ว่านมหาโชค ปลูกแล้วโชคลาภเทมา วิธีปลูกและแหล่งขาย ว่านมหาโชค เป็นพืชล้มลุกที่มีหัว มีลำต้นสูงประมาณ 1-2 ฟุต ใบเป็นใบเดี่ยว รูปใบหอก กว้างประมาณ 2-3 เซนติเมตร ยาวประมาณ 5-8 เซนติเมตร ขอบใบหยัก ดอกออกเป็นช่อที่ปลายยอด的花.สีแดงหรือสีชมพู มีกลิ่นหอมอ่อนๆว่านมหาโชคเป็นพืชที่ปลูกง่าย ไม่ต้องการการดูแลมาก เป็นที่นิยมในหมู่นักปลูกต้นไม้และผู้ที่ชื่นชอบพืชมงคล เพราะเชื่อกันว่าเป็นว่านมงคลที่จะช่วย带来好运และความเจริญรุ่งเรืองให้แก่ผู้ปลูก วิธีปลูกว่านมหาโชค เตรียมดิน ควรเป็นดินร่วนซุย มีความชื้นสูง ผสมกับปุ๋ยคอก或ปุ๋ยหมักในอัตรา 1:1 เตรียมหัวว่านมหาโชค ควรเลือกหัวที่มีขนาดใหญ่และสมบูรณ์ ปราศจากโรคและแมลงศัตรูพืช ปลูกว่านมหาโชค ให้ขุดหลุมลึกประมาณ 10-15 เซนติเมตร แล้วนำหัวว่านมหาโชกลงปลูก กดดินให้แน่น รดน้ำให้ชุ่ม ดูแลรักษาว่านมหาโชค ควรให้น้ำสม่ำเสมอ รดน้ำทุกเช้าและเย็น ในช่วงฤดูฝนอาจลดการให้น้ำลงหรือรดน้ำเฉพาะตอนเช้า ควรใส่ปุ๋ยคอกเดือนละครั้ง และหมั่นกำจัดวัชพืช แหล่งขายว่านมหาโชค ว่านมหาโชคสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายต้นไม้ทั่วไปหรือร้านขายพืชมงคล โดยราคาจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับขนาดและสายพันธุ์ของต้นว่านมหาโชค.
Tag Archives: ข้าว
ตะไคร้หอม สรรพคุณ และการปลูกตะไคร้หอม ตะไคร้หอม เป็นพืชล้มลุกที่มีกลิ่นหอม มีลำต้นตั้งตรงและใบยาวแคบ มีสรรพคุณทางยาหลายประการ รวมถึงช่วยบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้ปวดท้อง และช่วยในการย่อยอาหาร สรรพคุณของตะไคร้หอม ช่วยขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ปวดท้อง ขับเหงื่อ ลดไข้ แก้หวัด คัดจมูก แก้ไอ ละลายเสมหะ บำรุงหัวใจ กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต บำรุงสมอง แก้อ่อนเพลีย บรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ แก้ปวดประจำเดือน ขับปัสสาวะ ขจัดกลิ่นตัว กลิ่นปาก บำรุงผิวพรรณ การปลูกตะไคร้หอม ตะไคร้หอมเป็นพืชที่ปลูกง่าย สามารถปลูกได้ในดินทุกประเภท แต่เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุยที่มีการระบายน้ำดี ควรปลูกในที่ที่มีแสงแดดส่องถึงอย่างน้อยครึ่งวัน เตรียมดินโดยไถพรวนดินให้ลึกประมาณ 20-30 เซนติเมตร แล้วใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในอัตรา 1-2 ตันต่อไร่ เตรียมกอตะไคร้หอมโดยแยกกอออกจากกัน แล้วตัดใบออกเหลือแต่โคนประมาณ 10 เซนติเมตร นำกอตะไคร้หอมไปปลูกลงในดิน โดยให้กอห่างกันประมาณ 50-60 เซนติเมตร และรดน้ำให้ชุ่ม ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ในอัตรา […]
