Tag Archives: ข้าว

ผักเคล (curly Kale) ราชินีผักใบเขียว คุณค่าทางโภชนาการสูง สรรพคุณ และวิธีปลูก

ผักเคล (curly kale) ราชินีผักใบเขียว คุณค่าทางโภชนาการสูง สรรพคุณ และวิธีปลูก ผักเคล (Curly Kale) เป็นผักใบเขียวที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากชนิดหนึ่ง อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย จึงได้รับการขนานนามว่าเป็น “ราชินีผักใบเขียว” คุณค่าทางโภชนาการของผักเคล ผักเคล (Curly Kale) มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก โดยมีสารอาหารที่สำคัญ ได้แก่ วิตามิน A, C, และ K แคลเซียม โพแทสเซียม แมกนีเซียม เหล็ก สารต้านอนุมูลอิสระ สรรพคุณของผักเคล (Curly Kale) ผักเคล (Curly Kale) มีสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย ได้แก่ ช่วยบำรุงสายตา ช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยลดน้ำหนัก ช่วยบำรุงผิวพรรณ วิธีปลูกผักเคล (Curly Kale) เตรียมดินโดยไถพรวนและใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก หว่านเมล็ดผักเคลลงไปในดินโดยให้ห่างกันประมาณ 30 เซนติเมตร รดน้ำให้ดินชุ่ม พรวนดินและกำจัดวัชพืชเป็นประจำ […]

หญ้าแดง ประโยชน์ และข้อเสียหญ้าแดง

หญ้าแดง ประโยชน์ของหญ้าแดง ต้มดื่มเป็นยาแก้ไข้ แก้ปวดหัว แก้ท้องเสีย แก้ท้องอืด แก้โรคเลือดออกตามไรฟัน แก้โรคลักปิดลักเปิด แก้โรคพุพอง แก้โรคเรื้อน : ทั้งต้น ตำพอกที่บาดแผล : ทั้งต้น รักษาแผลเป็นหนอง : ทั้งต้น รักษาโรคกระเพาะอาหาร : ทั้งต้น รักษาโรคลำไส้ : ทั้งต้น รักษาโรคตับ : ทั้งต้น รักษาโรคไต : ทั้งต้น รักษาโรคเบาหวาน : ทั้งต้น (ข้อควรระวัง : ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้) ข้อเสียของหญ้าแดง อาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ : ในบางคนอาจเกิดอาการแพ้หญ้าแดงได้ เช่น ผื่นคัน แสบร้อน ผิวหนังไหม้ หรือหายใจลำบาก อาจทำให้เกิดอาการท้องเสียได้ : การรับประทานหญ้าแดงมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการท้องเสียได้ อาจทำให้เกิดอาการปัสสาวะบ่อยได้ : การรับประทานหญ้าแดงมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการปัสสาวะบ่อยได้ (ข้อควรระวัง : ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้)

