Author Archives: kct

ว่านมหากาฬ สรรพคุณ และการปลูกว่านมหากาฬ

ว่านมหากาฬ ว่านมหากาฬ (ชื่อวิทยาศาสตร์: Tacca leontopetaloides) เป็นพืชล้มลุกอายุหลายปีในตระกูล Dioscoreaceae มีถิ่นกำเนิดในภูมิภาคเขตร้อนของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ พบในอินเดีย เนปาล ภูฏาน บังกลาเทศ ศรีลังกา พม่า ไทย และมาเลเซีย ลักษณะเด่นของว่านมหากาฬได้แก่ มีหัวใต้ดินขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 15-20 เซนติเมตร เปลือกหัวมีสีน้ำตาลเข้ม เนื้อหัวมีสีขาวอมเหลือง มีรากจำนวนมาก ยาวประมาณ 15-20 เซนติเมตร ใบเป็นใบเดี่ยว เรียงสลับ แผ่นใบรูปหอก ปลายใบแหลม โคนใบเว้าลึกเป็นรูปหัวใจ ขอบใบจักฟันถี่ ก้านใบยาวประมาณ 20-30 เซนติเมตร ดอกออกเดี่ยวบริเวณยอด มีกลีบเลี้ยง 6 กลีบ รูปใบหอก ปลายเรียวแหลม กลีบดอก 6 กลีบ รูปใบหอก ปลายเรียวแหลม สีน้ำเงินเข้ม มีเกสรตัวผู้ 6 อัน เกสรตัวเมีย 1 อัน ผลเป็นผลสด […]

แอปเปิ้ล สรรพคุณ และการปลูกแอปเปิ้ล

แอปเปิ้ล (Apple) แอปเปิ้ลเป็นผลไม้ที่เป็นที่นิยมมากทั่วโลก ซึ่งมีมากมายหลายสายพันธุ์ แต่ละสายพันธุ์ก็จะมีลักษณะและรสชาติที่แตกต่างกันออกไป โดยทั่วไปแล้วแอปเปิ้ลจะมีรูปร่างกลมหรือรี ขนาดแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ เปลือกบางสีเขียว แดง หรือเหลือง เนื้อฉ่ำน้ำ หวานอมเปรี้ยว สรรพคุณของแอปเปิ้ล แอปเปิ้ลมีสรรพคุณมากมาย เนื่องจากอุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น วิตามินซี วิตามินเค ไฟเบอร์ โพแทสเซียม และสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ ดังนี้ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยลดความเสี่ยงของโรคความดันโลหิตสูง ช่วยลดน้ำหนัก ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยบำรุงผิวพรรณ ช่วยบำรุงสายตา ช่วยบำรุงสมอง การปลูกแอปเปิ้ล แอปเปิ้ลเป็นไม้ผลเมืองหนาวที่สามารถเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่มีอากาศเย็นและแห้ง แต่ก็สามารถปลูกได้ในพื้นที่ที่มีอากาศร้อนได้เช่นกัน แต่ผลผลิตอาจจะไม่ดีเท่ากับการปลูกในพื้นที่ที่มีอากาศเย็น โดยขั้นตอนการปลูกแอปเปิ้ลมีดังนี้ การเตรียมดิน ไถดะดินให้ลึกประมาณ 30-40 เซนติเมตร ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไปในดิน พรวนดินให้ละเอียด การปลูก ขุดหลุมปลูกให้มีขนาดกว้างและลึกประมาณ 50 เซนติเมตร ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไปในหลุมปลูก วางต้นกล้าแอปเปิ้ลลงในหลุมปลูก ก ลบดินและรดน้ำให้ชุ่ม การดูแล รดน้ำให้ต้นแอปเปิ้ลเป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน […]

