Tag Archives: พืชไร่

ว่านเศรษฐีเรือนนอก ประโยชน์ ความเป็นมงคล และวิธีปลูก

ว่านเศรษฐีเรือนนอก ประโยชน์ ทางด้านสมุนไพรว่านเศรษฐีเรือนนอกมีสรรพคุณช่วยในการรักษาอาการเจ็บคอ แก้ไอ ขับเสมหะ โดยใช้ใบนำมาคั้นเป็นน้ำดื่ม ช่วยลดไข้ โดยใช้ใบประมาณ 1 กำมือนำมาต้มกับน้ำกิน หรือจะนำรากมาตำแล้วนำมาพอกแก้ไข้ก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังช่วยแก้อาการฟกช้ำ โดยตำใบแล้วนำมาพอกก็ช่วยบรรเทาอาการได้ ทางด้านความเชื่อ ชาวมอญโบราณมีความเชื่อกันว่าบ้านใดปลูกว่านเศรษฐีเรือนนอกไว้ประจำบ้านจะช่วยทำให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุข มีโชคลาภ เงินทองไหลมาเทมา จึงนิยมปลูกไว้หน้าบ้านเพื่อเป็นสิริมงคล ความเป็นมงคล เนื่องจากว่านเศรษฐีเรือนนอกมีลักษณะใบที่เรียวเล็กเหมือนเข็ม จึงมีความเชื่อกันว่าจะช่วยป้องกันสิ่งอัปมงคล เภทภัย อัคคีภัยได้ จึงนิยมปลูกไว้หน้าบ้านเพื่อต้านพลังร้าย วิธีปลูก ดินปลูก ควรใช้ดินร่วนผสมใบก้ามปู แกลบ แล้วรดน้ำให้ชุ่ม วางกระถางวางกระถางไว้ในที่แดดรำไร การรดน้ำ รดน้ำวันละ 1 ครั้ง หรือเมื่อดินเริ่มแห้ง การปุ๋ย หมั่นใส่ปุ๋ยเดือนละ 1 ครั้ง การขยายพันธุ์ สามารถขยายพันธุ์โดยการแยกหน่อหรือปักชำต้น

โสน ดอกโสน สรรพคุณ และการปลูกโสน

โสน โสน เป็นพืชดอกที่มีสรรพคุณทางยาและนิยมปลูกเป็นไม้ประดับ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cassia fistula Linn. อยู่ในวงศ์ Fabaceae มีถิ่นกำเนิดในอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ โสนเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง สูงได้ถึง 10 เมตร ลำต้นเกลี้ยงเกลา ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก มีใบย่อย 4-8 คู่ ปลายใบมนหรือแหลม ดอกออกเป็นช่อกระจะที่ปลายกิ่ง กลีบดอกสีเหลืองสดใส ผลเป็นฝักแบนยาว 30-60 เซนติเมตร ภายในมีเมล็ดสีน้ำตาลดำจำนวนมาก สรรพคุณของโสน โสนมีสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย ทั้งดอก ใบ และฝัก โดยใช้ในตำรับยาไทยและอินเดียมานานหลายศตวรรษ แก้ท้องผูก: ฝักโสนมีสารแอนทราคโนน (anthraquinone) ที่มีฤทธิ์เป็นยาระบาย ช่วยแก้ท้องผูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบายน้ำเหลือง: รากและใบโสนมีฤทธิ์ระบายน้ำเหลือง ช่วยลดอาการบวมน้ำ แก้ไข้: ดอกโสนมีฤทธิ์ลดไข้และต้านการอักเสบ รักษาแผลในกระเพาะอาหาร: สารสกัดจากใบโสนช่วยปกป้องเยื่อบุกระเพาะอาหารจากการอักเสบและการเกิดแผล รักษาโรคผิวหนัง: น้ำจากใบโสนสามารถใช้ทาภายนอกเพื่อรักษาโรคผิวหนังต่างๆ เช่น ผื่นคันและแผลพุพอง การปลูกโสน โสนเป็นพืชที่ปลูกง่าย สามารถเจริญเติบโตได้ในดินทุกประเภทที่มีการระบายน้ำดี ชอบแดดจัด ควรปลูกในช่วงฤดูฝน เนื่องจากเป็นช่วงที่มีน้ำมาก […]

