ต้อยติ่ง/อังกาบ ต้อยติ่งหรืออังกาบ เป็นสมุนไพรที่ใช้กันมาตั้งแต่โบราณ มีลักษณะเป็นส่วนที่ยื่นยาวออกจากต้นอย่างไม่มีใบ เรียกว่า “ก้านอ่อน” หรือ “ยอดอ่อน” นิยมนำมาประกอบอาหาร เนื่องจากมีรสชาติหวานกรอบ อีกทั้งยังมีสรรพคุณทางยามากมายอีกด้วย ประโยชน์และสรรพคุณของต้อยติ่ง บำรุงหัวใจและหลอดเลือด: ต้อยติ่งอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด รักษาความแข็งแรงของหลอดเลือด และลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด รักษาโรคเบาหวาน: สารสกัดจากต้อยติ่งช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ นอกจากนี้ยังมีสารที่ช่วยซ่อมแซมเซลเบต้าในตับอ่อนซึ่งทำหน้าที่ผลิตอินซูลิน บำรุงกระดูกและข้อ: ต้อยติ่งช่วยบำรุงกระดูกและข้อให้แข็งแรง กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินบริเวณข้อต่อ ช่วยลดอาการปวดข้อในผู้สูงอายุ ต้านมะเร็ง: สารสกัดจากต้อยติ่งมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งปอด และมะเร็งเม็ดเลือดขาว ระงับอาการอักเสบ: ต้อยติ่งมีสารที่ออกฤทธิ์เป็นยาต้านการอักเสบ ช่วยลดอาการอักเสบในร่างกาย เช่น โรคไขข้อ โรคข้ออักเสบ และอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ บำรุงสายตา: ต้อยติ่งอุดมไปด้วยสารลูทีนและซีแซนทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีบทบาทสำคัญในการบำรุงสายตา ป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อมและโรคต้อกระจก ลดการติดเชื้อ: สารสกัดจากต้อยติ่งมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสบางชนิด จึงช่วยลดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ระบบทางเดินอาหาร และระบบทางเดินปัสสาวะได้
Tag Archives: ข้าว
ว่านเสน่ห์จันทร์แดง มหามงคล ว่านเสน่ห์จันทร์แดง มีลักษณะโดดเด่นที่ใบที่มีสีสันสวยงาม คล้ายกับว่านเสน่ห์จันทร์เขียว แต่มีขนาดใหญ่กว่าและมีสีแดงชัดเจน ว่านชนิดนี้มีความเชื่อในทางมงคลว่าเป็นเสน่ห์เมตตามหานิยม ช่วยให้เป็นที่รักใคร่ของผู้พบเห็น นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย เช่น ประโยชน์และสรรพคุณ ใช้ทาแก้ฝี แก้แผล ใช้พอกแผล ช่วยสมานแผล ใช้พอกแก้แมลงสัตว์กัดต่อย ใช้ทาแก้กลากเกลื้อน การปลูก ว่านเสน่ห์จันทร์แดงเจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุยที่มีการระบายน้ำดี ชอบแสงแดดรำไรถึงแดดจัด ควรปลูกในกระถางหรือแปลงที่มีขนาดเล็กและถ่ายเทอากาศได้ดี รดน้ำเพียงพอ ไม่ให้แฉะหรือแห้งจนเกินไป ว่านชนิดนี้ขยายพันธุ์โดยการแยกหน่อจากต้นแม่
ผักชีฝรั่ง สรรพคุณ และการปลูกผักชีฝรั่ง ผักชีฝรั่งเป็นผักพื้นบ้านที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย นอกจากนี้ ผักชีฝรั่งยังเป็นพืชที่ปลูกง่ายและดูแลรักษาง่าย จึงเป็นที่นิยมปลูกกันอย่างแพร่หลายในครัวเรือน สรรพคุณของผักชีฝรั่ง ผักชีฝรั่งมีสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย ได้แก่ ช่วยลดความดันโลหิตสูง ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา ช่วยลดอาการท้องเสีย