาการท้องผูก: ใบใช้เป็นยาระบายอ่อนๆ ได้

มะตูม ประโยชน์ และสรรพคุณมะตูม

มะตูม มะตูมเป็นผลไม้ไทยที่มีมาอย่างยาวนาน และเป็นที่นิยมนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ มากมาย ทั้งแบบผลสด ผลแห้ง รวมถึงเครื่องดื่มสมุนไพร ด้วยรสชาติเปรี้ยวอมหวาน มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ และยังอุดมไปด้วยสารอาหารและสรรพคุณทางยาอีกด้วย ประโยชน์ของมะตูม มะตูมมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เนื่องจากอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ เช่น วิตามินซี: ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และปกป้องเซลล์จากการทำลายของอนุมูลอิสระ สารเพคติน: ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด และช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น โพแทสเซียม: ช่วยควบคุมความดันโลหิต และปรับสมดุลของน้ำในร่างกาย สรรพคุณทางยาของมะตูม นอกจากประโยชน์ทางโภชนาการแล้ว มะตูมยังมีสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย ได้แก่ แก้อาการท้องเสีย: มะตูมมีฤทธิ์ฝาดสมาน ช่วยหยุดอาการท้องเสียได้ บรรเทาอาการไอ: สารเพคตินในมะตูมช่วยเคลือบและลดการระคายเคืองในลำคอ ช่วยบรรเทาอาการไอ แก้เจ็บคอ: มะตูมมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัส ช่วยลดการอักเสบในลำคอ แก้เจ็บคอ ลดความดันโลหิต: โพแทสเซียมในมะตูมช่วยขับโซเดียมออกจากร่างกาย ทำให้ความดันโลหิตลดลง ลดระดับน้ำตาลในเลือด: สารเพคตินช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลในเลือด จึงช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่

บอนเต่า บอนป่า ใช้ทำกับข้าว ปลูกเป็นไม้ประดับ และสรรพคุณเด่น

บอนเต่า บอนป่า พืชพันธุ์มากสรรพคุณ บอนเต่า หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า บอนป่า เป็นไม้ล้มลุกชนิดหนึ่งในวงศ์บอน ซึ่งพบมากในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การใช้ประโยชน์จากบอนเต่า บอนเต่ามีการใช้ประโยชน์ที่หลากหลาย ได้แก่ ใช้ประกอบอาหาร ใบและยอดอ่อนของบอนเต่าสามารถนำมาใช้เป็นผักทานได้ นิยมนำมาใช้ในอาหารอีสาน เช่น แกงหน่อไม้ ต้มแซบ ต้มข่า โดยมีรสชาติขมเล็กน้อยแต่ให้รสสัมผัสที่กรอบอร่อย การปลูกเป็นไม้ประดับ บอนเต่ามีใบที่สวยงาม มีทั้งใบสีเขียว ใบด่าง ใบแดง จึงนิยมปลูกเป็นไม้ประดับในสวนหรือตกแต่งบ้าน สรรพคุณทางยา ล้างพิษ: ใบบอนเต่ามีฤทธิ์ล้างพิษช่วยลดบวมตามอวัยวะต่างๆ เช่น ตับ ไต ได้ดี สมานแผล: บอนเต่ามีฤทธิ์ฝาดและสมานแผลได้ แนะนำให้นำใบสดมาตำพอกบริเวณแผล รักษาอาการอักเสบ: ใบสดของบอนเต่ามีฤทธิ์ต้านอาการอักเสบ สามารถช่วยลดอาการปวด บวมได้ เช่น อาการฟกช้ำ กระดูกหัก แก้ริดสีดวงทวาร: ใบบอนเต่ามีฤทธิ์เย็นช่วยบรรเทาอาการคันและแสบได้ นำใบสดมาตำพอกบริเวณทวารเพื่อบรรเทาอาการ