ผักบุ้งทะเล ดอกสวย สรรพคุณแก้อักเสบ แก้พิษแมงกระพรุน

ผักบุ้งทะเล ดอกสวย สรรพคุณแก้อักเสบ แก้พิษแมงกระพรุน ผักบุ้งทะเลเป็นพืชสมุนไพรชนิดหนึ่งที่มักพบได้ตามชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน มีดอกสีม่วงสวยงาม นอกจากความสวยงามแล้ว ผักบุ้งทะเลยังมีสรรพคุณทางยาที่น่าสนใจอีกด้วย สรรพคุณทางยาของผักบุ้งทะเล แก้อักเสบ: ผักบุ้งทะเลมีฤทธิ์ในการแก้อักเสบ จึงสามารถนำมาใช้ในการรักษาโรคต่างๆ ที่มีการอักเสบ เช่น โรคข้ออักเสบ โรคปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ โรคผิวหนังอักเสบ และโรคกระเพาะอาหารอักเสบ แก้พิษแมงกระพรุน: ผักบุ้งทะเลมีฤทธิ์ในการแก้พิษแมงกระพรุน จึงสามารถนำมาใช้บรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อนและอาการอักเสบที่เกิดจากพิษแมงกระพรุนได้ ลดน้ำตาลในเลือด: ผักบุ้งทะเลมีฤทธิ์ในการลดน้ำตาลในเลือด จึงสามารถนำมาใช้ในการรักษาโรคเบาหวานได้ ลดความดันโลหิต: ผักบุ้งทะเลมีฤทธิ์ในการลดความดันโลหิต จึงสามารถนำมาใช้ในการรักษาโรคความดันโลหิตสูงได้ บำรุงหัวใจ: ผักบุ้งทะเลมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยบำรุงหัวใจและป้องกันโรคหัวใจได้ บำรุงสายตา: ผักบุ้งทะเลมีวิตามินเอสูง จึงสามารถนำมาใช้ในการบำรุงสายตาและป้องกันโรคตาต่างๆ ได้ วิธีใช้ผักบุ้งทะเล แก้อักเสบ: นำใบผักบุ้งทะเลสดหรือแห้งมาต้มน้ำดื่ม หรือใช้ใบผักบุ้งทะเลสดมาพอกบริเวณที่อักเสบ แก้พิษแมงกระพรุน: นำใบผักบุ้งทะเลสดมาขยี้แล้วพอกบริเวณที่ถูกพิษแมงกระพรุน หรือใช้ใบผักบุ้งทะเลสดมาต้มน้ำแล้วนำมาล้างบริเวณที่ถูกพิษแมงกระพรุน ลดน้ำตาลในเลือด: นำใบผักบุ้งทะเลสดหรือแห้งมาต้มน้ำดื่มเป็นประจำ ลดความดันโลหิต: นำใบผักบุ้งทะเลสดหรือแห้งมาต้มน้ำดื่มเป็นประจำ บำรุงหัวใจ: นำใบผักบุ้งทะเลสดหรือแห้งมาต้มน้ำดื่มเป็นประจำ บำรุงสายตา: นำใบผักบุ้งทะเลสดหรือแห้งมาต้มน้ำดื่มเป็นประจำ

ต้อยติ่ง/อังกาบ ประโยชน์ และสรรพคุณต้อยติ่ง

ต้อยติ่ง/อังกาบ ต้อยติ่ง หรือที่เรียกกันอย่างแพร่หลายว่า อังกาบ เป็นพืชสมุนไพรที่ไม่เพียงแต่โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์เท่านั้น แต่ยังอัดแน่นไปด้วยประโยชน์และสรรพคุณมากมายสำหรับสุขภาพอีกด้วย คุณค่าทางโภชนาการ ต้อยติ่งนั้นประกอบไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก ทั้ง วิตามินซี เส้นใยอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ โดยต้อยติ่ง 100 กรัมนั้นให้พลังงาน 210 แคลอรี่ ประกอบด้วยโปรตีน 1.5 กรัม ไขมัน 0.7 กรัม คาร์โบไฮเดรต 50 กรัม วิตามินซี 150 มิลลิกรัม และเส้นใยอาหาร 15 กรัม ประโยชน์และสรรพคุณต้อยติ่ง ต้อยติ่งมีคุณสมบัติทางยาและสรรพคุณหลากหลาย โดยมีส่วนช่วยในการรักษาอาการเจ็บป่วยและส่งเสริมสุขภาพที่ดี ได้แก่ แก้หวัด ลดไข้ และอาการไอ ลดระดับน้ำตาลในเลือด เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ควบคุมความดันโลหิตให้เป็นปกติ ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด ลดอาการท้องผูก ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น บรรเทาอาการปวดต่างๆ เช่น ปวดท้อง ปวดประจำเดือน ปวดข้อ ช่วยลดการอักเสบและติดเชื้อ บรรเทาอาการภูมิแพ้ ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น บำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง ช่วยลดน้ำหนัก […]

