Tag Archives: ข้าว

สละ สรรพคุณ และการปลูกสละ

สละ สรรพคุณ และการปลูกสละ สละคืออะไร สละ เป็นผลไม้เขตร้อนที่นิยมรับประทานกันอย่างแพร่หลายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย มีลักษณะผลกลมรี เปลือกบาง สีเหลือง เนื้อในสีเหลืองอมส้ม รสชาติหวานฉ่ำ มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ มากมาย สรรพคุณของสละ สละมีสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย เช่น บำรุงสายตา ช่วยป้องกันโรคตาต่างๆ เช่น ต้อกระจก ต้อเนื้อ ต้อหิน และภาวะสายตาเสื่อม บำรุงหัวใจ ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดและป้องกันการเกิดโรคหัวใจ บำรุงสมอง ช่วยเพิ่มความจำและสมาธิ ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอัลไซเมอร์ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยป้องกันการติดเชื้อต่างๆ เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ และโรคติดเชื้ออื่นๆ แก้ท้องเสีย ช่วยบรรเทาอาการท้องเสียและอาเจียน รักษาเบาหวาน ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด บำรุงผิวพรรณ ช่วยให้ผิวเปล่งปลั่ง สดใส ลดริ้วรอยและจุดด่างดำ การปลูกสละ สละเป็นไม้ผลที่ปลูกง่าย สามารถปลูกได้ในดินทุกสภาพ โดยเฉพาะดินร่วนปนทรายที่มีการระบายน้ำดี แดดรำไร รดน้ำสม่ำเสมอ ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักทุกๆ 3-4 เดือน ตัดแต่งกิ่งเป็นประจำเพื่อให้ทรงพุ่มโปร่ง และป้องกันโรคและแมลงศัตรูพืช […]

ว่านเศรษฐีกอบทรัพย์ ความเป็นมงคล ประโยชน์ และการปลูกว่านเศรษฐีกอบทรัพย์

ประเภทของการสื่อสาร การสื่อสารสามารถจำแนกออกได้หลายประเภท โดยแบ่งตามลักษณะต่างๆ เช่น 1. ประเภทของการสื่อสารตามลักษณะของการรับรู้ การสื่อสารด้วยวาจา (Verbal Communication) เป็นการสื่อสารที่ใช้คำหรือภาษาเป็นตัวกลางในการถ่ายโอนข้อมูล โดยสามารถสื่อสารด้วยวาจาได้ทั้งในรูปแบบการใช้ภาษาแบบปากเปล่าหรือการเขียน การสื่อสารที่ไม่ใช้วาจา (Nonverbal Communication) เป็นการสื่อสารที่ไม่ใช้คำหรือภาษาเป็นตัวกลางในการถ่ายโอนข้อมูล โดยอาจใช้สัญญาณ มือ เท้า ใบหน้า สายตา หรือวิธีการอื่นๆ ที่ไม่ใช้ภาษาในการถ่ายโอนข้อมูล 2. ประเภทของการสื่อสารตามทิศทางของการไหลของข้อมูล การสื่อสารทางเดียว (One-Way Communication) เป็นการสื่อสารที่ข้อมูลไหลจากผู้ส่งไปยังผู้รับเพียงฝ่ายเดียว โดยผู้รับไม่มีโอกาสได้โต้กลับหรือแสดงปฏิกิริยามใดๆ ต่อผู้ส่ง การสื่อสารสองทาง (Two-Way Communication) เป็นการสื่อสารที่ข้อมูลไหลทั้งจากผู้ส่งไปยังผู้รับและจากผู้รับกลับมายังผู้ส่ง ทำให้ผู้ส่งและผู้รับมีโอกาสโต้กลับและแสดงปฏิกิริยต่อกัน 3. ประเภทของการสื่อสารตามประเภทของข้อความ ข้อความระดับสูง (High-Context Message) เป็นข้อความที่สื่อสารโดยใช้ตัวอักษรหรือสัญลักษณ์เป็นสื่อกลางในการถ่ายโอนข้อมูล เช่น หนังสือ ข่าวสาร รายงาน หรือสื่อการเรียนการสอนต่างๆ ข้อความระดับต่ำ (Low-Context Message) เป็นข้อความที่สื่อสารโดยใช้สัญญะทางกายภาพหรือสิ่งรูปธรรมอื่นๆ เป็นตัวกลางในการถ่ายโอนข้อมูล เช่น ภาพยนตร์ ละคร โทรทัศน์ […]

