Tag Archives: พืชผัก

กล้วย และการปลูกกล้วย

กล้วย และการปลูกกล้วย กล้วย เป็นผลไม้ที่ปลูกกันแพร่หลายในประเทศไทย สามารถปลูกได้ทั้งในดินและในน้ำ กล้วยมีหลายสายพันธุ์ แต่ละสายพันธุ์มีความแตกต่างกันทั้งในเรื่องของรูปร่าง ลักษณะ รสชาติ และการนำไปใช้ประโยชน์ พันธุ์กล้วย ในประเทศไทยมีกล้วยหลายสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยม เช่น กล้วยหอม เป็นกล้วยที่มีผลขนาดใหญ่ เนื้อนิ่ม รสชาติหวาน นิยมรับประทานสด กล้วยน้ำว้า เป็นกล้วยที่มีผลยาว ผิวบาง เนื้อนิ่ม รสชาติหวานอมเปรี้ยว นิยมนำไปทำอาหาร กล้วยไข่ เป็นกล้วยที่มีผลขนาดเล็ก ผิวหนา เนื้อแน่น รสชาติหวาน นิยมนำไปทำกะทิ ทอด หรือย่าง การปลูกกล้วย กล้วยเป็นพืชที่ปลูกง่าย สามารถปลูกได้ในดินทุกประเภท แต่ดินที่เหมาะสมกับการปลูกกล้วยคือดินร่วนซุย มีความชื้นสูง สามารถระบายน้ำได้ดี ขั้นตอนการปลูกกล้วย เลือกหน่อกล้วยที่สมบูรณ์ เตรียมหลุมปลูก โดยขุดหลุมขนาดกว้าง 60 เซนติเมตร ลึก 60 เซนติเมตร ใส่ปุ๋ยคอกและปุ๋ยเคมีลงในหลุมปลูก นำหน่อกล้วยลงปลูกในหลุมปลูก กดดินให้แน่น รดน้ำให้ชุ่ม พรวนดินและกำจัดวัชพืชเป็นประจำ 施用ปุ๋ยบำรุงต้นกล้วยทุก 1-2 เดือน […]

ชมพู่ สรรพคุณ และการปลูกชมพู่

ชมพู่ ชมพู่ (Rose apple) เป็นชื่อของผลไม้และพันธุ์ไม้ในสกุล Syzygium ซึ่งอยู่ในวงศ์ Myrtaceae ที่พบทั่วไปในเขตร้อนและกึ่งเขตร้อนของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย สรรพคุณของชมพู่ แก้อาการท้องเสีย ช่วยย่อยอาหาร แก้ไข้ ช่วยลดอาการอักเสบ ช่วยลดความดันโลหิตสูง ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด ช่วยลดน้ำหนัก บำรุงสายตา บำรุงผิว การปลูกชมพู่ การปลูกชมพู่สามารถทำได้ทั้งการเพาะเมล็ดและการตอนกิ่ง การเพาะเมล็ดชมพู่ นำเมล็ดชมพู่ที่สมบูรณ์มาแช่น้ำอุ่นประมาณ 1 ชั่วโมง นำเมล็ดชมพู่ไปเพาะในถุงเพาะชำที่เตรียมไว้ รดน้ำให้ชุ่ม วางถุงเพาะชำในที่ร่มรำไร เมื่อต้นกล้าชมพู่มีอายุประมาณ 1 เดือน ให้ย้ายลงปลูกในกระถางหรือแปลงปลูก การตอนกิ่งชมพู่ เลือกกิ่งชมพู่ที่สมบูรณ์ ปาดเปลือกกิ่งชมพู่ให้เป็นวงกลม 2 รอบ โดยให้ระยะห่างระหว่างรอยปาดประมาณ 1-2 นิ้ว โรยผงเร่งรากที่แผลปาด ใช้ดินหรือขุยมะพร้าวห่อแผลปาด รดน้ำให้ชุ่ม ประมาณ 1-2 เดือน รากจะงอกออกมาจากแผลปาด เมื่อรากงอกออกมามาก ให้ตัดกิ่งชมพู่ที่ตอนออกจากต้นแม่ นำกิ่งชมพู่ที่ตอนไปปลูกในกระถางหรือแปลงปลูก