ว่านเศรษฐีกอบทรัพย์ ต้นว่านเศรษฐีกอบทรัพย์เป็นว่านมงคลที่หลายๆ คนนิยมปลูกไว้ในบ้านและที่ทำงาน เพื่อช่วยเสริมโชคลาภ การเงิน และความมั่งคั่งร่ำรวย มีความเชื่อกันว่าจะช่วยให้กิจการของเราเจริญรุ่งเรืองร่ำรวยเงินทอง และจะช่วยให้การเงินคล่องตัวไม่ติดขัด ความเป็นมงคล ชื่อว่าน “เศรษฐีกอบทรัพย์” เป็นชื่อที่มีความเป็นสิริมงคลในด้านการเงิน มีความหมายถึงการกอบโชคทรัพย์ และเสริมความมั่งคั่งร่ำรวยให้แก่ผู้ปลูกเลี้ยง ซึ่งชื่อว่านดังกล่าวน่าจะมาจากใบของต้นที่มีลักษณะบิดเกลียวคล้ายก้นถุงเงินถุงทองนั่นเอง ประโยชน์ ไม่เพียงมีความเป็นมงคลเพียงอย่างเดียว ว่านเศรษฐีกอบทรัพย์ ยังมีสรรพคุณทางยาช่วยรักษาโรคได้หลากหลายชนิด เช่น รักษาโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคกระเพาะ โรคไต เป็นต้น ช่วยบำรุงหัวใจ บำรุงปอด และบำรุงตับ บำรุงร่างกายให้แข็งแรง และยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันอีกด้วย ในส่วนของใบและเหง้า สามารถนำมาตำเป็นยาพอกรักษาแผลได้อีกด้วย การปลูกว่านเศรษฐีกอบทรัพย์ ว่านเศรษฐีกอบทรัพย์มีความสามารถในการเจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศที่ค่อนข้างร้อนชื้น โดยมีวิธีการปลูกที่ควรปฏิบัติดังนี้ เริ่มจากเตรียมวัสดุปลูกให้พร้อม ได้แก่ ดินร่วนปนทราย มูลสัตว์แห้ง และปุ๋ยคอกในปริมาณที่เท่าๆ กัน นำว่านเศรษฐีกอบทรัพย์ที่เตรียมไว้ลงไปปลูกในกระถาง โดยใช้ดินที่เตรียมไว้กลบให้แน่น รดน้ำให้ชุ่ม แล้วนำกระถางไปวางในที่มีแสงแดดรำไร หมั่นรดน้ำและให้ปุ๋ยอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ว่านเติบโตอย่างแข็งแรง
บานชื่น/ดอกบานชื่น บานชื่นเป็นดอกไม้ที่มีสีสันสดใสและบานนาน บานชื่นเป็นไม้ล้มลุกที่มีลำต้นอวบน้ำแตกกิ่งก้านสาขามากมาย ลำต้นสูงได้ถึง 1-2 เมตร และมีใบเรียงสลับกันเป็นรูปไข่หรือรูปหัวใจ ปลายใบแหลมหรือหยักเป็นฟันเลื่อย ผิวใบสีเขียวเข้มเป็นมัน ดอกบานชื่นมีกลีบดอก 5 กลีบ เรียงเป็นรูป漏บัว มีหลายสี เช่น สีขาว สีชมพู สีแดง สีม่วง สีเหลือง และสีส้ม การปลูกบานชื่น การเตรียมดิน: ดินที่เหมาะสมสำหรับการปลูกบานชื่นคือดินร่วนปนทรายที่มีความเป็นกรดเล็กน้อย (pH 5.5-6.5) สามารถระบายน้ำได้ดี และมีความอุดมสมบูรณ์สูง การเตรียมเมล็ด: เมล็ดบานชื่นสามารถหาซื้อได้จากร้านขายเครื่องมือและวัสดุเกษตร เลือกเมล็ดที่สมบูรณ์และมีคุณภาพดี การเพาะเมล็ด: เพาะในถาดเพาะกล้า: หว่านเมล็ดบานชื่นลงในถาดเพาะกล้าที่เตรียมไว้ โรยเมล็ดบางๆ แล้วกลบด้วยดินบางๆ รดน้ำให้ชุ่มแล้วนำถาดเพาะกล้าไปวางในที่ร่มหรือในโรงเรือน การย้ายปลูก: เมื่อต้นกล้าบานชื่นมีอายุประมาณ 1-2 เดือน หรือมีใบจริง 3-4 ใบ ให้ย้ายปลูกในแปลงปลูกที่เตรียมไว้ ปลูกต้นกล้าให้ห่างกันประมาณ 30-40 เซนติเมตร รดน้ำให้ชุ่มหลังจากย้ายปลูก การดูแลรักษา: การให้น้ำ: บานชื่นเป็นพืชที่ต้องการน้ำปานกลาง ควรรดน้ำให้ชุ่มสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง […]