ว่านขันหมากเศรษฐี และการปลูกว่านขันหมากเศรษฐี

ว่านขันหมากเศรษฐี ว่านขันหมากเศรษฐี มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Sansevieria trifasciata Prain เป็นพืชในวงศ์ Agavaceae เป็นพืชพื้นเมืองในประเทศไนจีเรีย ประเทศกานา ประเทศโตโก และประเทศคองโก แต่มีการนำเข้ามาปลูกในประเทศไทยนานแล้ว และกลายเป็นไม้มงคลชนิดหนึ่งที่นิยมปลูกกันมากในปัจจุบัน ว่านขันหมากเศรษฐีเป็นพืชที่มีลำต้นสั้น แตกหน่อออกเป็นกอ ใบยาวเรียว แข็ง เหนียว เป็นมัน ปลายใบแหลม ขอบใบมีสีเหลืองหรือสีขาว ดอกมีสีขาวหรือสีชมพูอ่อน ออกเป็นช่อตรงกลางลำต้น ช่อดอกยาวประมาณ 30-40 เซนติเมตร ออกดอกในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนมิถุนายน การปลูกว่านขันหมากเศรษฐี ดิน ว่านขันหมากเศรษฐีชอบดินร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี มีความเป็นกรดเล็กน้อย น้ำ ว่านขันหมากเศรษฐีชอบน้ำปานกลาง ไม่ชอบน้ำท่วมขัง ควรรดน้ำให้ชุ่ม แล้วปล่อยให้ดินแห้งแล้วค่อยรดใหม่ แสงแดด ว่านขันหมากเศรษฐีชอบแดดรำไร แต่สามารถปลูกกลางแจ้งได้ โดยควรมีการพรางแสงในช่วงฤดูร้อน ปุ๋ย ควรใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักทุกๆ 1-2 เดือน เพื่อช่วยบำรุงดินและทำให้ว่านขันหมากเศรษฐีเจริญเติบโตได้ดี การขยายพันธุ์ สามารถขยายพันธุ์ได้โดยการแยกหน่อ เนื่องจากว่านขันหมากเศรษฐีมักจะแตกกอ เป็นหน่อเป็นต้นใหม่ เพื่อที่จะขยายไปทั่วไป ว่านขันหมากเศรษฐีเป็นไม้มงคลที่นิยมปลูกกันมากในประเทศไทย เชื่อกันว่าจะช่วยให้ผู้ปลูกมีโชคลาภ เงินทองไหลมาเทมา […]

กลอย/ว่านกลอยจืด

กลอย/ว่านกลอยจืด กลอย (Alocasia odora)/(Colocasia eopedicellatum) เป็นพืชในวงศ์ Araceae มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงประเทศไทย กลอยเป็นไม้ล้มลุกที่มีเหง้าใต้ดินขนาดใหญ่ ใบมีขนาดใหญ่และมีสีเขียวเข้ม มีก้านใบยาวและอวบน้ำ ดอกกลอยมีสีขาวและมีกลิ่นหอม กลอยมีหลายสายพันธุ์ บางสายพันธุ์มีเกล็ดสีแดงอยู่บริเวณก้านใบและโคนใบ สายพันธุ์กลอยน้ำมีใบที่ใหญ่กว่าสายพันธุ์อื่นและสามารถเจริญได้ในน้ำตื้น ประโยชน์ของกลอย เหง้ากลอยมีสารอาหารมากมายรวมถึงคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และวิตามินชนิดต่างๆ เช่น วิตามินซี วิตามินบี1 และวิตามินบี2 เหง้ากลอยสามารถนำมาต้มหรือทอดเพื่อรับประทานได้โดยตรง โดยเหง้ากลอยจะมีรสชาติมันและมีกลิ่นหอมอ่อนๆ เหง้ากลอยสามารถนำมาแปรรูปเป็นอาหารได้หลากหลาย เช่น กลอยเชื่อม กลอยทอดกรอบ กลอยแห้ง เหง้ากลอยสามารถนำมาใช้เป็นยารักษาโรคได้ เช่น ใช้เป็นยาแก้โรคบิด โรคท้องร่วง และโรคปวดหัว ใบกลอยสามารถนำมาใช้เป็นอาหารได้เช่นเดียวกัน โดยใบกลอยสามารถนำมาต้มหรือผัดเพื่อรับประทานได้ ใบกลอยสามารถนำมาใช้เป็นยารักษาโรคได้ เช่น ใช้เป็นยาแก้โรคผิวหนังและโรคแผลเป็น อย่างไรก็ตาม กลอยบางสายพันธุ์อาจมีสารพิษชื่อว่ากรดออกซาลิก (Oxalic acid) ซึ่งเป็นสารพิษที่สามารถทำให้เกิดอาการปวดแสบปวดร้อนในปากและคอ รวมถึงอาจทำให้เกิดอาการท้องร่วงและปวดท้อง ดังนั้นจึงควรรับประทานกลอยในปริมาณที่เหมาะสมและควรหลีกเลี่ยงการรับประทานกลอยดิบ

หญ้าหวาน (stevia) สรรพคุณ และการปลูกหญ้าหวาน

หญ้าหวาน (Stevia) หญ้าหวานหรือสตีเวีย เป็นพืชสมุนไพรที่ให้ความหวานจากธรรมชาติ มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้ โดยเฉพาะในประเทศบราซิลและปารากวัย ใบของหญ้าหวานมีความหวานโดยธรรมชาติ ซึ่งมีระดับความหวานสูงกว่าน้ำตาลทรายถึง 10-30 เท่า ในขณะเดียวกันก็มีปริมาณแคลอรี่และคาร์โบไฮเดรตต่ำมาก สรรพคุณของหญ้าหวาน หญ้าหวานมีสรรพคุณมากมายต่อสุขภาพ ได้แก่ ช่วยลดน้ำตาลในเลือด เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ช่วยควบคุมและลดน้ำหนัก ป้องกันโรคอ้วน ช่วยลดความดันโลหิต มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัยและลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกาย การปลูกหญ้าหวาน หญ้าหวานเป็นพืชที่ปลูกง่าย สามารถปลูกได้ทั้งในดินและในกระถาง ขั้นตอนการปลูกหญ้าหวานมีดังนี้ การเตรียมดิน หญ้าหวานชอบดินร่วนซุยที่มีความเป็นกรดด่างเป็นกลาง ควรเตรียมดินโดยการไถ พรวน ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก และรดน้ำให้ชุ่ม การปลูก หญ้าหวานสามารถปลูกได้ทั้งเมล็ดและกิ่งพันธุ์ หากปลูกด้วยเมล็ด ให้หว่านเมล็ดลงในดินที่เตรียมไว้ จากนั้นกลบดินบางๆ และรดน้ำให้ชุ่ม หากปลูกด้วยกิ่งพันธุ์ ให้ปักกิ่งพันธุ์ลงในดินที่เตรียมไว้ จากนั้นรดน้ำให้ชุ่ม การดูแล หญ้าหวานเป็นพืชที่ไม่ต้องการการดูแลมากนัก เพียงรดน้ำสม่ำเสมอและใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเป็นครั้งคราว หญ้าหวานจะเริ่มออกดอกและให้ใบที่สามารถเก็บเกี่ยวได้เมื่อมีอายุประมาณ 3-4 เดือน หญ้าหวานเป็นพืชที่สามารถเก็บเกี่ยวได้ตลอดปี การใช้ประโยชน์จากหญ้าหวาน ใบหญ้าหวานสามารถใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น ใช้ปรุงอาหารและเครื่องดื่มแทนน้ำตาลทราย ใช้เป็นส่วนผสมในอาหารเสริมและยาสมุนไพร ใช้สกัดเป็นสารสตีวิโอไซด์ (Stevioside) […]

ฝาง สรรพคุณ และประโยชน์

ฝาง สรรพคุณ และประโยชน์ ฝาง (Acacia catechu) เป็นต้นไม้ยืนต้นขนาดกลาง มีถิ่นกำเนิดในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มักพบในป่าเบญจพรรณและป่าเต็งรัง ลำต้นตรง สูงประมาณ 10-15 เมตร เปลือกต้นสีเทาอมน้ำตาล ใบประกอบแบบขนนก เรียงสลับ ดอกเล็ก สีเหลืองอ่อน ออกเป็นช่อบริเวณปลายกิ่ง ผลเป็นฝักแบนยาว ภายในมีเมล็ดสีน้ำตาลจำนวนมาก ฝางมีสรรพคุณทางยาหลายประการ เปลือกต้นฝางมีรสฝาด แก้ท้องเสีย บิดมูกเลือด แก้บิดในเด็ก แก้โรคริดสีดวงทวาร หนองใน เป็นยาพอกแผลสด แผลเรื้อรัง และไฟไหม้ เปลือกนำมาต้มรวมกับใบทองพันชั่งและใบขลู่ ใช้บ้วนปากแก้ปากเปื่อย ปากเป็นแผล แก้เหงือกอักเสบ เป็นยาห้ามเลือด แก้ท้องร่วง ปิดแผล บรรเทาอาการหวัด คออักเสบ แก้น้ำเหลืองเสีย ใบฝางมีรสฝาด แก้ท้องร่วง แก้บิดมูกเลือด ห้ามเลือด และสมานแผล เมล็ดฝางมีรสฝาด แก้ท้องเสีย แก้บิด และแก้โรคริดสีดวงทวาร นอกจากนี้ ฝางยังมีประโยชน์อื่นๆ อีก เช่น เปลือกต้นและใบนำมาทำเป็นยาสีฟัน […]

ทับทิม สรรพคุณ และการปลูกทับทิม

ทับทิม สรรพคุณ ทับทิม (แบบย่อ) เป็นผลไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ ในปัจจุบันมีการปลูกทับทิมในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย ทับทิมเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เนื่องจากอุดมไปด้วยวิตามิน ซี และสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ ทับทิมมีสรรพคุณทางยาหลายประการ ดังนี้ ช่วยลดความดันโลหิต ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยลดระดับไขมันในเลือด ช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยต้านการอักเสบ ช่วยบรรเทาอาการปวด ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง การปลูกทับทิม การปลูกทับทิมสามารถทำได้ทั้งในเชิงการค้าและเพื่อบริโภคในครัวเรือน โดยทั่วไปแล้วทับทิมจะเจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนปนทรายที่มีการระบายน้ำที่ดี และมีความเป็นกรดเล็กน้อย (pH 5.5-6.5) ขั้นตอนการปลูกทับทิม เลือกพื้นที่ปลูกที่เหมาะสม ควรเป็นพื้นที่ที่ได้รับแสงแดดอย่างเต็มที่ มีดินร่วนปนทรายที่มีการระบายน้ำที่ดี เตรียมดิน ขุดหลุมปลูกขนาดกว้าง 60 เซนติเมตร ลึก 60 เซนติเมตร รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก เติมดินที่ขุดขึ้นมาผสมกับปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก แล้วกลบหลุม ปลูกทับทิม นำต้นทับทิมที่เตรียมไว้ลงปลูกในหลุม กดดินรอบๆ ต้นให้แน่น รดน้ำให้ชุ่ม การดูแลรักษา รดน้ำให้สม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักทุกๆ 3-4 เดือน ตัดแต่งกิ่งเป็นประจำ โดยตัดกิ่งที่แห้งหรือเป็นโรคออก […]

ผักหนาม ผักป่า ใบกรอบหวาน และสรรพคุณ

ผักหนาม ผักป่า ใบกรอบหวาน และสรรพคุณ ผักหนาม หรือ ผักหนามหน่อ หรือ ผักจาก หรือ ผักหนามหนู (ภาษาจีน: φύσιγγα) เป็นผักที่มีหนามแหลมอยู่ทั่วต้น เป็นพืชในวงศ์ Amaranthaceae ลักษณะของผักหนามนั้นมีลำต้นเป็นสีแดง ใบมีสีเขียวเข้ม หนาและมีขนตามขอบใบ ดอกมีสีขาวหรือสีชมพูอ่อน ผลมีสีเขียวอ่อนหรือสีขาว สรรพคุณผักหนาม ต้านอนุมูลอิสระ: ผักหนามมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ สารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้ยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ ได้อีกด้วย ลดน้ำหนัก: ผักหนามมีปริมาณแคลอรี่ต่ำและมีเส้นใยอาหารสูง ซึ่งช่วยให้รู้สึกอิ่มนานและช่วยลดความอยากอาหารได้ ทำให้ผักหนามเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนัก รักษาเบาหวาน: ผักหนามมีสารที่ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด จึงอาจมีประโยชน์สำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ช่วยย่อยอาหาร: ผักหนามมีเส้นใยอาหารสูง ซึ่งช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ช่วยป้องกันอาการท้องผูกและทำให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น ลดความดันโลหิต: ผักหนามมีโพแทสเซียมสูง ซึ่งช่วยลดความดันโลหิตและป้องกันโรคความดันโลหิตสูงจากไปได้ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน: ผักหนามมีวิตามินซีสูง ซึ่งช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและช่วยให้ร่างกายต้านทานการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย บำรุงสายตา: ผักหนามมีวิตามินเอสูง ซึ่งช่วยบำรุงสายตาและป้องกันโรคตาต่างๆ ได้ เช่น โรคต้อกระจกและโรคต้อหิน แก้อาการท้องผูก: ผักหนามมีไฟเบอร์สูงซึ่งเป็นตัวช่วยอุ้มน้ำหล่อลื่นในลำไส้ ช่วยทำให้อุจจาระนุ่มและถ่ายง่ายขึ้น รักษาโรคบิด: ต้มผักหนามหรือหั่นฝักผักหนามกินทั้งฝัก […]

