กานพลู กานพลู (Clove) เป็นเครื่องเทศที่ได้จากดอกตูมของต้นกานพลู (Syzygium aromaticum) ซึ่งเป็นพืชพื้นเมืองของหมู่เกาะมาลุกุในอินโดนีเซีย กานพลูมีรสชาติเผ็ดร้อน หวานเล็กน้อย และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว จึงนิยมใช้ปรุงอาหารและยาแผนโบราณมาตั้งแต่สมัยโบราณ ประโยชน์ของกานพลู ช่วยบรรเทาอาการปวดและอักเสบ ช่วยรักษาแผลและฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ช่วยลดอาการคลื่นไส้และอาเจียน ช่วยรักษาโรคท้องร่วง ช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยรักษาโรคเหงือกและฟันผุ สรรพคุณกานพลู ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดฟัน ช่วยรักษาโรคเหงือก ช่วยขจัดกลิ่นปาก ช่วยบรรเทาอาการไอ ช่วยรักษาโรคหอบหืด ช่วยลดระดับความดันโลหิต ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ ช่วยกระตุ้นการย่อยอาหาร ช่วยลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้และอาเจียน ช่วยรักษาโรคท้องร่วง กานพลูเป็นเครื่องเทศที่มีประโยชน์และสรรพคุณมากมาย แต่ควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสม เนื่องจากการใช้กานพลูมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ได้ เช่น ปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน และท้องร่วง
Tag Archives: พืชผัก
ผักคะน้า ผักคะน้าเป็นผักชนิดหนึ่งที่มีอายุสั้นและเติบโตได้อย่างรวดเร็ว มักนิยมบริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยสามารถปลูกได้ทั้งในฤดูฝนและฤดูหนาว ซึ่งผักคะน้าสามารถนำมาบริโภคได้ทั้งใบและดอก แต่ส่วนมากจะนิยมนำยอดและใบอ่อนมารับประทานมากกว่า ผักคะน้าจัดเป็นผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงอุดมไปด้วยวิตามิน A B1 C และ K นอกจากนี้ยังมีเกลือแร่และแคลเซียมอยู่เป็นจำนวนมาก การปลูกคะน้า ขั้นตอนเตรียมเมล็ดคะน้า การเตรียมเมล็ดพันธุ์คะน้าสำหรับปลูกสามารถทำได้ด้วยการนำเอาเมล็ดพันธุ์ที่เก็บไว้มาแช่น้ำแล้วจึงนำไปเพาะลงในแปลงเพาะที่มีการเตรียมดินไว้เรียบร้อยแล้ว เมื่อเพาะเมล็ดเสร็จเรียบร้อยแล้วควรนำวัสดุมุงหลังฟางคลุมแปลงเพาะไว้เพื่อรักษาความชื้นและเร่งการงอกของเมล็ดพันธุ์ ขั้นตอนเตรียมดินปลูกคะน้า ควรเลือกใช้ดินร่วนหรือดินร่วนปนทรายที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงโดยเกษตรกรส่วนใหญ่จะนิยมใช้ปุ๋ยคอกเก่าหรือปุ๋ยพืชสดมาคลุกเคล้าลงในดินเพื่อช่วยเร่งการเจริญเติบโตของผักคะน้า การไถพรวนดินให้ลึก 20-30 เซนติเมตร และตากดินทิ้งไว้จนดินแห้งจึงจึงย่อยดินให้ละเอียดอีกรอบพร้อมแบ่งเป็นแปลงปลูกที่มีขนาดความกว้างแปลง 1 เมตรและระยะระหว่างแปลง 50 เซนติเมตร ขั้นตอนการปลูกผักคะน้า