ผักหนาม ผักป่า ใบกรอบหวาน และสรรพคุณ

ผักหนาม ผักพื้นบ้านใบกรอบหวาน ผักหนาม เป็นไม้ล้มลุก อายุหลายปี แตกกอเป็นกลุ่มเล็ก มีเหง้าอยู่ใต้ดิน ลำต้นเหนือดินมีลักษณะเป็นไม้เนื้ออ่อน มีหนามเล็กๆปกคลุมอยู่ทั่วทั้งลำต้น ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ชั้นเดียว รูปใบหอก เรียงสลับกันเป็นคู่ตามลำต้น กว้างประมาณ 1-2 เซนติเมตร ยาวประมาณ 2-4 เซนติเมตร ขอบใบหยักเป็นซี่ฟัน ดอกออกเป็นช่อตามซอกใบ ดอกย่อยมีขนาดเล็ก สีขาวหรือสีชมพู ผลเป็นฝักแบน ยาวประมาณ 3-4 เซนติเมตร ภายในมีเมล็ดสีน้ำตาลจำนวนมาก สรรพคุณของผักหนาม ใบใช้รับประทานเป็นผักสด โดยนำมาลวกหรือต้มจิ้มน้ำพริก หรือใช้เป็นส่วนผสมในอาหารประเภทแกง เช่น แกงส้ม แกงเลียง แกงอ่อม แกงแค มีสรรพคุณช่วยขับเสมหะ แก้ไอ แก้เจ็บคอ ช่วยลดความดันโลหิตสูง ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยบำรุงสายตา ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส

พลับพลึงธาร/หญ้าช้อง/หอมน้ำ พืชน้ำที่พบแห่งเดียวบนโลก

พลับพลึงธาร/หญ้าช้อง/หอมน้ำ พืชน้ำที่พบแห่งเดียวบนโลก พลับพลึงธาร หรือ หญ้าช้อง หรือ หอมน้ำ เป็นพืชน้ำที่หายากชนิดหนึ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Aneilema longirachis, มีลักษณะเป็นไม้น้ำ ใบเป็นแผ่นกลมกว้างประมาณ 1.5-2 ซม. ขอบใบเรียบ ดอกมีสีม่วงหรือม่วงอมชมพู แซมขาวหรือเหลือง เป็นช่อดอกแบบกระจะ ดอกย่อยจำนวนมากขนาดเล็ก กลีบดอกมี 6 กลีบ ผลเป็นแบบแคปซูล ขนาดเล็ก ภายในมีเมล็ดขนาดเล็กจำนวนมาก พลับพลึงธาร จัดเป็นพืชน้ำที่พบได้แห่งเดียวบนโลก พบที่บริเวณป่าดงดิบชื้นในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดชุมพร และจังหวัดระนอง ในประเทศไทยเท่านั้น นิยมปลูกเป็นไม้ประดับในบ่อน้ำ เนื่องจากมีดอกสีสันสวยงาม และมีความหายาก คุณสมบัติทางยาของพลับพลึงธาร รากของพลับพลึงธารมีรสชาติขมเล็กน้อย มีสรรพคุณเป็นยาบำรุงโลหิต แก้ประจำเดือนไม่มา แก้เมนส์ขาด บำรุงหัวใจ แก้เกลื้อน แก้ผื่นคัน แก้แผลเรื้อรัง ช่วยสมานแผล ป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรีย ช่วยเร่งให้แผลหายเร็วขึ้น วิธีใช้พลับพลึงธารเป็นยา แก้ประจำเดือนไม่มา แก้เมนส์ขาด: นำรากสดประมาณ 5-10 กรัม มาต้มกับน้ำ 1 […]