ชะอม สรรพคุณ และการปลูกชะอม

ชะอม ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ชะอมเป็นไม้พุ่มขนาดกลาง จัดอยู่ในวงศ์กระดังงา (Annonaceae) โดยมีลักษณะทางพฤกษศาสตร์ดังนี้ ลำต้น ลำต้นมีความสูงประมาณ 1-3 เมตร ลำต้นเป็นสีน้ำตาล มีเปลือกลำต้นหนาและค่อนข้างขรุขระ กิ่งก้านมีลักษณะเป็นเหลี่ยมและมีขนปกคลุมทั่วไป ใบ ใบมีลักษณะเป็นใบเดี่ยว รูปทรงใบคล้ายกับใบมะนาว มีขนาดความยาวประมาณ 10-20 เซนติเมตร และกว้างประมาณ 5-8 เซนติเมตร ขอบใบหยักเว้าลึกเป็นแฉก 3-4 แฉก โคนใบสอบและมีติ่งที่โคนก้านใบ ดอก ชะอมเป็นพืชที่แยกเพศ มีทั้งต้นตัวผู้และต้นตัวเมีย ดอกของชะอม มีลักษณะเป็นดอกสมบูรณ์เพศ ดอกของชะอมมีสีเขียวอ่อน มีขนาดค่อนข้างเล็ก มีกลีบดอก 6 กลีบ มีเกสรตัวผู้จำนวนมาก และมีเกสรตัวเมีย 1 เกสร ผล ผลของชะอมมีลักษณะเป็นผลกลุ่ม ผลย่อยแต่ละผลมีลักษณะเป็นทรงกระบอกคล้ายฝักถั่ว เปลือกผลมีสีเขียวหรือสีเขียวอมเหลือง เมื่อผลแก่จะมีสีน้ำตาลเข้ม เปลือกผลค่อนข้างแข็ง มีเมล็ดจำนวนมาก เมล็ดของชะอมจะมีขนาดเล็ก มีลักษณะเป็นทรงกลมรี มีสีน้ำตาลและมีขนปกคลุมอยู่ทั่วไป การปลูกชะอม การปลูกชะอมสามารถทำได้ง่ายโดยใช้ทั้งเมล็ดหรือกิ่งพันธุ์ โดยทั่วไปนิยมใช้กิ่งพันธุ์เพราะจะให้ผลผลิตเร็วกว่าการเพาะเมล็ด การเลือกพื้นที่ปลูก ชะอมสามารถปลูกได้ในสภาพดินที่หลากหลาย […]

กระดุมทองเลื้อย และเบญจมาศเครือ

กระดุมทองเลื้อย กระดุมทองเลื้อยเป็นไม้เลื้อยชนิดหนึ่งที่มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาใต้ จัดอยู่ในสกุล Passiflora วงศ์ Passifloraceae ลักษณะเด่นของกระดุมทองเลื้อยคือ มีดอกที่มีขนาดใหญ่และมีสีสันสวยงาม ดอกมีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ และกลีบดอก 5 กลีบ กลีบเลี้ยงมีขนาดใหญ่กว่ากลีบดอกและมีสีสันหลากหลาย เช่น ม่วง ขาว ชมพู เขียว กลีบดอกมีขนาดเล็กกว่ากลีบเลี้ยงและมีสีขาวหรือม่วงอ่อน นอกจากนี้ กระดุมทองเลื้อยยังมีใบที่เป็นรูปหัวใจ มีติ่งที่ขอบใบ และมีสีเขียวสด กระดุมทองเลื้อยชอบขึ้นในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง แสงแดดเพียงพอถึงรำไร และดินที่ระบายน้ำได้ดี โดยสามารถปลูกได้ทั้งในกระถางและในแปลงดิน การปลูกในกระถางควรใช้ดินร่วนปนทราย และให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ ส่วนการปลูกในแปลงดินควรขุดหลุมปลูกขนาดกว้างและลึกประมาณ 50 เซนติเมตร ผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงในดิน และรดน้ำให้ชุ่มหลังปลูก เบญจมาศเครือ เบญจมาศเครือเป็นไม้เลื้อยชนิดหนึ่งที่มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาเหนือ จัดอยู่ในสกุล Clematis วงศ์ Ranunculaceae ลักษณะเด่นของเบญจมาศเครือคือ มีดอกที่มีขนาดใหญ่และมีสีสันสวยงาม ดอกมี 4 กลีบ กลีบมีขนาดใหญ่ รูปไข่กลับ และมีสีสันหลากหลาย เช่น ขาว ม่วง ชมพู ฟ้า […]

