Tag Archives: พืชผัก

บานบุรี บานบุรี (Bougainvillea) เป็นไม้ดอกที่ปลูกกันอย่างแพร่หลายในประเทศไทย และมีหลากหลายสายพันธุ์ มีทั้งแบบที่เป็นไม้เลื้อยหรือไม้พุ่มสูง ในส่วนของดอกจะมีสีสันต่างๆ มากมาย เช่น สีชมพู สีแดง สีขาว สีส้ม สีเหลือง เป็นต้น ซึ่งออกดอกตลอดทั้งปี สรรพคุณของบานบุรี ดอกบานบุรี: ใช้เป็นยาขับเสมหะ ลดอาการไอ แก้เจ็บคอ ลดไข้ และยังมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ อีกด้วย ใบบานบุรี: ใช้เป็นยาลดพิษ แก้ไข้ และยังมีฤทธิ์เป็นยาฆ่าแมลงอีกด้วย การปลูกบานบุรี การปลูกบานบุรีสามารถทำได้ทั้งแบบเพาะเมล็ดและการปักชำกิ่ง โดยการเพาะเมล็ดนั้นควรทำในช่วงฤดูฝน ในขณะที่การปักชำกิ่งสามารถทำได้ตลอดทั้งปี โดยสังเกตจากช่อดอก ที่เริ่มร่วงก็ให้นำกิ่งพันธุ์มาปักชำ ในส่วนของการเตรียมดินนั้นควรร่วนซุยและมีการระบายน้ำที่ดี ในส่วนของการให้น้ำ ควรรดน้ำบ่อยๆ อย่าให้ดินแห้ง และในส่วนของการให้ปุ๋ย ควรใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเดือนละครั้ง ประโยชน์ของบานบุรี บานบุรีสามารถใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น ใช้เป็นไม้ประดับในสวนหรือปลูกในกระถาง ใช้ดอกบานบุรีมาประดิษฐ์เป็นช่อดอกไม้เพื่อใช้ในการบูชาพระหรือใช้ในพิธีต่างๆ ใช้ใบบานบุรีในการทำอาหาร เช่น การนำมาผัดกับไข่ หรือการนำมาต้มกับน้ำซุป เป็นต้น

เล็บครุฑ ประโยชน์ สรรพคุณ และการปลูกเล็บครุฑ เล็บครุฑ (ชื่อวิทยาศาสตร์: Acacia pennata) เป็นไม้พุ่มกิ่งก้านแข็ง ก้านตรง หนามยาวแหลม ดอกสีเหลืองอ่อนคล้ายเล็บเหยี่ยว ลักษณะใบกลม มีปลายแหลม โคนใบกลม ประโยชน์และสรรพคุณของเล็บครุฑ ฆ่าพยาธิ ขับพิษร้อน รักษาอาการอาหารไม่ย่อย ขับลม แก้ท้องเสีย แก้อาการปวดแสบปวดร้อนในช่องท้อง ท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด ช่วยในการขับถ่าย ขับพิษต่าง ๆ ออกจากร่างกาย แก้ไข้จับสันนิบาต แก้เบื่อเมา บำบัดพิษสุรา ช่วยบำรุงกำลังและแก้ไขอาการเบื่ออาหาร ช่วยบำรุงหัวใจและตับ ขับปัสสาวะ แก้น้ำเหลืองเสีย แก้พิษงู แก้พิษต่าง ๆ แผลสด แผลอักเสบ ช่วยต้านเชื้อรา แก้น้ำกัดเท้า ช่วยสมานแผลและแผลเปื่อย วิธีการปลูกเล็บครุฑ เตรียมดินให้ร่วนซุย โดยการไถพรวนดินและผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ขุดหลุมปลูกให้มีขนาดกว้างและลึกประมาณ 30 เซนติเมตร นำต้นกล้าเล็บครุฑลงปลูกในหลุมปลูก แล้วกลบดินให้แน่น รดน้ำให้ชุ่ม ให้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักแก่ต้นเล็บครุฑทุกๆ 3-4 เดือน […]

