ละหุ่ง (castor) ละหุ่ง เป็นพืชล้มลุก มีลำต้นสูงตรง ลำต้นแตกกิ่งก้านสาขาน้อย ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ กลมมน ปลายใบแหลม ขอบใบหยัก ดอกออกเป็นช่อตามซอกใบ ดอกตัวผู้และดอกตัวเมียแยกกันอยู่คนละช่อ ดอกตัวผู้มีขนาดเล็ก สีขาว ส่วนดอกตัวเมียมีขนาดใหญ่กว่า สีเขียวอมเหลือง ผลเป็นผลแห้ง เปลือกแข็ง มีเมล็ดอยู่ภายใน เมล็ดละหุ่งมีน้ำมันอยู่มาก และน้ำมันละหุ่งมีคุณสมบัติเป็นยาระบายอ่อนๆ จึงนิยมนำน้ำมันละหุ่งไปเป็นส่วนประกอบของยาระบาย สรรพคุณละหุ่ง ละหุ่งมีสรรพคุณทางยา ดังนี้ การระบายอ่อนๆ น้ำมันละหุ่งมีคุณสมบัติเป็นยาระบายอ่อนๆ จึงช่วยแก้ปัญหาท้องผูกได้ดี โดยน้ำมันละหุ่งจะไปเคลือบผนังลำไส้ใหญ่ ทำให้ถ่ายได้สะดวก แต่ไม่ควรใช้เป็นเวลานาน เพราะจะทำให้เกิดภาวะขาดวิตามินที่ละลายในไขมัน การลดการอักเสบ น้ำมันละหุ่งมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ จึงสามารถช่วยลดการอักเสบได้ในหลายๆ ส่วนของร่างกาย เช่น การอักเสบของกระเพาะอาหารและลำไส้ การรักษาโรคผิวหนัง น้ำมันละหุ่งมีคุณสมบัติช่วยรักษาโรคผิวหนังได้หลายชนิด เช่น เกลื้อน กลาก เริม สิว และโรคสะเก็ดเงิน การรักษาโรคไขข้อ น้ำมันละหุ่งมีคุณสมบัติช่วยลดอาการปวดและอักเสบของข้อได้ดี จึงสามารถช่วยรักษาโรคไขข้อได้ การปลูกละหุ่ง ละหุ่งเป็นพืชที่ปลูกง่าย สามารถปลูกได้ในหลายๆ สภาพดิน แต่เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุย […]
Category Archives: Nutri
ชมพูภูคา ไม้ดอกหายากบนดอยภูคา ชมพูภูคา เป็นไม้ดอกหายากที่พบได้เฉพาะบนดอยภูคา จังหวัดน่าน มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Prunus cerasoides D. Don เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก สูงประมาณ 5-10 เมตร ลำต้นเกลี้ยงเกลา ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ รูปไข่แกมรูปขอบขนาน ขอบใบหยักมน ดอกออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง กลีบดอกสีชมพูอ่อน มี 5 กลีบ ผลเป็นทรงกลมสีแดง ชมพูภูคาเป็นไม้ดอกที่หายากและมีคุณค่าทางอนุรักษ์สูง มีการกระจายพันธุ์เฉพาะบนดอยภูคาและบริเวณใกล้เคียงเท่านั้น ปัจจุบันชมพูภูคาถูกคุกคามจากการทำลายถิ่นที่อยู่ การตัดไม้ทำลายป่า และการเก็บดอกไปจำหน่าย จึงทำให้จำนวนประชากรของชมพูภู칼ดลงอย่างรวดเร็ว ชมพูภูคาเป็นไม้ดอกที่สวยงามและหายาก จึงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวและนักสะสมพันธุ์ไม้ แต่การเก็บดอกชมพูภูคาไปจำหน่ายถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เพราะชมพูภูคาเป็นไม้ดอกที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายห้ามมิให้มีการซื้อขาย หากฝ่าฝืนจะมีโทษทั้งจำและปรับ การอนุรักษ์ชมพูภูคาเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากเป็นไม้ดอกที่หายากและมีคุณค่าทางอนุรักษ์สูง หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนได้ร่วมมือกันในการอนุรักษ์ชมพูภูคา โดยมีการจัดตั้งเขตห้ามล่าสัตว์ป่าดอยภูคา เพื่อเป็นพื้นที่อนุรักษ์ชมพูภูคาและสัตว์ป่าอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีการปลูกชมพูภูคาในสถานที่ต่างๆ เพื่อเป็นการขยายพันธุ์และอนุรักษ์ชมพูภูคาให้คงอยู่ต่อไป