ผักเคล (curly Kale) ราชินีผักใบเขียว คุณค่าทางโภชนาการสูง สรรพคุณ และวิธีปลูก

ผักเคล (curly Kale) ราชินีผักใบเขียว ผักเคล (Curly Kale) เป็นผักตระกูลกะหล่ำที่มีลักษณะใบหยิกสีเขียวจัด จึงได้ชื่อว่า Curly Kale ซึ่งเป็นผักที่มีความทนทานและปลูกได้ง่าย ผักเคลนั้นได้รับการขนานนามว่าเป็น ราชินีผักใบเขียว เนื่องจากมีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก คุณค่าทางโภชนาการ ผักเคลอุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆ เช่น วิตามินเค (Vitamin K) วิตามินซี (Vitamin C) วิตามินเอ (Vitamin A) แคลเซียม (Calcium) ธาตุเหล็ก (Iron) ไฟเบอร์ (Fiber) โปรตีน (Protein) นอกจากนี้ ผักเคลยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย สรรพคุณ ด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่สูง ผักเคลจึงมีสรรพคุณที่หลากหลายต่อสุขภาพ เช่น ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง บำรุงกระดูกและข้อ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยลดน้ำหนัก วิธีปลูก ผักเคลเป็นพืชที่ปลูกง่ายและสามารถปลูกได้ทั้งในกระถางหรือนแปลงปลูก โดยมีวิธีการดังนี้ เตรียมดิน ดินที่เหมาะสมสำหรับการปลูกผักเคลคือ ดินที่มีการระบายน้ำที่ดี อุดมด้วยอินทรียวัตถุ และมีค่า pH […]

เฟื่องฟ้า/ดอกเฟื่องฟ้า(bougainvillea) ประโยชน์ และการปลูกเฟื่องฟ้า

เฟื่องฟ้า/ดอกเฟื่องฟ้า (บougainvillea) เฟื่องฟ้าเป็นไม้พุ่มขนาดกลางใบเขียวเป็นมัน รูปไข่ ดอกเป็นช่อตามซอกใบสีต่างๆ เช่น แดง ชมพู ขาว เหลือง ม่วง เป็นต้น ลักษณะดอกจะเป็นกลีบดอกรูปหัวใจหรือใบเรือ 3 ใบประดับกลีบดอกเล็กๆ ตรงกลาง ประโยชน์ของเฟื่องฟ้า ไม้ประดับ: เฟื่องฟ้าเป็นไม้ประดับที่นิยมปลูกทั้งในบ้านและนอกบ้าน เนื่องจากเป็นไม้ที่แข็งแรง ปลูกง่าย ดอกสวยงาม และออกดอกตลอดปี ไม้ล้อม: เฟื่องฟ้าสามารถปลูกล้อมรั้วบ้านได้ เนื่องจากเป็นไม้พุ่มกึ่งเลื้อย ที่สามารถเลื้อยพันตามสิ่งกีดขวางต่างๆได้ง่าย ไม้ดัด: เฟื่องฟ้าสามารถตัดแต่งกิ่งและดัดเป็นรูปร่างต่างๆได้ตามต้องการ จึงนิยมนำมาใช้ทำเป็นไม้ดัด สมุนไพร: รากของเฟื่องฟ้าใช้เป็นยาพอกเพื่อรักษาโรคประจำเดือนสำหรับสตรี การปลูกเฟื่องฟ้า เฟื่องฟ้าเป็นไม้ที่ปลูกง่าย เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุยและมีการระบายน้ำที่ดี ชอบแดดจัด สามารถปลูกได้ทั้งในกระถางและลงดิน การเตรียมดิน: ก่อนปลูกเฟื่องฟ้า ให้เตรียมดินโดยการขุดหลุมกว้างและลึกประมาณ 50 เซนติเมตร แล้วใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไปเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับดิน การปลูก: วางต้นเฟื่องฟ้าลงในหลุมกลบดินให้แน่น รดน้ำให้ชุ่ม และหาหลักปักไว้เพื่อพยุงลำต้น การดูแลรักษา: การรดน้ำ: เฟื่องฟ้าชอบน้ำปานกลาง ควรรดน้ำเมื่อดินเริ่มแห้ง การใส่ปุ๋ย: ควรใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักทุก 3-4 เดือน […]