วิธีปลูก และดูแลทุเรียนเล็กหลังปลูกจนถึงก่อนออกดอกให้รอด

เคล็ดลับการปลูกและดูแลทุเรียนเล็กหลังปลูกจนถึงก่อนออกดอกให้รอด การเตรียมดินปลูก ขุดหลุมปลูกขนาด 50 x 50 x 50 เซนติเมตร รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยมูลสัตว์ 10 กิโลกรัม และปุ๋ยร็อคฟอสเฟส 1 กิโลกรัม ผสมดินปลูกด้วยดินร่วน ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยมูลสัตว์ และทรายในอัตรา 2:1:1 กลบดินปลูกให้เต็มหลุม แล้วรดน้ำให้ชุ่ม การปลูก นำต้นกล้าทุเรียนเล็กที่แข็งแรงมาปลูก วางต้นกล้าทุเรียนเล็กไว้ตรงกลางหลุมปลูก กดดินปลูกให้แน่นรอบๆโคนต้น แล้วรดน้ำให้ชุ่ม การให้น้ำ ช่วงแรกหลังปลูกควรให้น้ำทุกวัน เมื่อต้นกล้าทุเรียนเล็กตั้งตัวได้แล้ว ให้ลดการให้น้ำลงเหลือสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ในช่วงฤดูแล้งควรรดน้ำเพิ่มเติมให้กับต้นกล้าทุเรียนเล็ก การใส่ปุ๋ย ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยมูลสัตว์ 5 กิโลกรัม ต่อนต้น 1 ปี ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 อัตรา 1 กิโลกรัม ต่อนต้น 2 ครั้งต่อปี ใส่ปุ๋ยสูตร 8-24-24 อัตรา 1 กิโลกรัม ต่อนต้น 2 […]

ดอกดิน ใช้หุงนึ่งข้าว เด่นต้านมะเร็ง แก้ไอ ลดไข้ แก้โรคข้อกระดูก

ดอกดิน ใช้หุงนึ่งข้าว เด่นต้านมะเร็ง แก้ไอ ลดไข้ แก้โรคข้อกระดูก ดอกดินเป็นสมุนไพรมากสรรพคุณ ในหลายตำราพบว่าดอกดินมีสรรพคุณโ่นเช่น ลดไข้ทางเดินหายใจ แก้ไอ ส่วนตุ้มของดอกดินตากแห้งนำมาชงเป็นชาดื่ม แก้พิษจากอากาศ บรรเทาอาการโรคหัวใจ แก้โรคกระดูก หอบหืด และบำบัดอาการเหน็บ​ชา​ Enzyme giảm cân của Nhật Bản สรรพคุณดอกดิน ดอกดินสามารถใช้รักษาโรคมะเร็งได้ ดอกดินมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ อนุมูลอิสระเป็นสารพิษที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในร่างกายและสามารถนำไปสู่การพัฒนาของเซลล์มะเร็งได้ ดอกดินสามารถใช้รักษาอาการไอได้ ดอกดินมีฤทธิ์ลดการอักเสบและต้านเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งสามารถช่วยบรรเทาอาการไอได้ ดอกดินสามารถใช้รักษาไข้ได้ ดอกดินมีฤทธิ์ลดไข้และจะทำให้เหงื่อออกมากขึ้น ซึ่งสามารถช่วยลดอุณหภูมิของร่างกายได้ ดอกดินสามารถใช้รักษาโรคข้อกระดูกได้ ดอกดินมีฤทธิ์ลดการอักเสบและบรรเทาอาการปวด ซึ่งสามารถช่วยบรรเทาอาการโรคข้อกระดูกได้ วิธีใช้ดอกดิน ใช้ออกดินหุงข้าว: ล้างดอกดินให้สะอาด ผึ่งให้แห้งหรือตากแดด แล้วนำไปตากแดดอีกครั้ง นำไปเก็บในภาชนะแก้วหรือเซรามิกที่ปิดสนิท สามารถนำดอกดินไปหุงในข้าว 1 ช้อนโต๊ะต่อข้าวสาร 1 ถ้วย ต้มดื่ม: นำดอกดินและน้ำสะอาดไปต้มในภาชนะที่ทำจากแก้วหรือเซรามิก จนเดือดแล้วลดไฟ เคี่ยวจนน้ำงวด จากนั้นกรองเอาแต่น้ำดื่ม โดยอาจเติมน้ำผึ้งหรือน้ำอ้อยเล็กน้อยเพื่อรสชาติที่ดีขึ้น นำตุ้มดอกดินแห้งมาต้มดื่ม โดยใช้ตุ้มดอกดิน 1 […]