หลังจากไถเตรียมดินและแปลงปลูกเรียบร้อยแล้วก็นำต้นกล้าที่ได้เตรียมไว้หย่อนลงหลุมปลูกทันทีโดยเว้นระยะระหว่างต้น 20-30 เซนติเมตร และหลังจากปลูกเสร็จแล้วควรรดน้ำให้ทั่วแปลงปลูก เกษตรกรจะเริ่มเก็บเกี่ยวผักคะน้าได้ในระยะตั้งแต่เพาะปลูก 45-55 วัน การดูแลรักษาผักคะน้า หลังจากปลูกผักคะน้าแล้วจะต้องหมั่นดูแลรักษาโดยการรดน้ำ 2 ครั้งต่อวัน การใส่ปุยหมักหรือปุ๋ยอินทรีย์เพื่อเร่งการเจริญเติบโต การกำจัดวัชพืช การกำจัดโรคและแมลงที่อาจเกิดขึ้นกับแปลงปลูกผักคะน้า นอกจากนี้เมื่อผักคะน้ามีอายุได้ 20-25 วันเกษตรกรจะทำการเด็ดยอดออกเพื่อให้แตกรุ่นเพิ่มผลผลิตที่สูงขึ้นนั่นเอง
วิธีการปลูกทุเรียนเล็ก เลือกกิ่งพันธุ์: เลือกกิ่งพันธุ์จากต้นแม่พันธุ์ที่ดี ให้คัดเลือกกิ่งที่ออกมาจากกิ่งแบบเปิดใบที่มีคุณภาพดี คือใบไม่มีรอยโรคแมลง อายุของกิ่งอย่างน้อย 4 ครั้ง เตรียมดิน: ดินถึงจะต้องร่วนซุย น้ำไม่ขัง ไม่เป็นกรด ขุดหลุม: ขนาดหลุม 50 x 50 x 50 เซนติเมตร รองก้นหลุม: ใช้วัสดุรองก้นหลุม ได้แก่ ปุ๋ยคอกเก่า ปุ๋ยหมัก และแกลบสด คลุกเคล้ากัน ปลูกต้นทุเรียน: นำต้นทุเรียนลงปลูกในหลุม ระวังอย่าให้รากหัก จากนั้นกลบดินระหว่างโคนต้นและราก รดน้ำ: หลังจากปลูกแล้ว รดน้ำให้โชก ตัดแต่งกิ่ง: ตัดแต่งกิ่งโดยใช้กรรไกรตัดกิ่งที่สะอาด ตัดกิ่งที่เป็นโรค กิ่งที่ไม่มีคุณภาพ วิธีการดูแลทุเรียนเล็กหลังการปลูกจนถึงก่อนออกดอก รดน้ำ: หลังจากปลูกแล้ว รดน้ำให้โชก จากนั้นรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ โดยให้ความชื้นในดินประมาณ 60-70% ใส่ปุ๋ย: ให้ปุ๋ยสูตร 15-5-20 หรือ 16-16-16 โดยใส่ทุก 1 เดือน ในช่วงหลังการปลูก 6 […]
มะปรางและมะยงชิดเป็นผลไม้อร่อยที่ปลูกในประเทศไทย มะปรางเป็นผลไม้ที่มีเปลือกสีเขียวหรือทอง และมีเนื้อสีขาว มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว ส่วนมะยงชิดมีลักษณะคล้ายมะปราง แต่มีเปลือกสีแดง และมีเนื้อสีขาวหรือสีเหลือง มีรสชาติหวานและกรอบ การปลูกมะปรางและมะยงชิด มะปรางและมะยงชิดสามารถปลูกได้ในดินทุกประเภท แต่จะเจริญเติบโตได้ดีที่สุดในดินร่วนซุยที่มีการระบายน้ำที่ดี ควรปลูกในที่ที่มีแสงแดดส่องถึงตลอดวัน การเตรียมดิน เตรียมดินโดยการไถพรวนให้ลึกประมาณ 30 เซนติเมตร ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในอัตรา 1-2 ตันต่อไร่ คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วรดน้ำให้ชุ่ม การปลูก ขุดหลุมปลูกขนาด 60 x 60 x 60 เซนติเมตร เว้นระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 6-8 เมตร ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักรองก้นหลุมในอัตรา 1 กิโลกรัมต่อหลุม ผสมกับดินปลูก แล้วนำกิ่งพันธุ์ลงปลูก กดดินให้แน่น รดน้ำให้ชุ่ม การดูแลรักษา รดน้ำให้มะปรางและมะยงชิดเป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในอัตรา 1-2 กิโลกรัมต่อต้น ทุกๆ 3-4 เดือน ตัดแต่งกิ่งที่แห้งหรือเป็นโรคออก เพื่อให้ต้นมะปรางและมะยงชิดเจริญเติบโตได้ดี การเก็บเกี่ยว มะปรางและมะยงชิดจะเริ่มให้ผลผลิตหลังจากปลูกประมาณ 3-4 ปี เมื่อผลไม้แก่จัดแล้วจึงสามารถเก็บเกี่ยวได้ […]