ผักบุ้งทะเล ดอกสวย สรรพคุณแก้อักเสบ แก้พิษแมงกระพรุน ผักบุ้งทะเล เป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ดีในดินเค็มจัดตามชายหาด พบมากทางภาคตะวันออก ตะวันตก และใต้ของประเทศไทย ดอกของผักบุ้งทะเลมีสีชมพูสวยงาม ใช้ในการตกแต่งสวนและอาหาร ส่วนใบใช้ในการปรุงอาหารและมีสรรพคุณทางยาแก้พิษแมงกระพรุน แก้อักเสบ แก้บวม ประโยชน์มากมายเพียงนี้จึงเป็นเหตุผลที่ผักบุ้งทะเลกลายเป็นอีกหนึ่งพืชที่น่าสนใจ สรรพคุณของผักบุ้งทะเล แก้พิษแมงกระพรุน สารสกัดจากดอกผักบุ้งทะเลมีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ในพิษแมงกระพรุนหลายชนิด เช่น แมงกะพรุนกล่อง แมงกะพรุนไฟ และแมงกะพรุนร่ม โดยสามารถลดอาการปวดแสบปวดร้อน บวมแดง และคันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสรรพคุณนี้ได้รับการยืนยันจากงานวิจัย* แก้อักเสบ ผักบุ้งทะเลมีฤทธิ์ต้านการอักเสบที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และไวรัส การบริโภคผักบุ้งทะเลเป็นประจำจึงอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคที่เกิดจากการอักเสบเรื้อรัง เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคมะเร็ง แก้บวม ผักบุ้งทะเลมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ จึงช่วยลดอาการบวมน้ำในร่างกายได้ นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ จึงสามารถช่วยลดอาการบวมที่เกิดจากการบาดเจ็บหรือการถูกแมลงกัดต่อยได้ ช่วยสมานแผล ผักบุ้งทะเลมีฤทธิ์ช่วยสมานแผล ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น ซึ่งอาจเป็นเพราะผักบุ้งทะเลมีฤทธิ์ต้านการอักเสบและมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์ ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานของร่างกาย ผักบุ้งทะเลมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย เช่น วิตามินซี วิตามินเอ และเบต้าแคโรทีน ซึ่งช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรงขึ้น จึงช่วยป้องกันการติดเชื้อได้เป็นอย่างดี
เห็ดตับเต่าดำ เห็ดตับเต่าขาว สรรพคุณ และการเพาะเห็ดตับเต่า เห็ดตับเต่า เป็นเห็ดป่าที่ขึ้นอยู่ตามป่าเต็งรังหรือป่าเบญจพรรณ โดยเฉพาะในภาคเหนือ และภาคอีสาน ซึ่งชาวบ้านมักจะเก็บมาใช้เป็นอาหาร เนื่องจากมีรสชาติอร่อย มีลักษณะคล้ายกับตับเต่าทั้งสีและขนาด จึงเป็นที่มาของชื่อ “เห็ดตับเต่า” เห็ดตับเต่า ยังมีสรรพคุณทางยาที่ช่วยบำรุงร่างกาย โดยมักจะนำไปตากแห้งแล้วบดเป็นผงใช้ชงดื่ม สายพันธุ์ของเห็ดตับเต่า โดยทั่วไปแล้วเห็ดตับเต่าจะมี 2 สายพันธุ์หลักที่พบได้ในประเทศไทย ได้แก่ เห็ดตับเต่าดำ (Tremella fuciformis Berk.) เป็นเห็ดตับเต่าที่มีสีดำ หรือสีน้ำตาลเข้ม มีก้านสีขาวหรือเหลืองอ่อน เห็ดตับเต่าขาว (Tremella mesenterica Retz.) เป็นเห็ดตับเต่าที่มีสีขาว มีก้านสีขาวหรือเหลืองอ่อน สรรพคุณของเห็ดตับเต่า บำรุงร่างกาย แก้อ่อนเพลีย ช่วยในการย่อยอาหาร ช่วยในการขับถ่าย ช่วยลดความดันโลหิต ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยบำรุงผิวพรรณ ช่วยเพิ่มพละกำลัง ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ การเพาะเห็ดตับเต่า การเตรียมวัสดุเพาะ เตรียมฟางข้าว 10 กิโลกรัม น้ำเปล่า 10 ลิตร น้ำตาลทรายแดง […]