เห็ดนางฟ้า และการเพาะเห็ดนางฟ้า

เห็ดนางฟ้า เห็ดนางฟ้าเป็นเห็ดที่เป็นที่นิยมนำมารับประทาน มีรูปร่างคล้ายดอกกะหล่ำ ดอกของเห็ดมีสีขาวหรือเหลืองอ่อน ก้านดอกมีสีขาวและมีเส้นใยละเอียด เห็ดนางฟ้าอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ เช่น โปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ การเพาะเห็ดนางฟ้า การเพาะเห็ดนางฟ้าสามารถทำได้โดยการใช้ก้อนเชื้อเห็ด สำหรับการเริ่มต้นเพาะ เห็ดนางฟ้านั้นไม่ยุ่งยากและสะดวก โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้: 1. การเตรียมก้อนเชื้อเห็ด: ต้องใช้หัวเชื้อพันธุ์เห็ดมาเพาะบนวัสดุต่างๆ เช่น ขี้เลื่อย ฟาง ค้าซังข้าวโพด แล้วนำไปบรรจุลงในถุงพลาสติกหรือภาชนะสำหรับเพาะเห็ด 2. การเตรียมโรงเรือนเพาะเห็ด: โรงเรือนที่ใช้เพาะเห็ดนางฟ้าควรเป็นโรงเรือนที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี มีความชื้นสูง และสามารถควบคุมอุณหภูมิได้ 3. การดูแลรักษาก้อนเชื้อเห็ด: หลังจากนำก้อนเชื้อเห็ดมาวางในโรงเรือนเพาะเห็ดแล้ว ให้หมั่นรดน้ำและพ่นน้ำให้มีความชื้นสูง ควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสม และต้องคอยสังเกตและกำจัดเชื้อราอื่นๆ ที่อาจปะปนมา 4. การเก็บเกี่ยวเห็ด: เมื่อก้อนเชื้อเห็ดเริ่มออกดอก เห็ดจะมีลักษณะรูปร่างคล้ายดอกกะหล่ำ สามารถเก็บเกี่ยวได้โดยการตัดเห็ดบริเวณโคนต้นหรือดึงออกเบาๆ แล้วนำไปส่งจำหน่ายหรือแปรรูป

ผักขี้หูด ประโยชน์ และสรรพคุณผักขี้หูด

ผักขี้หูด ผักขี้หูด (ชื่อวิทยาศาสตร์: Commelina communis) เป็นพืชล้มลุกในวงศ์ผักเสี้ยน มีลักษณะลำต้นทรงกลม แตกแขนงตามข้อ ข้อโอบสีเหลืองหรือม่วงแดง ใบเดี่ยว เรียงสลับ เว้าโค้ง ฐานใบค่อนข้างเป็นรูปหัวใจ มีก้านใบแผ่กว้างโอบหุ้มลำต้น ดอกช่อออกเป็นคู่ๆ ที่ซอกใบ มีกลีบดอกสีฟ้าม่วง 3 กลีบ เกสรตัวผู้ 6 อัน ผลเป็นแคปซูลทรงกลม ประโยชน์และสรรพคุณผักขี้หูด ยอดอ่อนรับประทานได้ โดยนำมาลวก จัดเป็นผักที่มีคุณค่าทางอาหารสูง อุดมไปด้วยวิตามินเอ แคลเซียม และฟอสฟอรัส ใช้เป็นยาสมุนไพร โดยใช้รากและใบ แก้ไข้ นำรากมาต้มกับน้ำดื่ม แก้บิด นำรากและใบมาต้มกับน้ำดื่ม แก้ท้องผูก นำรากและใบมาตำคั้นเอาน้ำดื่ม แก้อาการอักเสบ นำใบมาโขลกแล้วพอกบริเวณที่อักเสบ รักษาแผลสด นำใบมาตำแล้วพอกบริเวณแผล แก้คัน นำใบมาตำแล้วทาบริเวณที่คัน รักษาโรคผิวหนัง เช่น กลาก เกลื้อน โดยนำใบมาตำแล้วทาบริเวณที่เป็น ใช้เป็นอาหารสัตว์ เช่น วัว ควาย โดยสามารถนำทุกส่วนของต้นมาใช้ได้