ตะไคร้ ใบตะไคร้ ประโยชน์ และสรรพคุณตะไคร้

ตะไคร้ ตะไคร้เป็นพืชล้มลุกที่มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบได้ในหลายประเทศ รวมถึงไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม และมาเลเซีย ตะไคร้มีลำต้นสูงประมาณ 1-2 เมตร ลำต้นกลม เรียบ มีร่องตามความยาวของลำต้น ใบเป็นใบเดี่ยว เรียงสลับเวียนรอบลำต้น ใบมีลักษณะยาวและแคบ ใบมีสีเขียวเข้มและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ดอกของตะไคร้เป็นดอกช่อสีขาวหรือสีชมพูอ่อน ดอกจะออกที่ปลายลำต้น ตะไคร้เป็นพืชที่ปลูกง่าย สามารถปลูกได้ในดินหลายประเภท แต่เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุยที่มีการระบายน้ำดี ตะไคร้ชอบอากาศร้อนและชื้น ใบตะไคร้ ใบตะไคร้มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว และมีรสชาติเผ็ดเล็กน้อย ใบตะไคร้ใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารไทยหลายชนิด เช่น ต้มยำ แกงเขียวหวาน แกงเนื้อ และผัดเผ็ด ใบตะไคร้ยังใช้ทำเครื่องดื่ม เช่น ชาตะไคร้ และน้ำตะไคร้ ใบตะไคร้มีสรรพคุณทางยาหลายประการ เช่น ช่วยย่อยอาหาร แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน และท้องเสีย ใบตะไคร้ยังช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยลดความดันโลหิตสูงได้ ประโยชน์และสรรพคุณตะไคร้ ตะไคร้เป็นพืชที่มีประโยชน์และมีสรรพคุณทางยาหลายประการ นอกจากใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารแล้ว ตะไคร้ยังใช้ทำเป็นยาสมุนไพรได้อีกด้วย ตะไคร้มีสรรพคุณทางยา ดังนี้ ช่วยย่อยอาหาร แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ลดอาการคลื่นไส้ […]

ผักแว่น ชนิด ประโยชน์ สรรพคุณ และการปลูกผักแว่น

ผักแว่น ผักแว่นเป็นผักพื้นบ้านที่มีแหล่งกำเนิดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นพืชล้มลุกอายุประมาณ 1 ปี ลำต้นสูงได้ถึง 1 เมตร มีขนนุ่มปกคลุม ใบเป็นใบเดี่ยวออกตรงข้ามกัน รูปไข่หรือรูปรี กว้างประมาณ 2-5 ซม. ยาวประมาณ 3-7 ซม. ขอบใบหยักมน ดอกสีขาวเล็กๆ ออกเป็นช่อที่ปลายยอด มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ประเภท ผักแว่นมีหลายประเภท ได้แก่ ผักแว่นใบใหญ่ (Ageratum conyzoides var. latifolium) – มีใบใหญ่และกว้างกว่าผักแว่นชนิดอื่นๆ ผักแว่นใบเล็ก (Ageratum conyzoides var. angustifolium) – มีใบเล็กและแคบกว่าผักแว่นชนิดอื่นๆ ผักแว่นดอกขาว (Ageratum conyzoides var. album) – มีดอกสีขาว ผักแว่นดอกม่วง (Ageratum conyzoides var. purpureum) – มีดอกสีม่วง ประโยชน์และสรรพคุณ ผักแว่นมีสรรพคุณทางยาหลายประการ ได้แก่ […]