ลูกท้อ/ลูกพีช สรรพคุณ และการปลูกลูกท้อ

ลักษณะของลูกท้อ ลูกท้อเป็นไม้ผลที่มีต้นกำเนิดในประเทศจีน ซึ่งกิ่งก้านจะเป็นทรงพุ่มที่แผ่กว้าง มีใบเป็นทรงรี ปลายใบแหลม ผิวใบด้านบนมีขน ส่วนดอกจะเป็นดอกเดี่ยวหรือเป็นคู่ มี 5 กลีบ โคนกลีบสีขาว ปลายกลีบสีชมพู ส่วนผลของลูกท้อจะเป็นรูปทรงกลมหรือแบน ส่วนเปลือกจะเป็นสีเหลืองหรือสีแดง เนื้อผลมีความนุ่มฉ่ำ มีรสชาติหวาน เนื้อข้างในมีเมล็ดเดียว สรรพคุณของลูกท้อ ลูกท้อเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางอาหารสูง โดยในเนื้อลูกท้อมีวิตามินซีสูง ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย อีกทั้งในลูกท้อยังมีสารอาหารจำพวก ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และเหล็ก โดยแร่ธาตุเหล่านี้สามารถช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง แก้อาการท้องผูก ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้ และยังพบว่าสารสกัดจากใบของลูกท้อมีสรรพคุณช่วยในการรักษาโรคเบาหวานได้อีกด้วย วิธีการปลูกลูกท้อ การปลูกลูกท้อสามารถปลูกได้โดยการเพาะเมล็ด หรือการเสียบยอดกับต้นตอ โดยวิธีที่นิยมใช้กันมากที่สุดคือการเสียบยอด เนื่องจากวิธีนี้จะสามารถควบคุมพันธุ์ได้ ซึ่งมีขั้นตอนการปลูกดังนี้ การเตรียมดิน ดินที่เหมาะแก่การปลูกลูกท้อควรเป็นดินร่วนซุยระบายน้ำได้ดี มีความเป็นกรดด่างที่เหมาะสม การขุดหลุมปลูก ขุดหลุมปลูกขนาด 50x50x50 เซนติเมตร โดยขุดดินก้นหลุมใส่ลงไปในหลุม 3/4 ของหลุม เพื่อช่วยให้รากของลูกท้อสามารถดูดซึมธาตุอาหารได้ดีขึ้น จากนั้นนำต้นกล้าที่เสียบยอดเรียบร้อยแล้วลงปลูก พร้อมกับกดดินรอบโคนต้นให้แน่น กดโคนต้นให้แน่น การใส่ปุ๋ย ใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกผสมกับปุ๋ยสูตร 15-15-15 รอบโคนต้น โดยให้ระยะห่างจากโคนต้นประมาณ […]

ลีลาวดีหรือลั่นทม

ลีลาวดี ลีลาวดี เป็นไม้พุ่มหรือต้นขนาดกลางในวงศ์ Apocynaceae ลำต้นตั้งตรง แตกแขนงน้อย ใบเป็นใบเดี่ยว เรียงเวียน รูปไข่ ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ เนื้อใบหนาสีเข้ม ดอกเป็นดอกช่อ ผุดอกที่ปลายกิ่ง กลีบดอกมี 5 กลีบ ปลายกลีบเว้าเป็น 2 แฉก ดอกมีสีขาว เหลือง หรือชมพู เป็นไม้มงคลที่นิยมปลูกประดับกันทั่วไป คุณสมบัติ ลีลาวดีมีสรรพคุณเป็นยาได้หลายส่วน ทั้งราก แก่น ใบ ดอก และผล ซึ่งมีสรรพคุณ ดังนี้ ราก: แก้ไข้ ท้องเสีย แก้บิด ขับเสมหะ แก่น: แก้ไข้ แก้บิด แก้ท้องร่วง ใบ: แก้ไข้ ท้องเสีย บำรุงหัวใจ ดอก: แก้ไข้ แก้หอบหืด ขับเสมหะ ผล: แก้ท้องร่วง ขับเสมหะ ลักษณะที่แตกต่างจากลั่นทม ลีลาวดีมีลักษณะที่แตกต่างจากลั่นทม […]

ผักเขียด/ผักขาเขียด/ผักอฮิน ผักวัชพืชตามหนองนา และสรรพคุณเด่น

ผักเขียด ผักขาเขียด ผักอฮิน ผักเขียด ผักขาเขียด หรือผักอฮิน เป็นผักวัชพืชที่พบได้ทั่วไปในหนองน้ำ ทุ่งนา และพื้นที่ชุ่มน้ำ ลักษณะเป็นพืชล้มลุกอายุสั้น ลำต้นตั้งตรง กิ่งก้านแตกออกเป็นพุ่ม มีความสูงประมาณ 30-50 เซนติเมตร ใบมีลักษณะเป็นใบเดี่ยว เรียงตัวตรงข้าม รูปร่างคล้ายใบหอก ปลายใบแหลม ขอบใบหยักเว้าลึก ดอกเล็กสีขาวหรือชมพูอ่อนออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง ผลมีลักษณะเป็นฝักแบน สีน้ำตาลหรือดำ เมื่อแก่จะแตกออกเป็นเมล็ดสีน้ำตาล แม้ว่าผักเขียดจะเป็นวัชพืช แต่ก็มีสรรพคุณทางยาที่โดดเด่น ได้แก่ แก้ร้อนในกระหายน้ำ ช่วยดับกระหาย ลดการอักเสบของลำไส้และกระเพาะอาหาร ขับเสมหะ บรรเทาอาการเจ็บคอ ไอเรื้อรัง แก้หวัด ลดอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล ลดไข้ ช่วยระบายความร้อน ลดอาการไข้และอ่อนเพลีย ขับปัสสาวะ ขับของเสียออกจากร่างกาย ลดอาการบวมน้ำ ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา ช่วยป้องกันการติดเชื้อ นอกจากนี้ ผักเขียดยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลและป้องกันโรคต่างๆ เช่น โรคมะเร็งและโรคหัวใจได้อีกด้วย