กระเทียมต้น (leek) สรรพคุณ และการปลูกกระเทียมต้น

กระเทียมต้น (Leek) กระเทียมต้น เป็นพืชสมุนไพรที่อยู่ในตระกูลหัวหอม มีลักษณะเป็นต้นสูงคล้ายต้นหอมแต่ลำต้นอวบใหญ่กว่า ใบแบนยาวเป็นรูปแถบ ขอบใบเรียบ เนื้อใบฉ่ำน้ำ ส่วนหัวมีขนาดเล็กกว่าหอมใหญ่เล็กน้อย ชั้นนอกของหัวเป็นสีขาว ส่วนชั้นในเป็นสีเขียวซีดหรือเหลืองอ่อน กระเทียมต้นมีกลิ่นฉุนน้อยกว่าหัวหอมและกระเทียม สรรพคุณของกระเทียมต้น ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด: กระเทียมต้นมีสารแอนโทไซยานินที่ช่วยกระตุ้นการสร้างและการทำงานของเซลล์เบต้าในตับอ่อน ช่วยเพิ่มการหลั่งอินซูลินและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยลดความดันโลหิต: สารอัลลิซินในกระเทียมต้นช่วยขยายหลอดเลือด ลดแรงต้านทานของหลอดเลือด จึงช่วยลดความดันโลหิต ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล: กระเทียมต้นมีสารโพลีซัลไฟด์ที่ช่วยยับยั้งการสร้างคอเลสเตอรอลชนิด LDL (คอเลสเตอรอลเลว) และเพิ่มการสร้างคอเลสเตอรอลชนิด HDL (คอเลสเตอรอลดี) ช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน: กระเทียมต้นอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี และสารอัลลิซิน ทำให้ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ช่วยลดการอักเสบ: สารโพลีฟีนอลในกระเทียมต้นมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยลดการอักเสบในร่างกายได้ ช่วยลดอาการหวัดและภูมิแพ้: สารอัลลิซินในกระเทียมต้นช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของหวัดและภูมิแพ้ การปลูกกระเทียมต้น การเตรียมดิน: ดินที่ใช้ปลูกกระเทียมต้นควรเป็นดินร่วนซุย โปร่ง มีการระบายน้ำดี มีค่า pH ระหว่าง 6.0-6.8 การเตรียมพันธุ์: ใช้หน่อของต้นกระเทียมต้นหรือซื้อหัวกระเทียมต้นแบบที่ยังไม่ได้แก่จัดมาปลูก แยกหน่อออกจากหัวแล้วนำไปแช่ในสารละลายฆ่าเชื้อราเป็นเวลา 30 นาที การปลูก: ขุดหลุมลึกประมาณ 5-10 […]