ดอกดิน พืชพื้นบ้านที่มีประโยชน์มากมาย ดอกดิน เป็นพืชพื้นบ้านที่พบได้ทั่วไปในประเทศไทย มีดอกสีขาวเล็กๆ และมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ดอกดินสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น นำมาหุงนึ่งข้าว ซึ่งจะทำให้ข้าวมีกลิ่นหอมและน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ดอกดินยังมีสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย เช่น ต้านมะเร็ง: ดอกดินมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดโรคมะเร็ง แก้ไอ: ดอกดินมีฤทธิ์ช่วยบรรเทาอาการไอ โดยสามารถนำดอกดินมาต้มกับน้ำแล้วดื่ม ลดไข้: ดอกดินมีฤทธิ์ช่วยลดไข้ โดยสามารถนำดอกดินมาต้มกับน้ำแล้วดื่ม แก้โรคข้อกระดูก: ดอกดินมีฤทธิ์ช่วยบรรเทาอาการปวดและอักเสบของโรคข้อกระดูก โดยสามารถนำดอกดินมาต้มกับน้ำแล้วดื่ม หรือใช้ดอกดินมาพอกบริเวณที่ปวด ป้องกันโรคหัวใจ: หลายๆ งานวิจัยได้รายงานเกี่ยวกับความสามารถในการปกป้องโรคหัวใจของดอกมะลิ เช่น การป้องกันหลอดเลือดหัวใจอุดตัน การลดระดับคอเลสเตอรอล การปกป้องหัวใจจากพิษของสารเคมี ต้านเชื้อแบคทีเรีย: ซึ่งมีการใช้สารสกัดดอกมะลินำมาเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางค์ เช่น สบู่ แชมพู ครีม ต้านการอักเสบ: Flavonoids ที่มีในดอกมะลิจะไปขัดขวางกระบวนการอักเสบ และส่งผลให้หัวใจปลอดภัยจากภาวะหัวใจอักเสบต่างๆ บรรเทาอาการเหนื่อยล้า: ดอกดินมีฤทธิ์ช่วยบรรเทาอาการเหนื่อยล้า โดยสามารถนำดอกดินมาต้มกับน้ำแล้วดื่ม รักษาการติดเชื้อ: ดอกดินมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และไวรัส จึงสามารถนำดอกดินมาใช้รักษาการติดเชื้อต่างๆ ได้
มะเฟือง มะเฟืองเป็นผลไม้ที่มีลักษณะผลเป็นรูปดาวห้าแฉก มีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน เนื้อ กรอบ มีสรรพคุณทางยาและสามารถปลูกได้ง่ายในประเทศไทย สรรพคุณของมะเฟือง แก้กระหาย แก้ไอ บำรุงผิวพรรณ บำรุงสายตา ลดความดันโลหิต ลดไข้ ช่วยย่อยอาหาร รักษาโรคบิด แก้ปัญหาท้องผูก บำรุงธาตุ รักษาโรคเลือดกำเดาไหล แก้ปัญหาเหงือกบวม รักษาโรคเบาหวาน แก้โรคพยาธิในลำไส้ แก้ปัญหาผมร่วง การปลูกมะเฟือง การปลูกมะเฟือง ควรเลือกสถานที่ที่เหมาะสม ได้แก่ พื้นที่โล่งแจ้ง มีแสงแดดส่องถึงและมีน้ำเพียงพอ การเตรียมดินสำหรับปลูกมะเฟือง ควรไถพรวนดินให้ลึกประมาณ 30 เซนติเมตร ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไปในดิน แล้วตากดินทิ้งไว้ประมาณ 1-2 สัปดาห์ การปลูกมะเฟือง ควรขุดหลุมปลูกขนาดกว้างประมาณ 60 เซนติเมตร ลึกประมาณ 60 เซนติเมตร แล้วนำต้นมะเฟืองมาลงปลูกในหลุมปลูก จากนั้นกลบดินและรดน้ำให้ชุ่ม การดูแลรักษามะเฟือง ควรรดน้ำให้ชุ่มเป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง ควรใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักให้กับต้นมะเฟืองทุกๆ 3-4 เดือน ควรพรวนดินรอบโคนต้นมะเฟืองเป็นประจำเพื่อกำจัดวัชพืชและระบายน้ำ การเก็บเกี่ยวผลผลิตมะเฟือง ควรเก็บเกี่ยวผลผลิตเมื่อผลมะเฟืองมีขนาดโตเต็มที่และมีสีเหลืองอมเขียว โดยปกติแล้วจะใช้เวลาประมาณ […]