ช่วยลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยขับลมในลำไส้ ช่วยเจริญอาหาร ช่วยลดอาการปวดหัว ช่วยลดอาการวิงเวียนศีรษะ ช่วยบำรุงสายตา ช่วยบำรุงหัวใจ การปลูกผักชีฝรั่ง ผักชีฝรั่งเป็นพืชที่ปลูกง่ายและดูแลรักษาง่าย สามารถปลูกได้ทั้งในดินและในกระถาง โดยมีวิธีการปลูกดังนี้ การเตรียมดิน ดินที่ใช้ปลูกผักชีฝรั่งควรเป็นดินร่วนปนทรายที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง มีค่า pH ระหว่าง 6.0-6.8 หากดินมีค่า pH ต่ำกว่า 6.0 ควรใส่ปูนขาวเพื่อปรับสภาพดิน การเตรียมเมล็ดพันธุ์ เมล็ดพันธุ์ผักชีฝรั่งสามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าเกษตรทั่วไป ก่อนปลูกควรแช่เมล็ดพันธุ์ในน้ำอุ่นประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อช่วยให้เมล็ดงอกเร็วขึ้น การปลูก ขุดหลุมปลูกให้มีขนาดกว้างประมาณ 10 เซนติเมตร ลึกประมาณ 5 เซนติเมตร หว่านเมล็ดพันธุ์ลงในหลุมปลูกประมาณ 2-3 เมล็ด แล้วกลบดินบางๆ […]
ว่านเสน่ห์จันทร์แดง เป็นว่านที่อยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน มีความเชื่อว่าเป็นว่านมงคลที่ช่วยเสริมเสน่ห์ ดึงดูดเพศตรงข้าม และเสริมดวงชะตาให้ดีขึ้น ว่านเสน่ห์จันทร์แดงเป็นว่านล้มลุกขนาดเล็ก มีลำต้นสีเขียวอ่อน แตกหน่อได้มาก ใบเป็นใบเดี่ยว รูปรีแกมใบหอก ขอบใบหยักเป็นคลื่นเล็กน้อย ดอกออกเป็นช่อแบบซี่ร่มที่ปลายกิ่ง ดอกย่อยมีขนาดเล็ก สีแดงอมม่วง กลีบดอกมี 5 กลีบ ผลเป็นแบบผลแห้งแตกได้ ความเป็นมงคล มีความเชื่อว่าว่านเสน่ห์จันทร์แดงเป็นว่านมงคลที่ช่วยเสริมเสน่ห์ ดึงดูดเพศตรงข้าม และเสริมดวงชะตาให้ดีขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมเสน่ห์และดึงดูดเพศตรงข้าม ประโยชน์และสรรพคุณ ใบนำไปตำให้ละเอียดหรือโขลกให้แหลกแล้วผสมน้ำสะอาดเล็กน้อย ใช้เป็นยารักษาโรคผิวหนัง เช่น กลาก เกลื้อน ผดผื่นคัน ใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางช่วยบำรุงผิวพรรณให้เนียนนุ่มสดใส ช่วยดับพิษร้อน แก้ไข้ แก้ท้องร่วง และขับเสมหะ ขับระดู สามารถป้องกันมดปลวกและแมลงกัดต่อยได้เมื่อนำไปวางไว้ตามมุมบ้านหรือใกล้เตียงนอน วิธีปลูกและดูแลว่านเสน่ห์จันทร์แดง ดินสำหรับปลูกและดูแลว่านเสน่ห์จันทร์แดง ควรเป็นดินร่วนปนทรายที่มีความระบายน้ำดี ใช้ปุ๋ยและน้ำในการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม การรดน้ำ ควรรดน้ำให้ชุ่มอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ควรให้แฉะเกินไป แสงแดด อยากให้โดนแดดแดดรำไร การใส่ปุ๋ย ควรใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักทุกๆ 1-2 เดือน โรคและแมลงศัตรูพืช ควรหมั่นตรวจสอบว่านเสน่ห์จันทร์แดงเพื่อดูแลรักษาโรคและกำจัดแมลงศัตรูพืชอย่างเหมาะสม