ว่านเสน่ห์จันทร์แดง ความเป็นมงคล ประโยชน์ สรรพคุณ และการปลูก ความเป็นมงคลของว่านเสน่ห์จันทร์แดง ว่านเสน่ห์จันทร์แดงเป็นว่านที่คนไทยโบราณนิยมปลูกไว้ในบ้าน เพราะเชื่อว่าจะช่วยเสริมเสน่ห์ เมตตามหานิยม และโชคลาภให้แก่ผู้ปลูก ทั้งยังช่วยปกป้องคุ้มครองจากสิ่งชั่วร้ายได้อีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อว่าว่านเสน่ห์จันทร์แดงเป็นว่านที่ช่วยดึงดูดเพศตรงข้าม เข้ามาหาผู้ปลูกเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังช่วยลดความเกรงขามของเพศตรงข้ามอีกด้วย เป็นว่านที่ช่วยดึงดูดความสนใจจากเพศตรงข้ามได้เป็นอย่างดียิ่ง ประโยชน์ของว่านเสน่ห์จันทร์แดง ว่านเสน่ห์จันทร์แดงมีสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย เช่น ช่วยบำรุงหัวใจและหลอดเลือด ช่วยลดความดันโลหิต ช่วยลดระดับไขมันในเลือด ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยบรรเทาอาการปวดต่างๆ ช่วยสมานแผล ช่วยรักษาโรคผิวหนังต่างๆ เช่น กลาก เกลื้อน และเริม สรรพคุณของว่านเสน่ห์จันทร์แดง ว่านเสน่ห์จันทร์แดงมีสรรพคุณทางยาหลากหลาย เช่น ช่วยบำรุงหัวใจและหลอดเลือด ช่วยลดความดันโลหิต ช่วยลดระดับไขมันในเลือด ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยบรรเทาอาการปวดต่างๆ ช่วยสมานแผล ช่วยรักษาโรคผิวหนังต่างๆ เช่น กลาก เกลื้อน และเริม การปลูกว่านเสน่ห์จันทร์แดง ว่านเสน่ห์จันทร์แดงสามารถปลูกได้ทั้งในดินและในกระถาง โดยควรปลูกในดินร่วนปนทรายที่ระบายน้ำได้ดี ในที่ที่มีแสงแดดส่องถึงรำไร หากปลูกในกระถางควรใช้กระถางที่มีขนาดใหญ่พอสมควรและมีรูระบายน้ำที่ก้นกระถาง เมื่อปลูกเสร็จเรียบร้อยแล้ว ควรรดน้ำให้ชุ่มและหมั่นดูแลไม่ให้ดินแห้งจนเกินไป ว่านเสน่ห์จันทร์แดงจะเติบโตได้ดีในสภาพอากาศที่อบอุ่นถึงร้อนชื้น
บานบุรี บานบุรี (Bougainvillea) เป็นไม้ดอกที่ปลูกกันอย่างแพร่หลายในประเทศไทย และมีหลากหลายสายพันธุ์ มีทั้งแบบที่เป็นไม้เลื้อยหรือไม้พุ่มสูง ในส่วนของดอกจะมีสีสันต่างๆ มากมาย เช่น สีชมพู สีแดง สีขาว สีส้ม สีเหลือง เป็นต้น ซึ่งออกดอกตลอดทั้งปี สรรพคุณของบานบุรี ดอกบานบุรี: ใช้เป็นยาขับเสมหะ ลดอาการไอ แก้เจ็บคอ ลดไข้ และยังมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ อีกด้วย ใบบานบุรี: ใช้เป็นยาลดพิษ แก้ไข้ และยังมีฤทธิ์เป็นยาฆ่าแมลงอีกด้วย การปลูกบานบุรี การปลูกบานบุรีสามารถทำได้ทั้งแบบเพาะเมล็ดและการปักชำกิ่ง โดยการเพาะเมล็ดนั้นควรทำในช่วงฤดูฝน ในขณะที่การปักชำกิ่งสามารถทำได้ตลอดทั้งปี โดยสังเกตจากช่อดอก ที่เริ่มร่วงก็ให้นำกิ่งพันธุ์มาปักชำ ในส่วนของการเตรียมดินนั้นควรร่วนซุยและมีการระบายน้ำที่ดี ในส่วนของการให้น้ำ ควรรดน้ำบ่อยๆ อย่าให้ดินแห้ง และในส่วนของการให้ปุ๋ย ควรใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเดือนละครั้ง ประโยชน์ของบานบุรี บานบุรีสามารถใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น ใช้เป็นไม้ประดับในสวนหรือปลูกในกระถาง ใช้ดอกบานบุรีมาประดิษฐ์เป็นช่อดอกไม้เพื่อใช้ในการบูชาพระหรือใช้ในพิธีต่างๆ ใช้ใบบานบุรีในการทำอาหาร เช่น การนำมาผัดกับไข่ หรือการนำมาต้มกับน้ำซุป เป็นต้น