มะตูม ประโยชน์ และสรรพคุณมะตูม

มะตูม มะตูมเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยมีทั้งวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ ประโยชน์และสรรพคุณของมะตูม ช่วยลดน้ำหนัก: มะตูมมีเส้นใยอาหารสูง ซึ่งช่วยเพิ่มความรู้สึกอิ่ม ช่วยควบคุมความอยากอาหาร และป้องกันการรับประทานอาหารมากเกินไป ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด: มะตูมมีดัชนีน้ำตาลต่ำ และมีสารที่ช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลในเลือด ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ช่วยลดความดันโลหิตสูง: มะตูมมีโพแทสเซียมสูง ซึ่งช่วยขยายหลอดเลือดและลดความดันโลหิต ช่วยกระตุ้นการย่อยอาหาร: มะตูมมีเอนไซม์ที่ช่วยย่อยโปรตีนและไขมัน ช่วยลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และอาการกรดไหลย้อน ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน: มะตูมมีวิตามินซีสูง ซึ่งช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ช่วยปกป้องร่างกายจากการติดเชื้อ ช่วยบำรุงผิวพรรณ: มะตูมมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันผิวจากความเสียหายจากแสงแดดและมลภาวะ ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย และทำให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่งสดใส ช่วยลดอาการเสมหะ: มะตูมมีสารเมือกที่ช่วยเคลือบและลดการระคายเคืองของทางเดินหายใจ ช่วยบรรเทาอาการไอและเสมหะ

กระดังงา/การเวก (ylang-ylang) สรรพคุณ และการปลูกกระดังงา

กระดังงา/การเวก กระดังงาหรือการเวก (ชื่อวิทยาศาสตร์: Cananga odorata) เป็นไม้ยืนต้นในวงศ์เดียวกับจำปี ต้นมีขนาดใหญ่ มีความสูงได้ถึง 30 เมตร ลำต้นเปลือกค่อนข้างเรียบเป็นสีเทา กิ่งอ่อนเกลี้ยงเป็นสีเขียวอมเหลือง ใบ เป็นใบเดี่ยวออกตรงข้ามกัน เป็นรูปไข่หรือรูปขอบขนานโคนใบแหลม ปลายใบเรียวแหลมมีหยักเว้าเป็นคลื่น ขอบใบเรียบเป็นสีเขียวเข้ม ดอก เป็นดอกสมบูรณ์เพศ ออกเป็นช่อกระจุกตามกิ่ง ออกดอกตลอดปี ดอกมีขนาดใหญ่ กลีบดอกหนามีหลายกลีบ กลีบนอกมีสีเขียวอ่อน กลีบในมีสีเหลืองนวลไปจนถึงสีส้ม กลิ่นหอมแรง สรรพคุณ โดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้กลีบดอก โดยนำไปสไลด์หรือบดก่อนนำไปตากแห้ง และนำดอกแห้งมาใช้ต่อไป แก้ไข้ สรรพคุณยาสมุนไพรกะดังงากล่าวไว้ว่า ใช้เปลือกและดอกแห้งของกะดังงา นำมาต้มกับน้ำดื่มเพื่อแก้ไข้ บำรุงหัวใจ ตามตำรายาไทยได้กล่าวไว้ว่า สรรพคุณของกะดังงาสามารถใช้กลีบดอกแห้งฝนกับน้ำแล้วนำมาดื่มเพื่อบำรุงหัวใจ แก้ใจสั่น บำรุงโลหิต ใช้ดอกแห้งประมาณ 5-15 กรัม ต้มกับน้ำดื่มเพื่อบำรุงโลหิต สรรพคุณของดอกกะดังงายังช่วยบรรเทาอาการวิงเวียนศรีษะได้อีกด้วย การปลูกกระดังงา การเตรียมดิน : กระดังงาชอบดินร่วนซุย มีความเป็นกรดเล็กน้อย pH 5.5-6.5 แปลงปลูกควรเตรียมให้มีขนาดกว้าง x ลึก 50 […]