กระจับ/กระจับเขาควาย กระจับ หรือ กระจับเขาควาย เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงใหญ่ จัดอยู่ในวงศ์ Fabaceae พบกระจายอยู่ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียใต้ และทวีปออสเตรเลีย ในประเทศไทยพบได้ทั้ง 3 ภาค โดยมักขึ้นตามป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง และป่าดงดิบแล้ง กระจับมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Bauhinia saccocalyx Pierre และมีชื่ออื่นๆ เช่น กระจับเขาควาย กระจับโค กระจับควาย ตูดเป็ด ฯลฯ สรรพคุณของกระจับ แก้โรคหัวใจ ช่วยบำรุงหัวใจโดยตรง แก้โรคหัวใจต่างๆ ได้ แก้หวัดคัดจมูก ขับเสมหะ แก้หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ ขับพิษร้อนต่างๆ ออกจากร่างกาย ยางมีฤทธิ์ทางด้านแก้โรคต่างๆ ของช่องปากเช่น ปวดฟัน ฟันผุ เปื่อยและรำมะนาด ช้ำจากการถูกฟัน ปากเป็นแผล ลิ้นเป็นแผล และโรคช่องปากอื่นๆ ใบอะตอมช่วยแก้ท้องอืด แก้ท้องเฟ้อ ลดไข้ แก้บิด ช่วยถ่าย ทำให้เจริญอาหาร ขับประจำเดือน […]
ผักบุ้งจีน (ผักหวานบ้าน) ผักบุ้งจีน (ผักหวานบ้าน) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Amaranthus tricolor L. เป็นพืชผักสวนที่ปลูกกันอย่างแพร่หลายในประเทศไทย มีทั้งพันธุ์พื้นเมืองและพันธุ์ต่างประเทศ ลำต้นตั้งตรง มีกิ่งก้านสาขามาก ใบเป็นรูปรี หรือรูปไข่ มีสีเขียวหรือสีแดง ดอกเป็นช่อ ออกที่ซอกใบหรือปลายยอด ผลเป็นแบบแห้งแตกได้ ภายในมีเมล็ดเล็กๆ สรรพคุณของผักบุ้งจีน บำรุงสายตา ผักบุ้งจีนอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีนและลูทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีส่วนช่วยในการบำรุงสายตา ป้องกันการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อมและโรคต้อกระจก เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ผักบุ้งจีนอุดมไปด้วยวิตามินซี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ ได้ดีขึ้น ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด ผักบุ้งจีนอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและเส้นใยอาหาร ซึ่งมีส่วนช่วยในการลดคอเลสเตอรอลในเลือดและป้องกันการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ป้องกันโรคมะเร็ง ผักบุ้งจีนอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ เช่น เบต้าแคโรทีน วิตามินซี และลูทีน