สละ สรรพคุณ และการปลูกสละ สละคืออะไร สละ เป็นผลไม้เขตร้อนที่นิยมรับประทานกันอย่างแพร่หลายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย มีลักษณะผลกลมรี เปลือกบาง สีเหลือง เนื้อในสีเหลืองอมส้ม รสชาติหวานฉ่ำ มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ มากมาย สรรพคุณของสละ สละมีสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย เช่น บำรุงสายตา ช่วยป้องกันโรคตาต่างๆ เช่น ต้อกระจก ต้อเนื้อ ต้อหิน และภาวะสายตาเสื่อม บำรุงหัวใจ ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดและป้องกันการเกิดโรคหัวใจ บำรุงสมอง ช่วยเพิ่มความจำและสมาธิ ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอัลไซเมอร์ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยป้องกันการติดเชื้อต่างๆ เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ และโรคติดเชื้ออื่นๆ แก้ท้องเสีย ช่วยบรรเทาอาการท้องเสียและอาเจียน รักษาเบาหวาน ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด บำรุงผิวพรรณ ช่วยให้ผิวเปล่งปลั่ง สดใส ลดริ้วรอยและจุดด่างดำ การปลูกสละ สละเป็นไม้ผลที่ปลูกง่าย สามารถปลูกได้ในดินทุกสภาพ โดยเฉพาะดินร่วนปนทรายที่มีการระบายน้ำดี แดดรำไร รดน้ำสม่ำเสมอ ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักทุกๆ 3-4 เดือน ตัดแต่งกิ่งเป็นประจำเพื่อให้ทรงพุ่มโปร่ง และป้องกันโรคและแมลงศัตรูพืช […]
ประเภทของการสื่อสาร การสื่อสารสามารถจำแนกออกได้หลายประเภท โดยแบ่งตามลักษณะต่างๆ เช่น 1. ประเภทของการสื่อสารตามลักษณะของการรับรู้ การสื่อสารด้วยวาจา (Verbal Communication) เป็นการสื่อสารที่ใช้คำหรือภาษาเป็นตัวกลางในการถ่ายโอนข้อมูล โดยสามารถสื่อสารด้วยวาจาได้ทั้งในรูปแบบการใช้ภาษาแบบปากเปล่าหรือการเขียน การสื่อสารที่ไม่ใช้วาจา (Nonverbal Communication) เป็นการสื่อสารที่ไม่ใช้คำหรือภาษาเป็นตัวกลางในการถ่ายโอนข้อมูล โดยอาจใช้สัญญาณ มือ เท้า ใบหน้า สายตา หรือวิธีการอื่นๆ ที่ไม่ใช้ภาษาในการถ่ายโอนข้อมูล 2. ประเภทของการสื่อสารตามทิศทางของการไหลของข้อมูล การสื่อสารทางเดียว (One-Way Communication) เป็นการสื่อสารที่ข้อมูลไหลจากผู้ส่งไปยังผู้รับเพียงฝ่ายเดียว โดยผู้รับไม่มีโอกาสได้โต้กลับหรือแสดงปฏิกิริยามใดๆ ต่อผู้ส่ง การสื่อสารสองทาง (Two-Way Communication) เป็นการสื่อสารที่ข้อมูลไหลทั้งจากผู้ส่งไปยังผู้รับและจากผู้รับกลับมายังผู้ส่ง ทำให้ผู้ส่งและผู้รับมีโอกาสโต้กลับและแสดงปฏิกิริยต่อกัน 3. ประเภทของการสื่อสารตามประเภทของข้อความ ข้อความระดับสูง (High-Context Message) เป็นข้อความที่สื่อสารโดยใช้ตัวอักษรหรือสัญลักษณ์เป็นสื่อกลางในการถ่ายโอนข้อมูล เช่น หนังสือ ข่าวสาร รายงาน หรือสื่อการเรียนการสอนต่างๆ ข้อความระดับต่ำ (Low-Context Message) เป็นข้อความที่สื่อสารโดยใช้สัญญะทางกายภาพหรือสิ่งรูปธรรมอื่นๆ เป็นตัวกลางในการถ่ายโอนข้อมูล เช่น ภาพยนตร์ ละคร โทรทัศน์ […]