พลับพลึงธาร/หญ้าช้อง/หอมน้ำ พืชน้ำที่พบแห่งเดียวบนโลก พลับพลึงธาร หรือ หญ้าช้อง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Blyxa japonica) หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า พลับพลึงน้ำ เป็นพืชน้ำชนิดหนึ่งในวงศ์ Hydrocharitaceae ซึ่งเป็นพืชน้ำตระกูลเดียวกันกับกระจูด สาหร่ายขนนก คะน้าญี่ปุ่น และสาหร่ายจอก ต้นพลับพลึงธารมีลักษณะลำต้นเป็นเหง้าสั้นใต้พื้นน้ำ ใบเป็นรูปใบหอกยาว เรียงซ้อนสลับกันไปคล้ายดอกกุหลาบ มีดอกสีม่วงอ่อน ออกเป็นกระจุกตามซอกใบ ผลเป็นทรงรีมีเมล็ดหลายเมล็ด พบได้ทั่วไปในแหล่งน้ำ เช่น บึง หนอง คลอง บริเวณที่มีน้ำใสสะอาดและมีแดดส่องถึง มีความแปลกของดอกที่ออกหันหน้าขึ้นสู่ผิวน้ำในตอนกลางวัน และจะหุบลำตัวกลับลงใต้ดินในตอนเย็น ประโยชน์ พลับพลึงธารเป็นพืชน้ำที่นิยมนำมาปลูกเพื่อความสวยงามในบ่อบัว บ่อปลา เพราะมีรูปทรงที่สวยงามและดอกมีสีสันที่สดใส นอกจากนี้แล้ว พลับพลึงธารยังมีสรรพคุณทางยา โดยเหง้านำมาตุ๋นกับน้ำจนเปื่อยแล้วคั้นเอาแต่น้ำ แบ่งรับประทานครั้งละ 1 ช้อนแกง จะช่วยแก้อาการโรคหอบ หอบหืด และช่วยขับเสมหะได้ ส่วนรากนำมาคั้นเอาน้ำดื่ม จะช่วยแก้อาการโรคไตอักเสบได้ ความน่าสนใจ พลับพลึงธารเป็นพืชน้ำที่พบเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น เนื่องจากมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโต จึงทำให้เป็นพืชที่หายากและมีคุณค่าสูง
แอปเปิ้ล แอปเปิ้ลเป็นผลไม้ที่มีสรรพคุณหลากหลาย เช่น ช่วยลดความดันโลหิตสูง ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมอง ช่วยบำรุงหัวใจ ให้พลังงาน ช่วยให้ระบบประสาททำงานได้ดีขึ้น ช่วยในเรื่องระบบทางเดินอาหาร ช่วยรักษาโรคเหน็บชา ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยชะลอวัย ช่วยให้ผิวพรรณสดใส ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ แอปเปิ้ลยังสามารถปลูกได้ง่าย จึงเป็นที่นิยมของเกษตรกรจำนวนมาก ซึ่งขั้นตอนการปลูกแอปเปิ้ลมีดังนี้ เตรียมดิน: แอปเปิ้ลชอบดินร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี และมีค่า pH ระหว่าง 6.0-7.5 ขุดหลุมปลูก: ขุดหลุมขนาดกว้าง 1 เมตร ลึก 1 เมตร ใส่ปุ๋ยรองพื้น: ผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไปในหลุมปลูก นำต้นแอปเปิ้ลลงหลุมปลูก: วางต้นแอปเปิ้ลลงในหลุมปลูก แล้วกลบดินให้แน่น รดน้ำ: รดน้ำให้ชุ่ม การป้องกันและกำจัดโรคแมลง: จำเป็นต้องดูแลป้องกันและกำจัดโรคแมลงศัตรูอย่างสม่ำเสมอ แอปเปิ้ลเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางอาหารสูงและมีสรรพคุณมากมาย ดังนั้นจึงนิยมบริโภคกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก หากท่านต้องการปลูกแอปเปิ้ลเพื่อบริโภคเองหรือขายก็สามารถทำได้โดยปฏิบัติตามขั้นตอนข้างต้นได้เลย ขอให้ท่านโชดดีในการปลูกแอปเปิ้ล และขอให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพสูงครับ
ตะไคร้ ตะไคร้ (Cymbopogon citratus) เป็นพืชสมุนไพรที่ปลูกกันอย่างแพร่หลายในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ลำต้นยาวเรียว ปลายใบแหลม มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ตะไคร้มีประโยชน์และสรรพคุณมากมาย โดยสามารถใช้ทั้งใบ ลำต้น และราก ใบตะไคร้ ใบตะไคร้มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว และมีรสชาติเผ็ดเล็กน้อย จึงนิยมนำมาใช้เป็นเครื่องเทศหรือปรุงอาหารต่างๆ โดยเฉพาะในอาหารไทยและอาหารเวียดนาม ใบตะไคร้ยังมีสรรพคุณทางยา โดยสามารถช่วยบรรเทาอาการต่างๆ เช่น อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ อาการจุกเสียดแน่นท้อง อาการปวดประจำเดือน อาการปวดศีรษะ อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อาการไข้หวัด สรรพคุณตะไคร้ ตะไคร้มีสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย โดยสามารถใช้รักษาโรคต่างๆ ได้ทั้งภายในและภายนอก ดังนี้ แก้ไข้ แก้หวัด: ตะไคร้มีฤทธิ์ช่วยลดไข้ แก้หวัด บรรเทาอาการไอ และละลายเสมหะได้ดี บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ: ตะไคร้มีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ จุดเสียดแน่นท้อง และช่วยขับลมได้ดี แก้ปวดประจำเดือน: ตะไคร้มีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือน แก้เกร็งกล้ามเนื้อมดลูก และทำให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น แก้ปวดศีรษะ: ตะไคร้มีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะได้ดี โดยเฉพาะอาการปวดศีรษะจากการปวดประจำเดือน หรืออาการปวดศีรษะจากความเครียด แก้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ: ตะไคร้มีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อได้ดี โดยเฉพาะอาการปวดเมื่อยจากการทำงานหนักหรือการออกกำลังกาย […]
บอนเต่า บอนป่า พืชทั้งใช้ทำกับข้าว ปลูกเป็นไม้ประดับ และสรรพคุณเด่น บอนเต่า หรือบอนป่า เป็นพืชล้มลุกที่มีถิ่นกำเนิดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ลักษณะเด่นของบอนเต่าอยู่ที่ใบที่มีขนาดใหญ่และมีลวดลายสีเขียวเข้มสลับกับสีเขียวอ่อนสวยงาม โดยทั่วไปแล้ว บอนเต่าสามารถเจริญเติบโตได้สูงถึง 1-2 เมตร มักพบในพื้นที่ชุ่มน้ำหรือริมป่า การใช้ประโยชน์ ทำกับข้าว: บอนเต่าเป็นพืชที่สามารถนำมาใช้ประกอบอาหารได้ โดยเฉพาะใบอ่อนที่สามารถนำมาต้ม ผัด แกง หรือทอดได้ ส่วนก้านใบสามารถนำมาทำแกงส้มได้เช่นกัน นอกจากนี้ บอนเต่ายังเป็นแหล่งของวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ จึงดีต่อสุขภาพอีกด้วย ปลูกเป็นไม้ประดับ: ด้วยความที่บอนเต่ามีใบที่มีลวดลายสวยงาม จึงมักถูกนำมาปลูกเป็นไม้ประดับ ทั้งในบ้านและนอกบ้าน อีกทั้งยังมีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมต่างๆ จึงเป็นพืชที่ดูแลรักษาง่ายอีกด้วย สรรพคุณเด่น: นอกจากการใช้ประโยชน์ในด้านอาหารและไม้ประดับแล้ว บอนเต่ายังมีสรรพคุณทางยาอีกมากมาย เช่น รักษาอาการท้องเสีย: โดยการนำใบบอนเต่ามาต้มน้ำแล้วดื่ม รักษาแผลอักเสบ: โดยการนำใบบอนเต่ามาตำแล้วพอกแผล บรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ: โดยการนำใบบอนเต่ามาต้มน้ำแล้วอาบ รักษาโรคผิวหนัง: เช่น กลาก เกลื้อน โดยการนำใบบอนเต่ามาต้มน้ำแล้วใช้ล้างบริเวณที่เป็น จะเห็นได้ว่า บอนเต่าเป็นพืชที่มีประโยชน์หลากหลาย ทั้งในด้านอาหาร ไม้ประดับ และสรรพคุณทางยา ด้วยเหตุนี้จึงทำให้บอนเต่าเป็นพืชที่เป็นที่นิยมปลูกกันอย่างแพร่หลายในประเทศไทย