ซึ่งมีส่วนช่วยในการปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ จึงอาจช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้ บรรเทาอาการท้องผูก ผักบุ้งจีนอุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร ซึ่งมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่าย ช่วยบรรเทาอาการท้องผูกและท้องอืดได้ การปลูกผักบุ้งจีน ผักบุ้งจีนเป็นพืชที่ปลูกง่าย สามารถปลูกได้ทั้งในดินและในน้ำ การปลูกผักบุ้งจีนในดิน เตรียมดินโดยการไถพรวนและตากดินไว้ประมาณ 1-2 สัปดาห์ ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไปในดิน แล้วไถพรวนให้เข้ากัน ขุดหลุมปลูกผักบุ้งจีนให้มีระยะห่างระหว่างหลุมประมาณ 20-30 […]
บอนเต่า บอนป่า ใช้ทำกับข้าว ปลูกเป็นไม้ประดับ และสรรพคุณเด่น บอนเต่า หรือที่เรียกว่า บอนป่า เป็นพืชล้มลุกที่พบในภูมิภาคเขตร้อนและกึ่งเขตร้อนทั่วโลก มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้และแอฟริกา เป็นพืชที่ได้รับความนิยมในการนำมาประกอบอาหาร ปลูกเป็นไม้ประดับ และนำมาใช้ประโยชน์ทางสมุนไพร ด้วยรสชาติและสรรพคุณที่โดดเด่นทำให้บอนเต่าเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย การนำมาประกอบอาหาร ใบของบอนเต่าสามารถนำมาใช้ในการประกอบอาหารได้ทั้งแบบสดและแบบสุก เมื่อนำมาใช้แบบสดจะนำมาซอยฝอยแล้วใส่แกง อ่อม ต้ม หรือผัดต่างๆ ส่วนเมื่อใช้แบบสุกจะนำมาต้มเพื่อใช้ทำเป็นเมนูผัด เช่น ผัดใบบอนเต่าไฟแดง ผัดกะปิใบบอน ผัดหมูสับใบบอนเต่า เป็นต้น นอกจากนี้ในบางท้องถิ่นยังนำก้านและดอกบอนเต่ามาประกอบอาหารได้อีกด้วย การปลูกเป็นไม้ประดับ บอนเต่าจัดอยู่ในกลุ่มพืชที่สามารถปลูกเป็นไม้ประดับได้ดี เนื่องจากมีใบที่สวยงาม สีสันสดใส มีหลายเฉดสีให้เลือกปลูก ขนาดใบใหญ่และมีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ โดยจะนำมาปลูกในกระถางหรือปลูกลงดินก็ได้ บอนเต่าเป็นพืชที่ไม่ต้องการการดูแลมากนัก จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลต้นไม้เป็นอย่างดี สรรพคุณเด่น แก้อาการท้องเสีย ท้องร่วง: นำใบบอนเต่ามาต้มน้ำดื่ม แก้ท้องเสีย ท้องร่วงได้เพราะมีรสฝาด รักษาแผลอักเสบ แผลพุพอง ผื่นคัน: พอกด้วยใบบอนเต่า จะช่วยดูดหนอง แก้อักเสบได้ดี ต้านการอักเสบ: บอนเต่ามีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ จึงช่วยบรรเทาอาการปวด บวม และการอักเสบต่างๆ แก้อาการปวดฟัน: นำใบบอนเต่าที่ตำผสมกับเกลือแล้วพอกบริเวณฟันที่ปวด […]