ผักเขียด/ผักขาเขียด/ผักอฮิน ผักวัชพืชตามหนองนา และสรรพคุณเด่น

ผักเขียด ผักพื้นบ้านสรรพคุณหลากชนิด ผักเขียด หรือที่เรียกกันว่า ผักขาเขียด หรือผักอฮิน เป็นผักวัชพืชที่พบได้ตามหนองนาและพื้นที่ชุ่มน้ำทั่วไป แม้ว่าจะเป็นผักวัชพืชแต่ผักเขียดก็มีสรรพคุณทางยาที่โดดเด่นมากมาย ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ผักเขียดเป็นพืชในวงศ์ชบา มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Hibiscus sagittifolius L. ลักษณะของผักเขียดคือ เป็นไม้ล้มลุกอายุปีเดียว ลำต้นมีความสูงประมาณ 1-2 เมตร ลำต้นเป็นเหลี่ยมและมีขนปกคลุม ใบมีรูปร่างคล้ายหัวลูกศร ปลายใบแหลม ขอบใบหยักเว้าลึก มีขนขึ้นปกคลุมทั้งสองด้าน ดอกมีขนาดใหญ่ กลีบดอกมีสีเหลือง มีจุดประสีแดงที่โคนกลีบ ผลเป็นฝักรูปทรงกระบอก ภายในมีเมล็ดสีดำจำนวนมาก สรรพคุณทางยา ผักเขียดมีสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย ดังนี้ แก้ไข้ ตัวร้อน ถอนพิษร้อน ขับระดู แก้โรคกระเพาะอาหาร บำรุงเลือด ลดน้ำตาลในเลือด บำรุงหัวใจ บำรุงสายตา วิธีใช้ การใช้ผักเขียดเพื่อรักษาโรคสามารถทำได้หลายวิธี เช่น ต้มน้ำดื่ม: นำส่วนใบหรือดอกผักเขียดมาต้มกับน้ำ แล้วดื่มน้ำที่ต้มได้ คั้นน้ำสด: นำส่วนใบ或ดอกผักเขียดมาคั้นน้ำสด แล้วดื่มน้ำที่ได้ ตำพอก: นำส่วนใบหรือรากผักเขียดมาตำให้ละเอียด แล้วพอกบริเวณที่ต้องการรักษา ข้อควรระวัง แม้ว่าผักเขียดจะมีสรรพคุณทางยาที่มากมาย […]

ผักแขยง/ผักกะออม ประโยชน์ และสรรพคุณผักแขยง

ผักแขยง/ผักกะออม ผักแขยงหรือผักกะออม เป็นผักพื้นบ้านของไทยที่มีประโยชน์และสรรพคุณทางยาโดดเด่น โดยมีลักษณะเป็นไม้ล้มลุก มีลำต้นตั้งตรง แตกกิ่งก้านเป็นพุ่ม มีใบเป็นใบประกอบแบบขนนกสองชั้น ปลายใบแหลมแผ่กว้าง มีดอกเป็นช่อกระจุกสีเหลืองอ่อน และมีฝักยาวรีเป็นเมล็ด ประโยชน์และสรรพคุณของผักแขยง ผักแขยงเป็นผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบี2 วิตามินบี6 โพแทสเซียม และแคลเซียม นอกจากนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่มากมาย โดยมีประโยชน์และสรรพคุณดังนี้ ลดความดันโลหิตสูง: ผักแขยงมีฤทธิ์ขับปัสสาวะอ่อนๆ ช่วยขจัดโซเดียมส่วนเกินออกจากร่างกาย จึงช่วยลดความดันโลหิตได้ ลดระดับน้ำตาลในเลือด: สารสกัดจากผักแขยงมีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ที่ย่อยแป้งและน้ำตาล จึงช่วยลดการดูดซึมน้ำตาลเข้ากระแสเลือด เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน บำรุงสายตา: ผักแขยงอุดมไปด้วยวิตามินเอ ซึ่งจำเป็นสำหรับการมองเห็น ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันอาการตาแห้ง และโรคจอประสาทตาเสื่อม ช่วยเรื่องระบบขับถ่าย: ผักแขยงมีกากใยสูง ช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ บรรเทาอาการท้องผูก ต้านอนุมูลอิสระ: ผักแขยงมีสารต้านอนุมูลอิสระอย่างฟลาโวนอยด์และแคโรทีนอยด์ ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคมะเร็งและโรคหัวใจ