ชงโค สรรพคุณ และวิธีปลูก ชงโค เป็นไม้พุ่มขนาดเล็กที่พบได้ทั่วไปในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย ใบของชงโคมีขนาดใหญ่และมีขน ขอบใบหยักฟันเลื่อย ดอกของชงโคมีสีขาวหรือสีชมพูอ่อน มีกลิ่นหอม ผลของชงโคมีขนาดเล็กและมีสีเขียว เมื่อสุกแล้วจะมีสีแดง ชงโคมีสรรพคุณทางยาหลากหลาย เช่น ช่วยลดไข้ ช่วยแก้ท้องเสีย ช่วยแก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ช่วยรักษาโรคผิวหนัง ช่วยขับพยาธิ ช่วยรักษามะเร็ง การปลูกชงโค ชงโคสามารถปลูกได้ทั้งในดินและในกระถาง โดยมีวิธีการปลูกดังนี้ การเตรียมดิน ดินที่ใช้ปลูกชงโคควรเป็นดินร่วนซุยที่มีความอุดมสมบูรณ์ สามารถระบายน้ำได้ดี การเตรียมต้นกล้า ต้นกล้าชงโคสามารถขยายพันธุ์ได้โดยการเพาะเมล็ดหรือการปักชำ โดยการเพาะเมล็ดสามารถทำได้โดยการนำเมล็ดชงโคไปแช่น้ำอุ่นประมาณ 30 นาที จากนั้นนำไปเพาะในแปลงเพาะ โดยให้เมล็ดอยู่ลึกลงไปในดินประมาณ 1 เซนติเมตร ส่วนการปักชำสามารถทำได้โดยการตัดกิ่งชงโคที่มีความยาวประมาณ 10-15 เซนติเมตร จากนั้นนำไปปักชำในแปลงชำ โดยให้กิ่งชงโคอยู่ลึกลงไปในดินประมาณ 5-7 เซนติเมตร การปลูก เมื่อต้นกล้าชงโคมีอายุประมาณ 3-4 เดือน ก็สามารถนำไปปลูกในดินหรือในกระถางได้ โดยให้ระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 1-2 เมตร สำหรับการปลูกในดิน ให้ขุดหลุมปลูกที่มีความลึกและกว้างประมาณ 30 เซนติเมตร […]
ผักหนาม ผักป่า ใบกรอบหวาน และสรรพคุณ ผักหนาม (ภาษาอีสานเรียกว่า ผักกาดจาน) เป็นผักพื้นบ้านที่ขึ้นตามป่าเขาหรือตามทุ่งนา ใบของผักหนามมีรสชาติกรอบหวาน นิยมนำมาประกอบอาหาร เนื่องจากมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย สรรพคุณทางยาของผักหนาม บำรุงสายตา ผักหนามมีเบต้าแคโรทีนสูง จึงช่วยบำรุงสายตา ช่วยป้องกันโรคตาต่างๆ ได้ ทั้งยังมีส่วนช่วยชะลอวัย บำรุงผิวหนัง ผักหนามมีวิตามินซีและวิตามินเอ มีส่วนช่วยบำรุงผิวให้มีความแข็งแรง ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย บำรุงกระดูก ผักหนามมีแคลเซียมสูง มีส่วนช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกเสื่อม โรคกระดูกพรุนได้ ช่วยขับปัสสาวะ ผักหนามมีคุณสมบัติช่วยขับปัสสาวะ ทำให้ร่างกายขับโซเดียมส่วนเกินได้ดีขึ้น ช่วยลดอาการบวมน้ำ และช่วยป้องกันการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะได้ ทั้งยังช่วยลดอาการนิ่วในไตได้ แก้อาการท้องเสีย ผักหนามมีฤทธิ์ฝาดสมาน มีส่วนช่วยแก้อาการท้องเสีย ท้องร่วงได้ แก้อาการปวดหัว แก้อาการไข้ ผักหนามมีฤทธิ์แก้ปวด ช่วยลดอาการปวดหัว ปวดฟัน และมีส่วนช่วยแก้อาการไข้ได้ แก้อาการคัน ผักหนามมีฤทธิ์เย็น ใช้แก้ผื่นคัน ผื่นแพ้ได้ ป้องกันโรคมะเร็ง ผักหนามมีสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีส่วนช่วยปกป้องเซลล์จากการถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้ โดยเฉพาะโรคมะเร็งกระเพาะอาหารอีกด้วย ข้อควรระวังในการรับประทานผักหนาม ผู้ที่มีโรคไตเรื้อรังควรหลีกเลี่ยงการรับประทานผักหนาม เพราะผักหนามมีโพแทสเซียมสูง […]