ละหุ่ง (castor) สรรพคุณ และการปลูกละหุ่ง

ละหุ่ง (castor) ละหุ่ง หรือละหุ่งน้ำมัน เป็นพืชตระกูล Euphorbiaceae เมล็ดละหุ่งมีน้ำมันประมาณ 40-50% ซึ่งมีกรดไขมันชนิดริซิโนเลอิก (ricinoleic acid) สูงถึง 85% น้ำมันละหุ่งมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยบรรเทาอาการท้องผูก รวมทั้งมีสรรพคุณอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ช่วยลดการอักเสบ น้ำมันละหุ่งมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ จึงอาจช่วยบรรเทาอาการอักเสบต่างๆ ได้ เช่น โรคข้ออักเสบ ผื่นแพ้ และแผลไหม้ ช่วยรักษาโรคท้องผูก น้ำมันละหุ่งมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ จึงอาจช่วยบรรเทาอาการท้องผูกได้ โดยน้ำมันละหุ่งจะช่วยกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ ทำให้ถ่ายอุจจาระได้ง่ายขึ้น ช่วยรักษาอาการผิวแห้งและคัน น้ำมันละหุ่งมีคุณสมบัติช่วยให้ผิวชุ่มชื้น จึงอาจช่วยบรรเทาอาการผิวแห้งและคันได้ โดยน้ำมันละหุ่งจะช่วยสร้างชั้นฟิล์มบางๆ บนผิวหนัง เพื่อช่วยรักษาความชุ่มชื้น ช่วยเร่งการเจริญเติบโตของเส้นผม น้ำมันละหุ่งมีสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของเส้นผม เช่น วิตามินอี และกรดไขมันจำเป็นต่างๆ การใช้น้ำมันละหุ่งเป็นประจำอาจช่วยเร่งการเจริญเติบโตของเส้นผม และช่วยให้เส้นผมแข็งแรงขึ้น การปลูกละหุ่ง ละหุ่งเป็นพืชที่ปลูกง่าย สามารถปลูกได้ในดินทุกประเภท แต่เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนปนทรายที่มีการระบายน้ำดี ละหุ่งไม่ชอบน้ำขัง ดังนั้นควรเลือกพื้นที่ปลูกที่มีการระบายน้ำดี หรือยกแปลงปลูกให้สูงขึ้นเพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง ละหุ่งเป็นพืชที่ต้องการแสงแดดจัด ควรปลูกในพื้นที่ที่มีแสงแดดส่องถึงอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน […]

บัวดิน และการปลูกบัวดิน

บัวดิน บัวดิน (Scientific name: Nymphaea lotus L.) เป็นไม้ล้มลุก มีอายุหลายปี มีเหง้าอยู่ใต้ดิน ใบอวบน้ำ ขอบใบหยักเป็นจักๆ สีเขียวเข้มหรือสีม่วง ปลูกได้ในดินหรือในน้ำ ใบมีลักษณะพิเศษคือแผ่กว้างออกด้านข้าง ประมาณ 10-30 เซนติเมตร แผ่นใบตัดจากกลางใบและเรียงเวียนตามขอบใบ ออกดอกเดี่ยว ดอกโผล่เหนือผืนน้ำ มี 3 กลีบ เป็นสีขาว ฟ้า หรือชมพู บานเต็มที่เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5-10 เซนติเมตร ดอกบานในช่วงเช้าเมื่อพระอาทิตย์ขึ้นจากขอบฟ้าและหุบในช่วงบ่าย การปลูกบัวดิน บัวดินเป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ดีในน้ำตื้นหรือในดินที่ชื้นแฉะ ดินร่วนซุย เหมาะสำหรับการปลูกบัวดินที่มีอายุยังน้อย และจะปลูกในดินเหนียวที่อุดมสมบูรณ์ บัวดินสามารถปลูกในภาชนะหรือในแปลงก็ได้ โดยขั้นตอนการปลูกบัวดินมีดังนี้ การเตรียมดิน: ปรับปรุงดินโดยการไถ พรวน ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไป และกำจัดวัชพืชออก การปลูก: ขุดหลุมปลูกขนาดกว้างและลึกประมาณ 30-50 เซนติเมตร รองก้นหลุมด้วยดินปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก จากนั้นนำต้นบัวดินลงปลูกโดยให้ส่วนโคนต้นอยู่ต่ำกว่าระดับดินเล็กน้อย แล้วกลบดินให้แน่น รดน้ำให้ชุ่ม การดูแลรักษา: รดน้ำบ่อยๆ โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อน ที่สำคัญคือ […]