เล็บครุฑ ประโยชน์ สรรพคุณ และการปลูกเล็บครุฑ เล็บครุฑ (ชื่อวิทยาศาสตร์: Acacia pennata) เป็นไม้พุ่มกิ่งก้านแข็ง ก้านตรง หนามยาวแหลม ดอกสีเหลืองอ่อนคล้ายเล็บเหยี่ยว ลักษณะใบกลม มีปลายแหลม โคนใบกลม ประโยชน์และสรรพคุณของเล็บครุฑ ฆ่าพยาธิ ขับพิษร้อน รักษาอาการอาหารไม่ย่อย ขับลม แก้ท้องเสีย แก้อาการปวดแสบปวดร้อนในช่องท้อง ท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด ช่วยในการขับถ่าย ขับพิษต่าง ๆ ออกจากร่างกาย แก้ไข้จับสันนิบาต แก้เบื่อเมา บำบัดพิษสุรา ช่วยบำรุงกำลังและแก้ไขอาการเบื่ออาหาร ช่วยบำรุงหัวใจและตับ ขับปัสสาวะ แก้น้ำเหลืองเสีย แก้พิษงู แก้พิษต่าง ๆ แผลสด แผลอักเสบ ช่วยต้านเชื้อรา แก้น้ำกัดเท้า ช่วยสมานแผลและแผลเปื่อย วิธีการปลูกเล็บครุฑ เตรียมดินให้ร่วนซุย โดยการไถพรวนดินและผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ขุดหลุมปลูกให้มีขนาดกว้างและลึกประมาณ 30 เซนติเมตร นำต้นกล้าเล็บครุฑลงปลูกในหลุมปลูก แล้วกลบดินให้แน่น รดน้ำให้ชุ่ม ให้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักแก่ต้นเล็บครุฑทุกๆ 3-4 เดือน […]
เกาลัด: ประโยชน์ สรรพคุณ และการปลูก เกาลัดเป็นพืชตระกูลถั่วที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหลายวัฒนธรรมทั่วโลก เช่นเดียวกับในประเทศไทย เกาลัดเป็นของขวัญจากธรรมที่อุดมไปด้วยสารอาหารและมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย และยังเป็นส่วนผสมที่นิยมใช้ในอาหารไทยหลายเมนูอีกด้วย ประโยชน์และสรรพคุณของเกาลัด อุดมด้วยสารอาหาร: เกาลัดอุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆ ที่จำเป็นต่อร่างกายมากมาย เช่น วิตามินบี วิตามินอี แร่ธาตุต่างๆ เช่น โพแทสเซียม แมกนีเซียม และฟอสฟอรัส โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โฟเลตซึ่งเป็นวิตามินที่สำคัญสำหรับผู้ตั้งครรภ์ ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล: การบริโภคเกาลัดเป็นประจำช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คอเลสเตอรอลที่ไม่ดี LDL ที่สูงเกินไปถึง 25% ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด: เกาลัดมีดัชนีน้ำตาลต่ำ (glycemic index) แม้จะมีรสชาติหวาน จึงช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และยังช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานหรือผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำตาลในเลือด ช่วยลดน้ำหนัก: เกาลัดเป็นแหล่งของใยอาหารที่ดี ซึ่งช่วยให้รู้สึกอิ่มนาน ช่วยลดความอยากอาหาร และป้องกันการกินมากเกินไป นอกจากนี้ยังมีแคลอรี่ต่ำ จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนัก ช่วยต้านอนุมูลอิสระและป้องกันโรคเรื้อรัง: เกาลัดมีสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก เช่น วิตามินอี แคโรทีนอยด์ และโพลีฟีนอล ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง […]