บัวกระด้งหรือบัววิคตอเรีย บัวกระด้ง หรือบัววิคตอเรีย (Victoria Amazonica) เป็นไม้น้ำขนาดใหญ่ในวงศ์บัว มีถิ่นกำเนิดในลุ่มแม่น้ำอะเมซอนและแม่น้ำปรานาในทวีปอเมริกาใต้ บัวกระด้งเป็นบัวพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยใบกว้างได้สูงสุดถึง 3 เมตร และสามารถรับน้ำหนักได้ถึง 50 กิโลกรัม บัวกระด้งมีลักษณะใบกลมแบน เว้าบริเวณตรงกลางคล้ายกระด้ง ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ บัวกระด้ง ใบมีสีเขียวเข้ม ด้านหลังมีสีม่วงแดง ก้านใบยาวกลวง และมีหนามแหลมปกคลุมตลอดทั้งก้านดอกของบัวกระด้งมีสีขาวหรือชมพู ลักษณะเป็นกลีบซ้อนสองชั้น กลีบชั้นนอกมีจำนวน 4-6 กลีบ กลีบชั้นในมีจำนวนมากกว่า 100 กลีบ กลีบดอกจะบานในตอนกลางคืน และจะหุบในตอนกลางวัน ผลของบัวกระด้งมีลักษณะกลมรี มีสีน้ำตาลหรือดำ ภายในมีเมล็ดจำนวนมาก บัวกระด้งเป็นไม้น้ำที่มีความสวยงาม นิยมปลูกเป็นไม้ประดับในสวนบัวหรือแหล่งน้ำขนาดใหญ่ การปลูกบัวกระด้งนั้นต้องปลูกในน้ำที่มีอุณหภูมิค่อนข้างสูง ประมาณ 20-30 องศาเซลเซียส และต้องมีแสงแดดอย่างเพียงพอ บัวกระด้งจะเจริญเติบโตได้ดีในน้ำนิ่งหรือน้ำไหลเอื่อยๆ ไม่เหมาะกับการปลูกในน้ำไหลเชี่ยว
Category Archives: Nutri
ชมพู่มะเหมี่ยว ชมพู่มะเหมี่ยวมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Syzygium malaccensis (L.) Merr. & L.M. Perry เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางในวงศ์ Myrtaceae มีถิ่นกำเนิดในมาเลเซีย ไทย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ มีการนำส่วนต่างๆของชมพู่มะเหมี่ยวมารักษาโรคได้หลายชนิด สรรพคุณของชมพู่มะเหมี่ยว ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ได้โดยสารสกัดจากใบของชมพู่มะเหมี่ยวมีคุณสมบัติเพิ่มการหลั่งอินซูลินจากเซลล์เบต้าของตับอ่อน ช่วยให้น้ำตาลในเลือดลดลง ช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหารอักเสบ เป็นแผลในกระเพาะอาหาร โดยใช้ใบสดของชมพู่มะเหมี่ยวมาล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำมาต้มดื่ม 2 ครั้งต่อวันเช้า-เย็น ช่วยบรรเทาอาการท้องร่วง ด้วยใบนำมาต้มดื่มสามารถช่วยบรรเทาอาการท้องร่วงได้ ช่วยสมานแผล ใช้ใบนำมาตำพอกแผลเพื่อให้รอยแผลหายเร็วขึ้น วิธีปลูกชมพู่มะเหมี่ยว ชมพู่มะเหมี่ยวสามารถปลูกได้ทั้งในดินและในกระถาง โดยมีวิธีการปลูกดังนี้ การเตรียมดิน ให้ใช้ดินร่วนปนทรายที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง pH 5.5-6.5 ผสมกับปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในอัตรา 1:1 ขุดหลุมปลูกลึกประมาณ 50-60 เซนติเมตร กว้างประมาณ 50-60 เซนติเมตร รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักประมาณ 1 กิโลกรัม การปลูก ให้วางต้นกล้าชมพู่มะเหมี่ยวลงในหลุมปลูก ปรับรากให้แผ่กระจายออกเป็นรูปร่ม กดดินรอบๆโคนต้นให้แน่น รดน้ำให้ชุ่ม การดูแลรักษา รดน้ำชมพู่มะเหมี่ยวสัปดาห์ละ […]
ผำ/ไข่ผำ ผำหรือไข่ผำ เป็นเห็ดป่าที่พบได้ในฤดูฝน (ประมาณเดือนพฤษภาคม-พฤศจิกายน) มีลักษณะกลมคล้ายไข่ สีขาวนวลถึงเหลืองอ่อน เนื้อเหนียวนุ่ม รสชาติมัน หวาน มีกลิ่นเฉพาะตัว การใช้ไข่ผำ อาหาร: ไข่ผำเป็นวัตถุดิบในเมนูอาหารหลากหลายทั้งผัด ต้ม ยำ แกง โดยเฉพาะแกงเห็ดที่นิยมใช้ไข่ผำเป็นส่วนผสม ยาสมุนไพร: ในตำรับยาไทย ไข่ผำมีสรรพคุณบำรุงร่างกาย แก้ปวดเมื่อยตามข้อ ขับลม ขับเสมหะ และช่วยย่อยอาหาร สรรพคุณไข่ผำ มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง: ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากการถูกทำลาย ลดการอักเสบ: มีสารออกฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยตามข้อ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน: มีสารโพลีแซคคาไรด์ที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย บำรุงสมอง: อุดมด้วยวิตามินบี 12 ที่ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง ช่วยการย่อยอาหาร: มีใยอาหารที่ช่วยปรับสมดุลระบบขับถ่าย ช่วยย่อยอาหารและลดอาการท้องผูก ลดคอเลสเตอรอล: มีสารเบต้ากลูแคนที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
ลูกท้อ/ลูกพีช ลูกท้อและลูกพีชเป็นผลไม้ที่มีลักษณะคล้ายกันมากจนหลายคนมักเข้าใจผิดว่าเป็นชนิดเดียวกัน แต่จริงๆ แล้วทั้งสองชนิดนี้มีความแตกต่างกันเล็กน้อย ลูกท้อ (Pyrus spp.) เป็นผลไม้ที่อยู่ในวงศ์กุหลาบ (Rosaceae) มีต้นกำเนิดในประเทศจีน ส่วน ลูกพีช (Prunus persica) เป็นผลไม้ที่อยู่ในวงศ์เหมือด (Amygdalaceae) มีต้นกำเนิดในประเทศเปอร์เซีย (อิหร่านในปัจจุบัน) ทั้งสองชนิดนี้มีลักษณะที่คล้ายคลึงกันคือมีเปลือกนอกที่ค่อนข้างแข็ง เนื้อในฉ่ำน้ำ มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว แต่ลูกพีชจะมีขนเล็กๆ ที่ผิวมากกว่าลูกท้อ และมีเนื้อที่นุ่มกว่า สรรพคุณของลูกท้อ/ลูกพีช ลูกท้อและลูกพีชมีสรรพคุณทางยาใกล้เคียงกัน ดังนี้ อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ: ลูกท้อและลูกพีชมีสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ เช่น วิตามินซี วิตามินอี และโพลีฟีนอล ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ: สารต้านอนุมูลอิสระในลูกท้อและลูกพีชช่วยลดการอักเสบในหลอดเลือดแดง ลดระดับคอเลสเตอรอล LDL (คอเลสเตอรอลตัวร้าย) และเพิ่มระดับคอเลสเตอรอล HDL (คอเลสเตอรอลตัวดี) จึงช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด: ลูกท้อและลูกพีชมีไฟเบอร์สูงซึ่งช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด จึงช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ ช่วยในระบบขับถ่าย: ไฟเบอร์ในลูกท้อและลูกพีชช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี ช่วยป้องกันอาการท้องผูก บำรุงสายตาและผิวพรรณ: ลูกท้อและลูกพีชมีวิตามินเอและวิตามินซีสูง ซึ่งช่วยบำรุงสายตาและผิวพรรณให้แข็งแรง การปลูกลูกท้อ/ลูกพีช การปลูกลูกท้อและลูกพีชค่อนข้างคล้ายคลึงกัน ดังนี้ […]
ผักเขียด/ผักขาเขียด/ผักอฮิน ผักวัชพืชตามหนองนา และสรรพคุณเด่น ผักเขียด หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ผักขาเขียด หรือผักอฮิน จัดเป็นวัชพืชที่ขึ้นอยู่ตามพื้นที่ชื้นแฉะ ริมหนองน้ำ หรือตามนาที่มีน้ำขัง แต่ผักชนิดนี้มีสรรพคุณมากมาย และในแต่ละท้องถิ่นจะมีวิธีรับประทาน ทั้งแบบสด ลวก หรือต้มกิน สรรพคุณของผักเขียด มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัยและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรัง ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน มีฤทธิ์ในการลดความดันโลหิต ช่วยขับปัสสาวะ ลดการอักเสบในระบบทางเดินปัสสาวะ มีฤทธิ์ในการต้านเชื้อแบคทีเรียและไวรัส ช่วยบำรุงสายตา ช่วยรักษาโรคปวดข้อและกระดูก สรรพคุณทางยาเพิ่มเติม เช่น แก้ไข้ตัวร้อน แก้คัน ระบายท้อง และรักษาแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก
สาลี่ สาลี่ หรือลูกแพร์ จัดอยู่ในตระกูลเดียวกับแอปเปิล ลูกแพร์ ถือเป็นผลไม้ลูกผสมระหว่าง Asian pear และ European pear สาลี่สามารถปลูกได้ทั่วโลกโดยเฉพาะในบริเวณเมืองหนาว สาลี่จัดเป็นไม้ผลที่สามารถปลูกได้ดีในพื้นที่ที่มีอากาศเย็นบนภูเขาสูงกว่าระดับน้ำ دریاประมาณ 500-1,800 เมตร มีแหล่งกำเนิดมาจากทิเบตและจีนตอนใต้ และได้แพร่กระจายไปทั่วโลกในหลายศตวรรษที่ผ่านมา สรรพคุณสาลี่ สาลี่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก มีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายมากมาย อาทิ ไฟเบอร์ ช่วยขับถ่าย แก้อาการท้องผูก ช่วยเพิ่มกากใยในกระเพาะอาหาร และยังช่วยลดคอเลสเตอรอล วิตามิน C มีส่วนช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรง ช่วยเสริ์มสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ลดการเกิดฟันผุ วิตามิน K ช่วยบำรุงกระดูก เพิ่มความแข็งแรงของกระดูกและช่วยให้เลือดแข็งตัวได้ดี โฟเลต ช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคโลหิตจางเกร็ดเลือดต่ำ นอกจากนี้สาลี่ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด ช่วยชะลอวัย ป้องกันโรคหัวใจ และช่วยลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งบางชนิดอีกด้วย