ผักแพว สรรพคุณ และการปลูกผักแพว ผักแพวคืออะไร ผักแพวเป็นพืชตระกูลถั่วที่มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Parkia speciosa Hassk. ผักแพวเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง มีความสูงได้ถึง 10-20 เมตร ลำต้นเกลี้ยงเกลา เปลือกสีเทาหรือน้ำตาล ใบเป็นใบประกอบแบบขนนกสองชั้น มีใบย่อย 10-20 คู่ ดอกเป็นดอกช่อขนาดใหญ่ ออกที่ซอกใบ มีกลีบดอกสีขาวหรือชมพู ผลเป็นฝักยาวรี มีความยาวได้ถึง 30-40 เซนติเมตร ภายในฝักมีเมล็ดจำนวนมาก สรรพคุณของผักแพว ผักแพวมีสรรพคุณทางยาหลายประการ เช่น แก้ไข้ แก้ร้อนใน บำรุงสายตา บำรุงร่างกาย บำรุงโลหิต แก้คลื่นไส้อาเจียน แก้ท้องร่วง แก้บิดมูกเลือด แก้ปวดประจำเดือน แก้ตกขาว บำรุงครรภ์ แก้ปวดท้องหลังคลอด แก้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ แก้ไขข้ออักเสบ แก้ปวดตามข้อ แก้ริดสีดวงทวาร การปลูกผักแพว ผักแพวเป็นพืชที่ปลูกง่าย สามารถปลูกได้ทั้งในดินและในกระถาง วิธีการปลูกผักแพวมีดังนี้ การเตรียมดิน ดินที่ใช้ปลูกผักแพวควรเป็นดินร่วนซุย มีความอุดมสมบูรณ์สูง มีค่า pH […]
กล้วยตานี : เด่นที่ใบตอง และช่วยเพิ่มน้ำนมแม่ กล้วยตานี (Musa sapientum var. paradisiaca) เป็นพันธุ์กล้วยที่ได้จากการกลายพันธุ์ของกล้วยป่า มีจุดเด่นอยู่ที่ใบตองที่มีขนาดใหญ่ มีสีเข้ม และเหนียวกว่าใบตองพันธุ์อื่นๆ นอกจากนี้ หัวปลีและดอกกล้วยตานียังเป็นแหล่งของสารอาหารและมีสรรพคุณทางยาอีกด้วย สรรพคุณทางยาของกล้วยตานี ใบตองมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรคและพยาธิ โดยมีงานวิจัยพบว่าสารสกัดจากใบตองกล้วยตานีสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราได้หลายชนิด หน่อและหัวปลีมีสรรพคุณช่วยเพิ่มน้ำนมแม่ โดยมีสารที่ช่วยกระตุ้นการหลั่งน้ำนม ช่วยรักษาอาการท้องเสีย โดยมีสารแทนนินที่ช่วยสมานลำไส้ ลดอาการอักเสบ โดยมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการอักเสบภายในร่างกาย
หญ้าแดง หญ้าแดง (Chenopodium album Linn.) เป็นวัชพืชที่พบได้ทั่วไป มีลำต้นตรง แตกแขนงเป็นพุ่ม กิ่งอ่อนมีขนสีขาว ใบมีรูปร่างคล้ายสามเหลี่ยม มีขอบใบหยักมน หญ้าแดงมีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น วิตามินเอ วิตามินซี และแคลเซียม ประโยชน์ของหญ้าแดง เป็นอาหาร: ยอดอ่อนและใบอ่อนของหญ้าแดงสามารถนำมาลวกหรือนึ่งรับประทานได้ โดยมีรสชาติคล้ายผักขม แก้โรคท้องเสีย: น้ำต้มจากรากหญ้าแดงมีฤทธิ์ฝาดและช่วยสมานแผลในกระเพาะอาหารได้ แก้โรคเลือดออกตามไรฟัน: ใบหญ้าแดงนำมาตำแล้วผสมกับน้ำและเกลือเล็กน้อย หยดลงในปากเพื่อช่วยห้ามเลือด แก้โรคในระบบทางเดินหายใจ: น้ำต้มจากหญ้าแดงมีฤทธิ์ช่วยขับเสมหะ บรรเทาอาการไอและเจ็บคอ แก้โรคผิวหนัง: ใบหญ้าแดงนำมาตำแล้วพอกบริเวณที่มีอาการคันและผื่นแพ้จะช่วยลดอาการอักเสบได้ ข้อเสียของหญ้าแดง อาจเป็นพิษได้: หญ้าแดงมีสารซาโปนิน (Saponins) ซึ่งอาจเป็นพิษได้หากรับประทานในปริมาณมาก ระคายเคืองผิวหนัง: น้ำยางจากหญ้าแดงอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองบริเวณผิวหนังที่บอบบางได้