ว่านขันหมากเศรษฐี ว่านขันหมากเศรษฐี มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Sansevieria trifasciata Prain เป็นพืชในวงศ์ Agavaceae เป็นพืชพื้นเมืองในประเทศไนจีเรีย ประเทศกานา ประเทศโตโก และประเทศคองโก แต่มีการนำเข้ามาปลูกในประเทศไทยนานแล้ว และกลายเป็นไม้มงคลชนิดหนึ่งที่นิยมปลูกกันมากในปัจจุบัน ว่านขันหมากเศรษฐีเป็นพืชที่มีลำต้นสั้น แตกหน่อออกเป็นกอ ใบยาวเรียว แข็ง เหนียว เป็นมัน ปลายใบแหลม ขอบใบมีสีเหลืองหรือสีขาว ดอกมีสีขาวหรือสีชมพูอ่อน ออกเป็นช่อตรงกลางลำต้น ช่อดอกยาวประมาณ 30-40 เซนติเมตร ออกดอกในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนมิถุนายน การปลูกว่านขันหมากเศรษฐี ดิน ว่านขันหมากเศรษฐีชอบดินร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี มีความเป็นกรดเล็กน้อย น้ำ ว่านขันหมากเศรษฐีชอบน้ำปานกลาง ไม่ชอบน้ำท่วมขัง ควรรดน้ำให้ชุ่ม แล้วปล่อยให้ดินแห้งแล้วค่อยรดใหม่ แสงแดด ว่านขันหมากเศรษฐีชอบแดดรำไร แต่สามารถปลูกกลางแจ้งได้ โดยควรมีการพรางแสงในช่วงฤดูร้อน ปุ๋ย ควรใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักทุกๆ 1-2 เดือน เพื่อช่วยบำรุงดินและทำให้ว่านขันหมากเศรษฐีเจริญเติบโตได้ดี การขยายพันธุ์ สามารถขยายพันธุ์ได้โดยการแยกหน่อ เนื่องจากว่านขันหมากเศรษฐีมักจะแตกกอ เป็นหน่อเป็นต้นใหม่ เพื่อที่จะขยายไปทั่วไป ว่านขันหมากเศรษฐีเป็นไม้มงคลที่นิยมปลูกกันมากในประเทศไทย เชื่อกันว่าจะช่วยให้ผู้ปลูกมีโชคลาภ เงินทองไหลมาเทมา […]
กลอย/ว่านกลอยจืด กลอย (Alocasia odora)/(Colocasia eopedicellatum) เป็นพืชในวงศ์ Araceae มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงประเทศไทย กลอยเป็นไม้ล้มลุกที่มีเหง้าใต้ดินขนาดใหญ่ ใบมีขนาดใหญ่และมีสีเขียวเข้ม มีก้านใบยาวและอวบน้ำ ดอกกลอยมีสีขาวและมีกลิ่นหอม กลอยมีหลายสายพันธุ์ บางสายพันธุ์มีเกล็ดสีแดงอยู่บริเวณก้านใบและโคนใบ สายพันธุ์กลอยน้ำมีใบที่ใหญ่กว่าสายพันธุ์อื่นและสามารถเจริญได้ในน้ำตื้น ประโยชน์ของกลอย เหง้ากลอยมีสารอาหารมากมายรวมถึงคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และวิตามินชนิดต่างๆ เช่น วิตามินซี วิตามินบี1 และวิตามินบี2 เหง้ากลอยสามารถนำมาต้มหรือทอดเพื่อรับประทานได้โดยตรง โดยเหง้ากลอยจะมีรสชาติมันและมีกลิ่นหอมอ่อนๆ เหง้ากลอยสามารถนำมาแปรรูปเป็นอาหารได้หลากหลาย เช่น กลอยเชื่อม กลอยทอดกรอบ กลอยแห้ง เหง้ากลอยสามารถนำมาใช้เป็นยารักษาโรคได้ เช่น ใช้เป็นยาแก้โรคบิด โรคท้องร่วง และโรคปวดหัว ใบกลอยสามารถนำมาใช้เป็นอาหารได้เช่นเดียวกัน โดยใบกลอยสามารถนำมาต้มหรือผัดเพื่อรับประทานได้ ใบกลอยสามารถนำมาใช้เป็นยารักษาโรคได้ เช่น ใช้เป็นยาแก้โรคผิวหนังและโรคแผลเป็น อย่างไรก็ตาม กลอยบางสายพันธุ์อาจมีสารพิษชื่อว่ากรดออกซาลิก (Oxalic acid) ซึ่งเป็นสารพิษที่สามารถทำให้เกิดอาการปวดแสบปวดร้อนในปากและคอ รวมถึงอาจทำให้เกิดอาการท้องร่วงและปวดท้อง ดังนั้นจึงควรรับประทานกลอยในปริมาณที่เหมาะสมและควรหลีกเลี่ยงการรับประทานกลอยดิบ
หญ้าหวาน (Stevia) หญ้าหวานหรือสตีเวีย เป็นพืชสมุนไพรที่ให้ความหวานจากธรรมชาติ มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้ โดยเฉพาะในประเทศบราซิลและปารากวัย ใบของหญ้าหวานมีความหวานโดยธรรมชาติ ซึ่งมีระดับความหวานสูงกว่าน้ำตาลทรายถึง 10-30 เท่า ในขณะเดียวกันก็มีปริมาณแคลอรี่และคาร์โบไฮเดรตต่ำมาก สรรพคุณของหญ้าหวาน หญ้าหวานมีสรรพคุณมากมายต่อสุขภาพ ได้แก่ ช่วยลดน้ำตาลในเลือด เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ช่วยควบคุมและลดน้ำหนัก ป้องกันโรคอ้วน ช่วยลดความดันโลหิต มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัยและลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกาย การปลูกหญ้าหวาน หญ้าหวานเป็นพืชที่ปลูกง่าย สามารถปลูกได้ทั้งในดินและในกระถาง ขั้นตอนการปลูกหญ้าหวานมีดังนี้ การเตรียมดิน หญ้าหวานชอบดินร่วนซุยที่มีความเป็นกรดด่างเป็นกลาง ควรเตรียมดินโดยการไถ พรวน ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก และรดน้ำให้ชุ่ม การปลูก หญ้าหวานสามารถปลูกได้ทั้งเมล็ดและกิ่งพันธุ์ หากปลูกด้วยเมล็ด ให้หว่านเมล็ดลงในดินที่เตรียมไว้ จากนั้นกลบดินบางๆ และรดน้ำให้ชุ่ม หากปลูกด้วยกิ่งพันธุ์ ให้ปักกิ่งพันธุ์ลงในดินที่เตรียมไว้ จากนั้นรดน้ำให้ชุ่ม การดูแล หญ้าหวานเป็นพืชที่ไม่ต้องการการดูแลมากนัก เพียงรดน้ำสม่ำเสมอและใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเป็นครั้งคราว หญ้าหวานจะเริ่มออกดอกและให้ใบที่สามารถเก็บเกี่ยวได้เมื่อมีอายุประมาณ 3-4 เดือน หญ้าหวานเป็นพืชที่สามารถเก็บเกี่ยวได้ตลอดปี การใช้ประโยชน์จากหญ้าหวาน ใบหญ้าหวานสามารถใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น ใช้ปรุงอาหารและเครื่องดื่มแทนน้ำตาลทราย ใช้เป็นส่วนผสมในอาหารเสริมและยาสมุนไพร ใช้สกัดเป็นสารสตีวิโอไซด์ (Stevioside) […]
ฝาง สรรพคุณ และประโยชน์ ฝาง (Acacia catechu) เป็นต้นไม้ยืนต้นขนาดกลาง มีถิ่นกำเนิดในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มักพบในป่าเบญจพรรณและป่าเต็งรัง ลำต้นตรง สูงประมาณ 10-15 เมตร เปลือกต้นสีเทาอมน้ำตาล ใบประกอบแบบขนนก เรียงสลับ ดอกเล็ก สีเหลืองอ่อน ออกเป็นช่อบริเวณปลายกิ่ง ผลเป็นฝักแบนยาว ภายในมีเมล็ดสีน้ำตาลจำนวนมาก ฝางมีสรรพคุณทางยาหลายประการ เปลือกต้นฝางมีรสฝาด แก้ท้องเสีย บิดมูกเลือด แก้บิดในเด็ก แก้โรคริดสีดวงทวาร หนองใน เป็นยาพอกแผลสด แผลเรื้อรัง และไฟไหม้ เปลือกนำมาต้มรวมกับใบทองพันชั่งและใบขลู่ ใช้บ้วนปากแก้ปากเปื่อย ปากเป็นแผล แก้เหงือกอักเสบ เป็นยาห้ามเลือด แก้ท้องร่วง ปิดแผล บรรเทาอาการหวัด คออักเสบ แก้น้ำเหลืองเสีย ใบฝางมีรสฝาด แก้ท้องร่วง แก้บิดมูกเลือด ห้ามเลือด และสมานแผล เมล็ดฝางมีรสฝาด แก้ท้องเสีย แก้บิด และแก้โรคริดสีดวงทวาร นอกจากนี้ ฝางยังมีประโยชน์อื่นๆ อีก เช่น เปลือกต้นและใบนำมาทำเป็นยาสีฟัน […]