Tag Archives: สมุนไพร

การปลูกฝรั่ง

การเตรียมดิน ไถดินลึก 30-40 เซนติเมตร ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในอัตรา 1-2 ตันต่อไร่ ไถพรวนดินให้ละเอียด ทำ畦กว้าง 3-4 เมตร การขุดหลุมและเตรียมกล้าพันธุ์ ขุดหลุมกว้าง 50-60 เซนติเมตร ลึก 70-80 เซนติเมตร รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก 1-2 กิโลกรัม เตรียมกล้าพันธุ์โดยการเพาะเมล็ดลงในถุงเพาะ ใช้ดินที่ผสมกับปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก เมื่อต้นกล้ามีอายุ 30-45 วัน จึงย้ายลงปลูก การปลูก นำต้นกล้าที่เตรียมไว้ลงปลูกในหลุมที่เตรียมไว้ กลบดินให้แน่น โดยให้ระดับดินอยู่สูงกว่าโคนต้นเล็กน้อย รดน้ำให้ชุ่ม การดูแลรักษา การให้น้ำ รดน้ำสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงแรกหลังจากปลูก เมื่อต้นตั้งตัวได้ดีแล้ว จึงลดปริมาณและความถี่ของการให้น้ำ การใส่ปุ๋ย ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในอัตรา 1-2 ตันต่อไร่ ทุกๆ 3-4 เดือน ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 ในอัตรา 100-200 กิโลกรัมต่อไร่ 2 ครั้งต่อปี ครั้งแรกหลังจากปลูกประมาณ 2 เดือน […]

ตะขบ สรรพคุณตะขบ และทำไมจึงนิยมปลูกตะขบ

ตะขบ ตะขบ (Diospyros kaki) เป็นไม้ผลยืนต้นชนิดหนึ่งในวงศ์ Ebenaceae มีถิ่นกำเนิดในจีนและญี่ปุ่น ผลตะขบมีลักษณะกลมแป้น เปลือกมีสีส้มอมเหลืองหรือสีส้มอมแดง เนื้อสีส้ม เนื้อนุ่ม หวาน และมีกลิ่นหอม สรรพคุณตะขบ ตะขบมีสรรพคุณทางยาที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ได้แก่ แก้ท้องเสีย: ผลตะขบมีสารแทนนินซึ่งช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในลำไส้ จึงช่วยรักษาอาการท้องเสียได้ ช่วยย่อยอาหาร: ใยอาหารในตะขบช่วยกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ ทำให้อาหารย่อยได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น บำรุงสายตา: ตะขบมีสารไลโคปีนซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์ต่อดวงตา ช่วยป้องกันโรคตาต่างๆ เช่น ต้อกระจก ต่อต้านการอักเสบ: สารโพลีฟีนอลในตะขบมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยลดอาการอักเสบในร่างกาย บำรุงตับ: สารโพลีแซ็กคาไรด์ในตะขบมีคุณสมบัติในการปกป้องตับจากความเสียหาย ทำไมจึงนิยมปลูกตะขบ ตะขบเป็นต้นไม้ที่ปลูกง่ายและให้ผลผลิตดีในสภาพอากาศแบบเมืองร้อน จึงนิยมปลูกในบ้านเรือนหรือสวนผลไม้ เนื่องจาก: ให้ผลผลิตดี: ตะขบมีอายุการเก็บเกี่ยวประมาณ 3-5 ปี และสามารถให้ออกผลได้นานหลายสิบปี ดูแลง่าย: ตะขบเป็นต้นไม้ที่ไม่ต้องการการดูแลมากนัก สามารถปลูกได้ในหลายประเภทดิน ใช้ประโยชน์ได้ทั้งคนและสัตว์: นอกจากผลที่กินได้แล้ว ใบและเปลือกต้นตะขบยังใช้เป็นยาแผนโบราณ ต้นและใบยังใช้เลี้ยงสัตว์ได้อีกด้วย สร้างรายได้: ผลตะขบสามารถจำหน่ายเพื่อสร้างรายได้เสริม

ถั่วดาวอินคา สรรพคุณ และการปลูกถั่วดาวอินคา

ถั่วดาวอินคา คุณค่าทางโภชนาการและสรรพคุณบำบัด ถั่วดาวอินคา (Golden Berry, Inca Berry, Physalis Peruviana) เป็นผลไม้ที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาแอนดีสของเปรู ซึ่งเต็มไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ ได้แก่ วิตามิน A, C, B, ธาตุเหล็ก, ฟอสฟอรัส และโปรตีน ถั่วดาวอินคาอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย และมีคุณสมบัติต้านอักเสบ จึงช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง และโรคข้ออักเสบ นอกจากนี้ ถั่วดาวอินคายังมีใยอาหารสูง ซึ่งช่วยให้รู้สึกอิ่มและกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ได้ดี การปลูกถั่วดาวอินคา การปลูกถั่วดาวอินคาไม่ใช่เรื่องยาก สามารถทำได้โดยการเพาะเมล็ดหรือการปักชำกิ่ง ซึ่งวิธีที่นิยมกว่าคือการเพาะเมล็ด เตรียมดินร่วนปนทรายที่ระบายน้ำได้ดี มีค่า pH ระหว่าง 5.5-6.5 หว่านเมล็ดลงในดินให้ลึกประมาณ 0.5-1 เซนติเมตร และเว้นระยะห่างระหว่างเมล็ดประมาณ 30-45 เซนติเมตร รดน้ำให้ชุ่มและรักษาความชื้นของดินสม่ำเสมอ เมื่อต้นกล้าเริ่มงอกให้หมั่นถอนหญ้าและพรวนดินรอบๆ ต้นเพื่อกำจัดวัชพืชและระบายอากาศ ควรปลูกถั่วดาวอินคาในบริเวณที่มีแสงแดดส่องถึงตลอดวัน ใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกเพิ่มเติมทุกๆ 2-3 เดือน ถั่วดาวอินคาจะเริ่มออกผลภายใน 70-90 วันหลังจากปลูก

เท้ายายม่อม (thahiti Arrowroot) สรรพคุณ และการปลูกเท้ายายม่อม

เท้ายายม่อม (Arrowroot) เท้ายายม่อม (Arrowroot) เป็นพืชล้มลุกชนิดหนึ่ง อยู่ใน family Marantaceae มีถิ่นกำเนิดในอเมริการ้อนชื้น เท้ายายม่อมมีลำต้นใต้ดินที่สั้น มีรากสะสมอาหาร มีใบเเดี่ยวเรียงสลับรูปรีปลายเเหลม ใบมีขนาดใหญ่ สีเขียวเข้ม มีลายเส้นใบสีอ่อนนูนเด่นชัด เมื่อใบอ่อนจะมีสีเเดงอมม่วง ดอกช่อเชิงลดเเตกเเกนเป็น 3 ช่อเเยกลูก ดอกสีฟ้าหรือม่วง มีขนาดเล็กมาก สรรพคุณของเท้ายายม่อม (Arrowroot) เท้ายายม่อมมีสรรพคุณทางยา ดังนี้ เหง้ามีเเป้งอยู่มากจึงสามารถใช้ทำเเป้งอโรโรวต์ซึ่งให้พลังงานได้ดี เเละสามารถใช้ทำอาหารทารกได้ มีฤทธิ์เย็นใช้รับประทานเพื่อแก้ร้อนในกระหายน้ำ และช่วยลดไข้ ช่วยขับปัสสาวะ เเก้อาการปัสสาวะพิการ มีปัสสาวะขัดเเละปวดแสบปัสสาวะ ช่วยดับพิษร้อนถอนพิษได้ดี บำรุงธาตุกายต่างๆ ในร่างกาย ช่วยแก้อาการท้องเสีย ป้องกันการเกิดโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ช่วยแก้อาการอาหารเป็นพิษ ลดการอักเสบ เเละลดการเกิดกรดในกระเพาะอาหาร ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี ขับของเสียออกจากร่างกาย เเก้อาการท้องผูก เหง้าเท้ายายม่อมทำให้ฝีเเตกเร็วเเละหนองไหลทำให้แผลหายได้เร็ว ช่วยเเก้อาการเกาต์ ป้องกันการเกิดโรคเกาต์ในผู้สูงอายุ โรคข้อกระดูกอักเสบ เเละปวดข้อ การปลูกเท้ายายม่อม เท้ายายม่อมเป็นพืชที่ชอบขึ้นบริเวณที่มีความชื้นสูง ชอบขึ้นได้ดีในดินร่วนปนทรายหรือดินร่วนทั่วไป ที่มีความระบายน้ำและ ความถ่ายเทอากาศดี สามารถปลูกได้โดยใช้เหง้าหรือต้นพันธุ์เเก่ที่สมบูรณ์ที่มีใบ 2-3 […]

ว่านนางคุ้ม/ว่านผู้เฒ่าเฝ้าบ้าน และการปลูกว่านนางคุ้ม

ว่านนางคุ้ม/ว่านผู้เฒ่าเฝ้าบ้าน ว่านนางคุ้มหรือว่านผู้เฒ่าเฝ้าบ้านเป็นว่านที่มีชื่อเป็นมงคล นิยมปลูกไว้เพื่อเสริมมงคลให้บ้านหรือสถานที่ต่างๆ เชื่อว่าจะช่วยปกป้องคุ้มครองภัยอันตรายทั้งปวง เป็นว่านมงคลเสริมโชคลาภความสุข ให้มีความสุขสมบูรณ์ โดยคำว่า “นางคุ้ม” นั้นมาจากความเชื่อว่ามีวิญญาณนางไม้หรือเทวดาคุ้มครองเฝ้าบ้านอยู่ การปลูกว่านนางคุ้ม การปลูกว่านนางคุ้มนั้นนิยมปลูกไว้ในกระถางหรือแจกัน เพียงแค่เตรียมดินร่วนปนทราย หรือดินที่ใช้ปลูกต้นไม้ทั่วไป นำหญ้าแห้งหรือวัสดุรองพื้นรองก้นกระถาง จากนั้นจึงนำหัวว่านลงปลูกฝังลงไปในดิน กดให้แน่น รดน้ำให้ชุ่ม แล้วนำวางไว้บริเวณที่มีแดดรำไร ไม่ควรให้ถูกแสงแดดโดยตรง การดูแลรักษา: รดน้ำวันละ 1 ครั้ง โดยรดให้ชุ่มบริเวณโคนต้น หลีกเลี่ยงไม่ให้น้ำโดนใบ เพราะจะทำให้ใบเป็นจุดด่าง ใส่ปุ๋ยเดือนละ 1 ครั้ง โดยใช้ปุ๋ยสูตรเสมอหรือปุ๋ยคอก หมั่นกำจัดวัชพืชบริเวณโดยรอบต้น

ข้าวเหนียวดำ/ข้าวก่ำ สรรพคุณ และการปลูกข้าวเหนียวดำ

ข้าวเหนียวดำหรือข้าวก่ำ สรรพคุณทางยาและอาหารของข้าวเหนียวดำ ข้าวเหนียวดำเป็นธัญพืชที่อุดมไปด้วยสารอาหารและมีสรรพคุณทางยาต่างๆ มากมาย ได้แก่ ต้านอนุมูลอิสระ: ข้าวเหนียวดำมีปริมาณสารแอนโทไซยานินสูง ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพในการช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์และปกป้องร่างกายจากโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคหัวใจและมะเร็ง ลดคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์: สารแอนโทไซยานินในข้าวเหนียวดำยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ในเลือดได้อีกด้วย ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ ต้านการอักเสบ: ข้าวเหนียวดำมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ในการลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคข้ออักเสบและโรคหัวใจ ช่วยย่อยอาหาร: ข้าวเหนียวดำเป็นแหล่งของใยอาหารที่ดี ซึ่งช่วยส่งเสริมการย่อยอาหารและป้องกันอาการท้องผูก การปลูกข้าวเหนียวดำ ข้าวเหนียวดำปลูกได้ในพื้นที่ที่มีความชื้นปานกลางถึงสูง และมีการระบายน้ำที่ดี ขั้นตอนในการปลูกข้าวเหนียวดำมีดังนี้ เตรียมดิน: ไถดินลึก 20-30 เซนติเมตร และใสปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเพื่อปรับปรุงโครงสร้างดิน แช่เมล็ดข้าว: แช่เมล็ดข้าวในน้ำอุ่น 12-24 ชั่วโมงก่อนปลูก เพื่อช่วยให้เมล็ดงอกเร็วขึ้น หยอดเมล็ดข้าว: หยอดเมล็ดข้าวลงในหลุมลึก 2-3 เซนติเมตร โดยให้ระยะห่างระหว่างหลุม 20-25 เซนติเมตร และระยะห่างระหว่างแถว 50-60 เซนติเมตร ดูแลรักษา: รดน้ำข้าวเป็นประจำโดยเฉพาะในช่วงแรกของการเจริญเติบโต และใส่ปุ๋ยให้เหมาะสมในช่วงต่างๆ ของการเจริญเติบโต เก็บเกี่ยว: ข้าวเหนียวดำจะเก็บเกี่ยวได้เมื่อรวงข้าวแก่จัด ซึ่งใช้เวลาประมาณ 120-130 วันหลังจากปลูก […]

นนทรี ประโยชน์ และสรรพคุณนนทรี

นนทรี ประโยชน์ของนนทรี ปลูกเป็นไม้ประดับ ใบมีสีเขียวสดสวยงาม ทรงของต้นสง่า ลำต้นใหญ่ เมื่อใบร่วงหล่นเป็นปุ๋ยชั้นดีให้แก่ดิน ร่มเงา ทรงพุ่มใบหนาทึบ แผ่กว้าง ให้ร่มเงาที่ร่มเย็น เหมาะสำหรับปลูกประดับสวนและสถานที่สาธารณะ ใช้บริโภค ยอดนำมาทานเป็นผักได้ มีรสชาติขมเล็กน้อย ผลใช้รับประทานได้ โดยนำมาสกัดน้ำมันจากเมล็ดเพื่อทำอาหาร สรรพคุณของนนทรี แก้อาการท้องเสีย ใช้เหง้าของต้นนำมาต้มน้ำดื่มเพื่อช่วยหยุดอาการท้องเสีย แก้โรคน้ำเหลืองเสีย ใช้เปลือกของต้นนำมาต้มน้ำดื่มเพื่อช่วยรักษาน้ำเหลืองเสีย ขับพยาธิ ใช้เมล็ดของผลนำมาบดเป็นผงชงน้ำดื่มเพื่อช่วยขับพยาธิ บำรุงหัวใจ ใช้ใบของต้นนำมาต้มน้ำดื่มเพื่อช่วยบำรุงหัวใจ รักษาโรคผิวหนัง ใช้เปลือกของต้นนำมาต้มน้ำแล้วนำน้ำมาอาบหรือจุ่มแช่ เพื่อช่วยรักษาโรคผิวหนัง เช่น กลาก เกลื้อน

กล้วยน้ำว้า สรรพคุณ และการปลูกกล้วยน้ำว้า

กล้วยน้ำว้า กล้วยน้ำว้าเป็นผลไม้เมืองร้อนยอดนิยมที่มีถิ่นกำเนิดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผลสุกมีรสหวานเล็กน้อย มีเนื้อนุ่ม ครีม และมีเมล็ดเล็กๆ ซึ่งสามารถรับประทานได้ กล้วยน้ำว้าอุดมไปด้วยสารอาหารและมีสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย สรรพคุณทางยาของกล้วยน้ำว้า ช่วยย่อยอาหาร: กล้วยน้ำว้ามีเส้นใยจำนวนมากซึ่งช่วยในการย่อยอาหารโดยเพิ่มปริมาณและช่วยให้ลำไส้เคลื่อนไหวเป็นปกติ บรรเทาอาการท้องเสีย: แทนนินในกล้วยน้ำว้ามีคุณสมบัติฝาดซึ่งช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคในลำไส้ ลดความดันโลหิต: กล้วยน้ำว้าเป็นแหล่งโพแทสเซียมที่ดี ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่ช่วยลดความดันโลหิต เสริมสร้างกระดูก: กล้วยน้ำว้ามีแคลเซียมและแมกนีเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการรักษาสุขภาพกระดูก ต่อต้านอนุมูลอิสระ: กล้วยน้ำว้ามีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซีและเบตาแคโรทีน ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์ร่างกายจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ลดอาการอักเสบ: กล้วยน้ำว้ามีสารต้านการอักเสบที่เชื่อว่าช่วยลดอาการอักเสบในร่างกาย การปลูกกล้วยน้ำว้า กล้วยน้ำว้าเป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้นและดินที่ระบายน้ำได้ดี ขั้นตอนการปลูกกล้วยน้ำว้ามีดังนี้ เลือกดิน: เลือกดินที่มีความร่วนและมีอินทรียวัตถุสูง เตรียมหลุมปลูก: ขุดหลุมที่มีขนาดกว้างและลึกประมาณ 1 ฟุต ใส่ปุ๋ยหมัก: ผสมปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกลงในดินที่ขุดไว้ ปลูกต้นกล้วย: วางต้นกล้วยลงในหลุมและกลบดินรอบๆ โคนต้น รดน้ำ: รดน้ำให้ต้นกล้วยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ให้ปุ๋ย: ให้ปุ๋ยต้นกล้วยทุกๆ 2-3 เดือนโดยใช้ปุ๋ยที่สมดุล กำจัดวัชพืช: กำจัดวัชพืชบริเวณรอบๆ ต้นกล้วยเพื่อป้องกันไม่ให้แย่งสารอาหาร