หงส์เหิน/ดอกเข้าพรรษา ประโยชน์ สรรพคุณ และวิธีปลูกหงส์เหิน

ไพล ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ไพลเป็นพืชล้มลุกที่มีเหง้าอยู่่ดิน ลำต้นตั้งตรง สูงได้ถึง 1 เมตร มีร่องตามความยาวของลำต้น ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงตรงข้ามกัน รูปรี ปลายใบแหลม โคนใบมน ขอบใบเรียบ ดอกออกเป็นช่อที่ปลายลำต้น กลีบดอกสีขาวหรือสีเหลืองอ่อน มีจุดประสีม่วง ผลเป็นผลแห้ง แตกเป็น 3 พู เมื่อแก่จะมีสีน้ำตาลหรือสีดำ สรรพคุณทางยา รากและเหง้า บำรุงหัวใจ บำรุงโลหิต ลดความดันโลหิต ต้านการแข็งตัวของเกล็ดเลือด ป้องกันเส้นเลือดอุดตัน ลดคอเลสเตอรอล ต้านอนุมูลอิสระ ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา ลดการอักเสบ ต้นและใบ รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก แก้ปวดเมื่อย ต้านการอักเสบ วิธีใช้ รากและเหง้า ต้มดื่มเป็นยา บดเป็นผงผสมน้ำหรือน้ำผึ้งดื่ม ตากแห้งบดเป็นผงทำเป็นแคปซูล ต้นและใบ ตำพอกแผล นำมาต้มดื่ม นำมาประกอบอาหาร

ฟ้าทะลายโจร สรรพคุณ และการปลูกฟ้าทะลายโจร

ฟ้าทะลายโจร สรรพคุณ สมุนไพรไทยของฟ้าทะลายโจร ฟ้าทะลายโจร (Andrographis paniculata) เป็นพืชสมุนไพรในตระกูลผักตบชวา มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทยและอินเดีย มีการใช้ในตำรายาแผนโบราณของไทยหลายศตวรรษเพื่อรักษาโรคต่างๆ คุณสมบัติทางเภสัชวิทยาของฟ้าทะลายโจรมาจากสารประกอบแอนโดรกราโฟไลด์ ซึ่งมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ต้านเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และต้านมาลาเรีย การปลูกฟ้าทะลายโจร ฟ้าทะลายโจรสามารถปลูกได้ทั้งในแปลงและในกระถาง เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุยระบายน้ำได้ดีและแสงแดดจัด การเตรียมดิน: ไถผาลงดินลึกประมาณ 20-30 เซนติเมตร ใสปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ การปลูก: หว่านเมล็ดลงในหลุมลึกประมาณ 0.5-1 เซนติเมตร ระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 20-30 เซนติเมตร การดูแลรักษา: รดน้ำสม่ำเสมอโดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน ใส่ปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยเคมีทุก 2-3 สัปดาห์ เพื่อควบคุมวัชพืชใช้การคลุมด้วยฟางหรือวิธีกล การเก็บเกี่ยว ต้นฟ้าทะลายโจรจะเริ่มออกดอกเมื่ออายุประมาณ 3-4 เดือน สามารถเก็บเกี่ยวใบและยอดได้เมื่อต้นมีความสูงประมาณ 30-40 เซนติเมตร โดยตัดในตอนเช้าและนำไปตากแดดให้แห้ง

แสมดำ ประโยชน์ และสรรพคุณแสมดำ

แสมดำ แสมดำ (Avicennia officinalis) เป็นไม้ชายเลนขนาดเล็กถึงขนาดกลาง จัดอยู่ในวงศ์ Acanthaceae พบมากในพื้นที่ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลนบริเวณที่มีน้ำทะเลท่วมถึงเป็นประจำ ประโยชน์และสรรพคุณของแสมดำ แก่นและเปลือกของแสมดำ มีสาร Tannin ช่วยสมานแผล แก้บิด ท้องเสียร่วง บดเป็นผงใช้โรยแผลสด เพื่อห้ามเลือด ลำต้นใช้ทำฟืน เผาทำถ่านได้ ใบของแสมดำ มีสาร Fisetin และ Rutin ช่วยลดไข้ แก้ร้อนใน กระหายน้ำ บำรุงผิวพรรณ ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ลดการเกิดสิว ต้มน้ำดื่มช่วยแก้ปัสสาวะขัด ดอกของแสมดำ ใช้เป็นยาแก้ท้องเสีย บิด ช่วยรักษาโรคหอบหืด ช่วยลดอาการไข้หวัดใหญ่ ผลของแสมดำ มีสาร Diuretic ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยรักษาโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ตำคั้นน้ำหยอดตา ช่วยรักษาโรคต้อตา