ดอกดิน ใช้หุงนึ่งข้าว เด่นต้านมะเร็ง แก้ไอ ลดไข้ แก้โรคข้อกระดูก

ดอกดิน ใช้หู่นึ่งข้าว ดอกดินเป็นสมุนไพรที่ใช้ในยาจีนมานานหลายศตวรรษ มีคุณสมบัติต้านมะเร็ง ต้านการอักเสบ และต้านการอักเสบ นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ลดไข้ แก้ปวดยา แก้ปวดยา และลดไขข้อ ส่วนที่ใช้ของดอกดิน ดอกดินที่ใช้ในการแพทย์จีนมักเก็บเกี่ยวในช่วงออกดอก มีสีม่วงอมน้ำเงินเข้ม ส่วนที่ใช้ของดอกดินคือดอกและใบ สรรพคุณของดอกดิน ดอกดินมีสรรพคุณดังต่อไปนี้ ต่อต้านมะเร็ง ต้านการอักเสบ ต้านการอักเสบ ลดไข้ แก้ปวดยา แก้ปวดยา ลดไขข้อ แก้ไอ ลดเสมหะ แก้ปอดบีบ แก้ปอดอักเสบ แก้ปอดเริม แก้ทางเดินปัสสาวะอักเสบ แก้ปัสสาวะรดขื่น แก้ปัสสาวะแสบขื่น แก้ปัสสาวะขุ่น แก้ปัสสาวะรดขื่น วิถีการใช้ดอกดิน ดอกดินใช้รับประทานในรูปแบบยาต้ม ครั้งละ 1-2 ชั่วโมง วันละ 3 ครั้ง ข้อควรระวังในการใช้ดอกดิน ดอกดินไม่ควรใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ไม่ควรใช้ในหญิงมีครรภ์หรือหญิงที่กำลังให้นม ไม่ควรใช้ในผู้ที่มีโรคตับหรือโรคไต ไม่ควรใช้ในผู้ที่มีอาการแพ้ดอกดิน

แมงลัก/ใบแมงลัก(hairy Basil) สรรพคุณ และการปลูกแมงลัก

แมงลัก/ใบแมงลัก (hairy Basil) ใบแมงลักที่เรารู้จักกันดีนี้ จัดเป็นพืชล้มลุก พบได้ตามพื้นที่ลุ่มต่างๆ ทั่วทุกภาคของประเทศไทย ด้วยกลิ่นหอมโดดเด่นเฉพาะตัว ใบสวยดูแล้วสดชื่น บำรุงสายตา ใบโกรยออกเป็นชั้นๆ มีขนาดไม่ใหญ่มาก มีทั้งสีเขียวอ่อน เขียวปนแดง และสีแดง เรียกได้ว่าสวยดูดี หลายๆ คนได้หันมาปลูกตั้งแต่ช่วงโควิด-19 มาจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากสรรพคุณที่น่าสนใจและมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย สรรพคุณ และประโยชน์ของแมงลัก ช่วยแก้หวัด คัดจมูก ละลายเสมหะ โดยนำใบแมงลัก 1 กำมือ ต้มกับน้ำ 1 ลิตร แล้วสูดดมกลิ่นและดื่มน้ำ ใบแมงลักช่วยขับลม ลดอาการปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ ด้วยการเคี้ยวใบและกลืนหรือคั้นเอาน้ำแล้วดื่ม ช่วยลดไข้ โดยการนำใบมาโขลกผสมกับน้ำปูนใสแล้วนำมาพอกที่หน้าผาก บำรุงหัวใจ ทำให้หัวใจแข็ง แรง ด้วยการนำเมล็ด 1 ช้อนชาใส่กระบอกน้ำ ดื่มแทนน้ำเปล่าทุกวัน ช่วยบำรุงสายตา ด้วยการนำใบสดๆ มาล้างทำความสะอาด แช่น้ำเกลือให้ทั่ว นำใส่ถ้วยหรือพานที่มีน้ำสะอาดแล้วลอยใว้ แล้วจึงค่อยๆ อ่านหนังสือหรืองานที่อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ลดความดันโลหิตสูง ช่วยป้องกันโรคมะเร็งหลายชนิด […]