ผักแขยง/ผักกะออม ประโยชน์ และสรรพคุณผักแขยง

ผักแขยง (ผักกะออม) ผักแขยง หรือ ผักกะออม เป็นผักใบเขียวที่พบมากในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย ผักชนิดนี้มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และมีสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย ประโยชน์และสรรพคุณของผักแขยง อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ: ผักแขยงอุดมไปด้วยวิตามินซีและเบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ช่วยลดคอเลสเตอรอล: ผักแขยงมีไฟเบอร์สูง ซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด โดยไฟเบอร์จะจับกับคอเลสเตอรอลและนำออกจากร่างกาย ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด: ผักแขยงมีดัชนีน้ำตาลต่ำ ทำให้ไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวานหรือต้องการควบคุมน้ำหนัก บำรุงกระดูกและฟัน: ผักแขยงมีแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูง ซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญสำหรับการบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ช่วยลดการอักเสบ: ผักแขยงมีสารต้านการอักเสบที่ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย เช่น การอักเสบของข้อหรือกล้ามเนื้อ ช่วยย่อยอาหาร: ผักแขยงมีไฟเบอร์สูง ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร ป้องกันอาการท้องผูก

ทับทิม สรรพคุณ และการปลูกทับทิม

ทับทิม ทับทิม (Punica granatum L.) เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ทางโภชนาการและสรรพคุณทางยา มีถิ่นกำเนิดในประเทศอิหร่านและอินเดีย ปัจจุบันแพร่กระจายไปทั่วในเขตอบอุ่นทั่วโลก ทับทิมเป็นผลไม้ที่มีลักษณะเป็นผลกลมแข็ง เปลือกหนาสีแดงอมน้ำตาล เมื่อผ่าออกด้านในจะมีเนื้อสีแดงสดใสฉ่ำน้ำ ห่อหุ้มเมล็ดมากมาย สรรพคุณของทับทิม ทับทิมมีสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย เนื่องจากอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น แอนโทไซยานินและโพลีฟีนอล ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ยังมีวิตามิน C วิตามิน K และโปแตสเซียมที่สำคัญต่อสุขภาพ นอกจากนี้ ทับทิมยังมีสรรพคุณทางยาอื่นๆ เช่น ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยลดความดันโลหิต ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยลดอาการอักเสบ การปลูกทับทิม การปลูกทับทิมสามารถทำได้ทั้งในเชิงพาณิชย์และเพื่อบริโภคเองในครัวเรือน โดยมีวิธีการดังนี้ การเตรียมพื้นที่ปลูก: ทับทิมชอบดินร่วนซุยที่มีการระบายน้ำดี ให้เลือกพื้นที่ที่มีแสงแดดส่องถึงตลอดวัน การเตรียมกล้าพันธุ์: สามารถขยายพันธุ์ทับทิมได้โดยการเพาะเมล็ดหรือการปักชำ การปลูก: ปลูกต้นทับทิมให้ห่างกันประมาณ 2-3 เมตร ขุดหลุมปลูกให้ลึกกว่าขนาดของรากเล็กน้อย แล้วกลบดินและรดน้ำให้ชุ่ม การดูแลรักษา: ทับทิมเป็นพืชที่ค่อนข้างทนแล้ง แต่ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอในช่วงฤดูแล้ง เมื่อต้นทับทิมติดผลควรค้ำกิ่งเพื่อไม่ให้กิ่งหัก นอกจากนี้ ควรใส่ปุ๋ยบำรุงต้นเป็นประจำ และกำจัดวัชพืชในแปลงปลูก การเก็บเกี่ยว: เมื่อผลทับทิมเริ่มสุกเต็มที่ เปลือกจะเปลี่ยนเป็นสีแดงอมน้ำตาล […]