ว่านเสน่ห์จันทร์แดง สมุนไพรไทยโบราณเชื่อว่ามีมงคลและมีสรรพคุณทางยา ว่านเสน่ห์จันทร์แดง สรรพคุณทางยา ว่านเสน่ห์จันทร์แดง มีสรรพคุณทางยา ดังนี้ ใบและดอก รสขม ใช้เป็นยาแก้ไข้ตัวร้อน ถอนพิษไข้ แก้หวัด แก้ไอ ขับเสมหะ แก้เจ็บคอ ชูกำลัง ช่วยเจริญอาหาร ทาแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก ราก ใช้เป็นยาบำรุงหัวใจ โดยนำรากว่านเสน่ห์จันทร์แดงสด ปั่นผสมน้ำและน้ำผึ้งพอเหมาะ ทานครั้งละ 1 ช้อนชา 1-2 ครั้งต่อวัน นิยมใช้เป็นยารักษาอาการทางนรีเวช ใช้รากว่านเสน่ห์จันทร์แดงสดบดเป็นผงผสมเหล้าขาวให้ผู้หญิงดื่มเพื่อให้มีประจำเดือน หรือใช้หัวว่านเสน่ห์จันทร์แดงสดนำไปผสมผสานกับตัวยาสมุนไพรอื่นๆ ใช้ต้มเป็นยาดื่มแก้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ช่วยรักษาอาการปวดประจำเดือนหรือตกขาว ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด (ใช้ใบสดและรากสดเป็นส่วนประกอบ) ช่วยรักษาเบาหวาน (ใช้ใบสดและรากสดเป็นส่วนประกอบ) ว่านเสน่ห์จันทร์แดง ความเป็นมงคล ใช้ใบม้วนสูบหายใจ ทำให้มีเสน่หามากยิ่งขึ้นหรือใช้ดอกว่านเสน่ห์จันทร์แดงไปบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอโชคลาภ ต่างๆ นิยมปลูกไว้ประดับบ้าน ประดับสวน ในเรือนกระจกหรือตามริมหน้าต่าง เพราะกว่านเสน่ห์จันทร์แดงนั้นมีใบที่สวยงาม สีสันสดุดตา ทั้งสีเขียวและสีแดงในใบเดียวกัน มีความเป็นมงคลทั้งในบ้านที่อยู่อาศัย และในเรื่องของความรัก ทำให้อธิษฐานขอเรื่องความรักแง่บวกได้ดีมาก การปลูกและดูแล ว่านเสน่ห์จันทร์แดง ควรปลูกในกระถาง เนื่องจากมีหัวและรากขนาดใหญ่ […]

พวงคราม ดอกช่อใหญ่ สีม่วงสด พวงคราม เป็นพันธุ์ไม้ดอกที่มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ มีลักษณะเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก สูงได้ถึง 1-2 เมตร ลำต้นตรง แตกกิ่งก้านเป็นพุ่มหนาแน่น ใบเป็นใบประกอบออกตรงข้ามกัน ใบย่อยรูปไข่แกมขอบขนาน ขอบใบหยักมน ดอกออกเป็นช่อกระจุกอยู่ที่ปลายกิ่ง แต่ละช่อมีดอกย่อยจำนวนมาก กลีบดอกสีม่วงสดหรือม่วงอมน้ำเงิน มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ผลเป็นฝักแบน วิธีปลูก พวงครามเป็นไม้ที่ปลูกง่าย ชอบดินร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี แสงแดดจัดหรือแดดรำไร ขยายพันธุ์โดยการปักชำกิ่ง สามารถปลูกได้ทั้งในกระถางและลงดิน การเตรียมดิน ดินที่ใช้ปลูกควรเป็นดินร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี โดยผสมดินร่วน ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก และทรายในอัตราส่วน 1:1:1 การเตรียมกิ่งพันธุ์ เลือกกิ่งพันธุ์ที่สมบูรณ์แข็งแรง ปราศจากโรคและแมลง ตัดกิ่งพันธุ์ให้มีความยาวประมาณ 10-15 เซนติเมตร เฉียง 45 องศา นำกิ่งพันธุ์ไปแช่น้ำยาเร่งรากประมาณ 30 นาที การปักชำ นำกิ่งพันธุ์ที่เตรียมไว้ปักลงในดินที่เตรียมไว้ กดดินบริเวณโคนกิ่งให้แน่น รดน้ำให้ชุ่ม วางกระถางในบริเวณที่มีแสงแดดรำไร การดูแลรักษา รดน้ำสม่ำเสมอ ใส่ปุ๋ย 15-15-15 ทุกๆ […]

การปลูกบัวหลวง (บัววิคตอเรีย) บัวหลวงเป็นบัวที่ได้รับความนับจากผู้คนทั่วโลกและเป็นที่ยอมรับกันว่า มีความวิจิตรบรรจรงแล้ว เตช่าคันมาก น่าทึ่ง และที่สำคัญมีการใช้งานได้ทั้งปลูกเป็นไม้ประจำทางและตกกระป๋องเป็นสมุมไพรมาบำบัดคนได้ด้วย วัสดุกระทั้งหมด บ่อปลูกบัว ดินปลูก หรือ ดินแกลบผสมกับปุ๋ยคอกเก่า ปุ๋ยคอก หรือ ปุ๋ยหมัก น้ำตาลทราย เมล็บบัว หรือ เหง้าบัว ขั้นตอนการเตรียมบ่อปลูกบัว จัดเตรียมบ่อสำหรับปลูก โดยขุดบ่อให้มีทั้งจังหวะและสอดคล้อง มีความลึกที่เหมาะสม ใช้ดินปลูกหรือดินแกลบผสมกับปุ๋ยคอกเก่ารองก้นบ่อหนาอย่างน้อย15เซนติเมตร 3.เติมน้ำลงไปในบ่อให้ไปมากกว่าครึ่งบ่อ ทิ้งไว้อย่างน้อย3วัน และปริมาณน้ำ น้ำจะได้มีการระเหยออกไปบ้าง ขั้นตอนการปลูกบัวหลวง เลือกเมล็บบัวหรือเหง้าบัวที่สมบูรณ์ตักเกรด 2.หว่านเมล็บบัวในบ่อ หรือ ปักเหง้าบัวไส่ลงไปที่โคลน ใช้ไม้ไผ่ หรือ เหล็กทำเป็นซี่กั้นหนามทิ่มไม่ให้ปลาในบ่อว่ายออกไปรบกวนบัว การดูเแลรักษา 1.รดน้ำบัวทุกๆ3วัน 2. ควรถอนหญ้ารอบๆบ่อปลูกบัวบ่อยๆไม่ให้มายุรบกวนได้ผล 3. ควรลงปุ๋ยคอกทุกๆ6-12 เดือนหรือเมื่อเห็นว่า ปุยคอกในบ่อหายไปแล้ว 4.ให้ปุ๋ยอย่างจุหมัดจดไม่เกินอย่างเหลืออยู่ หรือ ควรให้ตามปริมาณที่จำบัด 5.รับแดด4-6 ชม. ต่อวันโดยบังเลย์อย่าให้แล้วอย่างมาทักวน 6. ไม่ว่ายผักว้อนมาใรบ่อ มากไปบัวจะทนอยู่ไม่ได้

กระจับ/กระจับเขาควาย กระจับหรือกระจับเขาควาย เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก สูงประมาณ 1-3 เมตร ลำต้นและกิ่งมีหนามแหลมคม ใบเป็นใบประกอบแบบขนนกปลายคี่ เรียงสลับ ขอบใบหยักเว้าเล็กน้อย ดอกออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง ดอกย่อยมีขนาดเล็ก กลีบดอกสีขาวหรือชมพู ผลเป็นฝักแบน รูปร่างรี เมื่อแก่จะแตกออกเป็น 2 ซีก ภายในมีเมล็ดสีน้ำตาล สรรพคุณของกระจับ ใบและรากมีรสขม ต้มดื่มแก้ไข้ แก้ปวดประจำเดือน แก้ท้องเสีย เปลือกต้นมีรสฝาด ต้มดื่มแก้ไข้ แก้ไอ แก้ปวดแน่นหน้าอก ผลมีรสขม ต้มดื่มแก้ไข้ แก้ท้องร่วง แก้โรคบิด เมล็ดมีรสขม ต้มดื่มแก้ไข้ แก้ท้องร่วง แก้โรคบิด แก้ไอ หนามมีรสขม ต้มดื่มแก้ไข้ แก้ท้องเสีย แก้ปวดประจำเดือน การปลูกกระจับ กระจับสามารถปลูกได้ในดินร่วนซุยที่มีความชื้นสูง ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ดหรือปักชำกิ่ง การปลูกกระจับโดยการเพาะเมล็ด นำเมล็ดกระจับมาแช่น้ำอุ่นประมาณ 1 คืน นำเมล็ดที่แช่แล้วไปเพาะในกระบะเพาะหรือแปลงเพาะที่เตรียมไว้ รดน้ำให้ชุ่มและดูแลให้ดินมีความชื้นอยู่เสมอ เมื่อต้นกล้าเจริญเติบโตและมีอายุประมาณ 1-2 เดือน ก็สามารถย้ายปลูกลงในแปลงปลูกได้ การปลูกกระจับโดยการปักชำกิ่ง […]

โสน (Cassia alata L.) ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ โสน เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก สูงได้ถึง 2 เมตร ลำต้นตั้งตรงมีขนสั้นปกคลุม ใบประกอบแบบขนนก มีใบย่อย 6-10 คู่ ใบย่อยรูปไข่แกมขอบขนาน ปลายใบแหลม โคนใบมน ดอกออกเป็นช่อแบบกระจะที่ปลายกิ่ง กลีบดอกมี 5 กลีบสีเหลือง ปลายกลีบแยกเป็น 2 แฉก ผลเป็นฝักแบนยาว มีริ้วนูนตามขอบฝัก ภายในมีเมล็ดสีน้ำตาลแบนๆ สรรพคุณทางยา ใบ แก้โรคผิวหนัง เช่น กลาก เกลื้อน งูสวัด ทาริดสีดวงตก แก้แผลน้ำเหลืองเสีย ทาแผลสดให้หายเร็วขึ้น แก้ปวดบวม แก้ฟกช้ำ ดอก บำรุงหัวใจ แก้หลอดลมอักเสบ แก้ไอ ลดความดันโลหิต ทั้งต้น แก้ไข้ ขับเสมหะ แก้ไอ บำรุงธาตุ แก้ท้องร่วงและท้องผูก การปลูกโสน การเตรียมดิน ขุดหลุมปลูกลึกและกว้างประมาณ 30 […]

ดอกดิน สมุนไพรหลากคุณประโยชน์ ดอกดิน หรือที่รู้จักกันในชื่ออื่นๆ เช่น กระเจียวดอกดิน, ดี, เซิง เชิงวา เป็นพืชสมุนไพรที่ขึ้นชื่อในเรื่องสรรพคุณทางยาหลากหลาย โดยเฉพาะในด้านการต่อต้านมะเร็ง สรรพคุณทางยาที่โดดเด่น 1. ต่อต้านมะเร็ง สารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในดอกดิน เช่น แอนโทไซยานินและเบต้าแคโรทีน มีฤทธิ์ในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง โดยเฉพาะเซลล์มะเร็งเต้านมและเซลล์มะเร็งต่อมลูกหมาก 2. แก้ไอ ลดไข้ ดอกดินมีคุณสมบัติในการขับเสมหะและบรรเทาอาการไอ นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ในการลดอุณหภูมิร่างกาย จึงช่วยลดไข้ได้ 3. ลดอาการอักเสบ สารเคอร์คูมินในดอกดินมีฤทธิ์ในการต้านการอักเสบ ช่วยบรรเทาอาการอักเสบในโรคข้อกระดูกและข้ออักเสบ 4. บำรุงร่างกาย ดอกดินอุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่ต่างๆ เช่น วิตามินซี, วิตามินบี 1 และธาตุเหล็ก ช่วยบำรุงระบบภูมิคุ้มกันและเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย วิธีใช้ประโยชน์จากดอกดิน ดอกดินสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลายวิธี เช่น หุงนึ่งข้าว: โดยใส่ดอกดินที่ตากแห้งลงไปในหม้อหุงข้าวพร้อมกับข้าว จะช่วยให้ข้าวมีสีสันสวยงามและมีกลิ่นหอม ชงเป็นชา: นำดอกดินที่ตากแห้งมาชงกับน้ำร้อน ดื่มเป็นชาช่วยแก้อาการไอ ลดไข้ และบำรุงร่างกาย ต้มเป็นน้ำสมุนไพร: ต้มดอกดินกับน้ำจนเดือดแล้วกรองเอาแต่น้ำ ดื่มเพื่อบรรเทาอาการข้ออักเสบและเสริมภูมิคุ้มกัน

กล้วยน้ำว้า กล้วยน้ำว้าเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์มากมายต่อสุขภาพ โดยในกล้วยน้ำว้านั้นมีสารอาหารที่มีประโยชน์สูงมากมาย เช่น วิตามินซี วิตามินเอ โพแทสเซียม เป็นต้น คุณค่าและสรรพคุณของกล้วยน้ำว้า ช่วยในการย่อยอาหาร กล้วยน้ำว้ามีเส้นใยอาหารสูง ซึ่งช่วยในการย่อยอาหารและป้องกันอาการท้องผูก ลดความดันโลหิตสูง กล้วยน้ำว้ามีโพแทสเซียมสูง ซึ่งช่วยลดความดันโลหิตสูงได้ บำรุงระบบประสาท กล้วยน้ำว้ามีวิตามินบี 6 ซึ่งช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง เพิ่มพลัง กล้วยน้ำว้ามีน้ำตาลธรรมชาติ ซึ่งช่วยเพิ่มพลังงานได้อย่างรวดเร็ว บำรุงกระดูก กล้วยน้ำว้ามีแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูง ซึ่งช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง บำรุงสายตา กล้วยน้ำว้ามีวิตามินเอสูง ซึ่งช่วยบำรุงสายตาและป้องกันโรคตา ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล กล้วยน้ำว้ามีไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้ ซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้ ป้องกันมะเร็ง กล้วยน้ำว้ามีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ซึ่งช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งได้ การปลูกกล้วยน้ำว้า กล้วยน้ำว้าเป็นพืชที่ปลูกง่ายและสามารถปลูกได้ในดินทุกชนิด โดยวิธีการปลูกกล้วยน้ำว้าง่ายๆ มีดังนี้ การเตรียมดิน ขุดหลุมปลูกกว้างประมาณ 50×50 เซนติเมตร และลึกประมาณ 50 เซนติเมตร ผสมดินกับปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในอัตรา 1:1 การปลูก นำหน่อกล้วยน้ำว้าลงปลูกในหลุม แล้วกลบดินให้แน่น รดน้ำให้ชุ่ม การดูแลรักษา รดน้ำกล้วยน้ำว้าให้ชุ่มเป็นประจำ หมั่นกำจัดวัชพืช พรวนดิน […]

ตะไคร้ต้น ตะไคร้ต้นเป็นพืชล้มลุกที่มีต้นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีลำต้นสูงได้ถึง 2 เมตร ลำต้นมีลักษณะเป็นกอ ใบยาวเรียว มีเส้นกลางใบสีขาวชัดเจน มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ตะไคร้ต้นเป็นพืชที่ปลูกง่าย ขึ้นได้ดีในดินร่วนซุย มีการระบายน้ำที่ดี ประโยชน์ของตะไคร้ต้น ใช้เป็นเครื่องเทศสำหรับปรุงอาหาร ช่วยเพิ่มกลิ่นและรสชาติให้กับอาหาร โดยเฉพาะในอาหารไทย ใช้เป็นส่วนประกอบในเครื่องดื่มสมุนไพร เช่น ชาตะไคร้ น้ำตะไคร้ ใช้ไล่ยุงและแมลงเนื่องจากมีกลิ่นที่แมลงไม่ชอบ ใช้เป็นยาสมุนไพร มีสรรพคุณช่วยขับลม แก้อาการจุกเสียดแน่นท้อง ป้องกันอาการท้องอืดท้องเฟ้อ ใช้เป็นยาหอมระงับกลิ่นปาก โดยนำใบตะไคร้มาเคี้ยวหรืออมไว้ สรรพคุณของตะไคร้ต้น ช่วยย่อยอาหาร ด้วยการกระตุ้นการหลั่งน้ำย่อย ทำให้การย่อยอาหารดีขึ้น แก้ลมจุกเสียด ด้วยการนำใบตะไคร้มาตำหรือต้มกับน้ำแล้วนำมาดื่ม ช่วยลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ ด้วยการนำตะไคร้มาต้มกับน้ำแล้วนำมาดื่ม ช่วยขับลม ด้วยการนำหัวตะไคร้มาตำหรือต้มกับน้ำแล้วนำมาดื่ม ช่วยลดอาการปวดฟัน ด้วยการนำใบตะไคร้มาเคี้ยวหรืออมไว้