ว่านเศรษฐีเรือนนอก ประโยชน์ ความเป็นมงคล และวิธีปลูก

ว่านเศรษฐีเรือนนอก ประโยชน์ ทางด้านสมุนไพรว่านเศรษฐีเรือนนอกมีสรรพคุณช่วยในการรักษาอาการเจ็บคอ แก้ไอ ขับเสมหะ โดยใช้ใบนำมาคั้นเป็นน้ำดื่ม ช่วยลดไข้ โดยใช้ใบประมาณ 1 กำมือนำมาต้มกับน้ำกิน หรือจะนำรากมาตำแล้วนำมาพอกแก้ไข้ก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังช่วยแก้อาการฟกช้ำ โดยตำใบแล้วนำมาพอกก็ช่วยบรรเทาอาการได้ ทางด้านความเชื่อ ชาวมอญโบราณมีความเชื่อกันว่าบ้านใดปลูกว่านเศรษฐีเรือนนอกไว้ประจำบ้านจะช่วยทำให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุข มีโชคลาภ เงินทองไหลมาเทมา จึงนิยมปลูกไว้หน้าบ้านเพื่อเป็นสิริมงคล ความเป็นมงคล เนื่องจากว่านเศรษฐีเรือนนอกมีลักษณะใบที่เรียวเล็กเหมือนเข็ม จึงมีความเชื่อกันว่าจะช่วยป้องกันสิ่งอัปมงคล เภทภัย อัคคีภัยได้ จึงนิยมปลูกไว้หน้าบ้านเพื่อต้านพลังร้าย วิธีปลูก ดินปลูก ควรใช้ดินร่วนผสมใบก้ามปู แกลบ แล้วรดน้ำให้ชุ่ม วางกระถางวางกระถางไว้ในที่แดดรำไร การรดน้ำ รดน้ำวันละ 1 ครั้ง หรือเมื่อดินเริ่มแห้ง การปุ๋ย หมั่นใส่ปุ๋ยเดือนละ 1 ครั้ง การขยายพันธุ์ สามารถขยายพันธุ์โดยการแยกหน่อหรือปักชำต้น

โสน ดอกโสน สรรพคุณ และการปลูกโสน

โสน โสน เป็นพืชดอกที่มีสรรพคุณทางยาและนิยมปลูกเป็นไม้ประดับ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cassia fistula Linn. อยู่ในวงศ์ Fabaceae มีถิ่นกำเนิดในอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ โสนเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง สูงได้ถึง 10 เมตร ลำต้นเกลี้ยงเกลา ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก มีใบย่อย 4-8 คู่ ปลายใบมนหรือแหลม ดอกออกเป็นช่อกระจะที่ปลายกิ่ง กลีบดอกสีเหลืองสดใส ผลเป็นฝักแบนยาว 30-60 เซนติเมตร ภายในมีเมล็ดสีน้ำตาลดำจำนวนมาก สรรพคุณของโสน โสนมีสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย ทั้งดอก ใบ และฝัก โดยใช้ในตำรับยาไทยและอินเดียมานานหลายศตวรรษ แก้ท้องผูก: ฝักโสนมีสารแอนทราคโนน (anthraquinone) ที่มีฤทธิ์เป็นยาระบาย ช่วยแก้ท้องผูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบายน้ำเหลือง: รากและใบโสนมีฤทธิ์ระบายน้ำเหลือง ช่วยลดอาการบวมน้ำ แก้ไข้: ดอกโสนมีฤทธิ์ลดไข้และต้านการอักเสบ รักษาแผลในกระเพาะอาหาร: สารสกัดจากใบโสนช่วยปกป้องเยื่อบุกระเพาะอาหารจากการอักเสบและการเกิดแผล รักษาโรคผิวหนัง: น้ำจากใบโสนสามารถใช้ทาภายนอกเพื่อรักษาโรคผิวหนังต่างๆ เช่น ผื่นคันและแผลพุพอง การปลูกโสน โสนเป็นพืชที่ปลูกง่าย สามารถเจริญเติบโตได้ในดินทุกประเภทที่มีการระบายน้ำดี ชอบแดดจัด ควรปลูกในช่วงฤดูฝน เนื่องจากเป็นช่วงที่มีน้ำมาก […]