ถั่วแขก ประโยชน์ สรรพคุณ และการปลูกถั่วแขก

ถั่วแขก ประโยชน์ สรรพคุณ และการปลูก ถั่วแขก (Vigna unguiculata) เป็นพืชล้มลุกในสกุล Vigna ซึ่งเป็นถั่วที่ปลูกกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก มีลักษณะเป็นเถาเลื้อย มีใบประกอบแบบขนนก ดอกสีเหลือง และผลเป็นฝัก เมล็ดมีหลายขนาดและหลายสี โดยทั่วไปแล้วถั่วแขกใช้รับประทานเป็นผัก ลูก และเมล็ด ประโยชน์และสรรพคุณของถั่วแขก ถั่วแขกเป็นแหล่งวิตามิน เกลือแร่ และสารต้านอนุมูลอิสระที่อุดมไปด้วย เช่น วิตามินเค (มีส่วนช่วยในการแข็งตัวของเลือดและกระบวนการสร้างกระดูก) วิตามินซี (ช่วยเพิ่มภูมิคุมกันและต่อต้านอนุมูลอิสระ) กรดโฟลิก (จำเป็นสำหรับการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงและการสังเกิดของทารกะในครรภ์) แมงกานีส (เป็นสารต้านอนุมูลอิสระและช่วยในการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต) ไฟเบอร์ (ช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลและน้ำตาลในเลือด ช่วยให้รู้สึกอิ่มนาน) นอกจากนี้ ถั่วแขกยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์ช่วย ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ ลดความเสี่ยงของบางชนิด ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ปรับสมดุลของแบคทีเรีัยในลำไส้ บำรุงสายตา การปลูกถั่วแขก การปลูกถั่วแขกทำได้โดยการหว่านเมล็ดโดยตรงในแปลงที่เตรียมไว้ล่วงหน้า ถั่วแขกเป็นพืชที่ชอบอากาศอบอุ่น ชอบแดดจัด และเติบโตได้ดีในฤดูฝน โดยมีขั้นตอนการปลูกดังนี้ การเตรียมแปลง พรวนลึกประมาณ 15-20 เซนติเมตร ใส่ปูนขาวเพื่อปรับสภาพเป็นด่างเล็กน้อย ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน ยกแปลงสูง 20-30 […]

บร็อคโคลี่ ประโยชน์ สรรพคุณ และการปลูกบร็อคโคลี่

บร็อคโคลี่ ประโยชน์ สารพัดสวน บร็อคโคลี่เป็นผักกะหล่ำที่อุดมไป ด้วยสารอาหารหลากมายที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างแพร่ หลายไปทั่วโลก ประโยชน์ของบร็อคโคลี่ อุดมไป กลุ่มสารต้านอนุมูลอิสระ: เช่น สาร Sulforaphane, Indole-3-carbinol (I3C), ลูทีน ซึ่งมี คุณสมบัติต้านมะเร็ง ต้านการอัก เสบ ปกป้องเซลล์ในร่างกาย สูง วิตามินซี: ช่วยในการสร้างคอล ลาเจน บำรุงผิวพิ่มความยืดหยุ่น ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ดีต่อ หัวจิตหัวใต้: ช่วยลดความ เสี่ยงของโรคหัวแล ซึ่งเป็นสาเหตุหลักการเสีย ชีวิตของผู้ใหญ่ทั่วโลก มี ธาตุเหล็ก: ซึ่งมีความสำคัญต่อการสร้าง เมล ้ดเลือดแดงป้องการภาวะโลหิตจาง เป็น แหล่งของใยอาหาร: ช่วยในกระ กระเพาะอาหาร ให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น มี ไขมันอิ่มำฯ น้อย: ช่วยลดระดับโคเล สเตอรอลในลำไส้ สารพัดสวนของบร็อคโคลี นอกเหนือประโยชน์ต่อสุขภาพที่หลาก หลาย บร็อคโคลียังสามารถนำมาประ กอบอาหารได้หลากห ลายรูปแบบ เช่น […]