หงส์เหิน/ดอกเข้าพรรษา ประโยชน์ สรรพคุณ และวิธีปลูกหงส์เหิน

หงส์เหิน/ดอกเข้าพรรษา: ประโยชน์ สรรพคุณ และวิธีปลูก หงส์เหินหรือดอกเข้าพรรษาเป็นพืชล้มลุกที่มีถิ่นกำเนิดในอินเดียและศรีลังกา พืชชนิดนี้มีความแข็งแรงและสามารถเจริญเติบโตได้ในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย ดอกหงส์เหินมีหลากหลายสีสัน สวยงามสะดุดตา มีกลิ่นหอมอ่อนๆ เป็นพืชที่นิยมปลูกประดับ และยังมีสรรพคุณทางยาที่น่าสนใจ ประโยชน์และสรรพคุณของหงส์เหิน ดอกหงส์เหินมีสรรพคุณช่วยลดไข้และทำให้รู้สึกสดชื่น น้ำจากใบหงส์เหินสามารถช่วยบรรเทาอาการไอและเจ็บคอ ช่วยบำรุงหัวใจและรักษาโรคหัวใจ ช่วยลดความดันโลหิต มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัย ช่วยบำรุงสายตา ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ช่วยรักษาโรคเบาหวาน ช่วยรักษาโรคมะเร็ง ใช้เป็นยาพอกบาดแผลและรักษาโรคผิวหนัง วิธีปลูกและดูแลหงส์เหิน หงส์เหินเป็นพืชที่ปลูกได้ง่าย สามารถปลูกได้ทั้งในดินและในกระถาง การปลูกในดิน เลือกพื้นที่ปลูกที่มีแสงแดดรำไร ดินร่วนซุย มีการระบายน้ำที่ดี ไถพรวนดินให้ละเอียด ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ ขุดหลุมปลูกขนาด 30 x 30 เซนติเมตร เว้นระยะห่างระหว่างหลุม 50-60 เซนติเมตร นำต้นหงส์เหินลงปลูกในหลุมแล้วกลบดินให้แน่น รดน้ำให้ชุ่มและรดน้ำสม่ำเสมอ การปลูกในกระถาง เลือกกระถางที่มีขนาด 12 นิ้วขึ้นไป ใช้ดินร่วนผสมกับปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในอัตรา 1:1 นำดินใส่ลงในกระถางประมาณ 2/3 ของกระถาง นำต้นหงส์เหินลงปลูกในกระถางแล้วกลบดินให้แน่น รดน้ำให้ชุ่มและรดน้ำสม่ำเสมอ การดูแลหงส์เหิน หงส์เหินเป็นพืชที่ต้องการแสงแดดรำไรหรือแสงแดดจัด […]

มะเกี๋ยง สรรพคุณ และประโยชน์มะเกี๋ยง

มะเกี๋ยง : สรรพคุณและประโยชน์ มะเกี๋ยงเป็นผลไม้เขตร้อนที่มีรสชาติหวานและฉ่ำ พบได้ทั่วไปในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ เป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย และมักใช้ในแพทย์แผนไทยเพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยต่างๆ สรรพคุณของมะเกี๋ยง บำรุงร่างกายและฟื้นฟูสุขภาพ บรรเทาอาการอ่อนเพลีย ช่วยระบบทางเดินอาหาร ลดอาการคลื่นไส้ ลดอาการท้องเสีย ลดอาการบาดมวน ช่วยรักษาโรคผิวหนัง เช่น โรคเรื้อนกวาง โรคผื่นคันต่างๆ มะเกี๋ยงมีฤทธิ์ในการขับปัสสาวะ ขับเหงื่อ ช่วยรักษาอาการโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ช่วยรักษาอาการไอ บรรเทาอาการหวัด ช่วยรักษาอาการไข้ เจ็บคอ ช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร ช่วยรักษาอาการเลือดออกตามไรฟัน ช่วยลดความดันโลหิตสูงและคอเลสเตอรอล ประโยชน์ของมะเกี๋ยง นอกจากสรรพคุณทางยาแล้ว มะเกี๋ยงยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอื่นๆ อีกมากมาย ได้แก่ อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายและลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ และโรคเบาหวาน มีวิตามินและแร่ธาตุสูง เช่น วิตามินซี วิตามินเอ โพแทสเซียม และแมกนีเซียม ซึ่งมีส่วนสำคัญในการรักษาสุขภาพโดยรวม ช่วยลดน้ำหนัก มะเกี๋ยงมีแคลอรี่ต่ำและมีไฟเบอร์สูง ซึ่งช่วยทำให้รู้สึกอิ่มนานขึ้นและช่วยลดการกินอาหารมากเกินไป ช่วยบำรุงผิวพรรณ มะเกี๋ยงมีวิตามินซีสูง ซึ่งช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนัง ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งและมีสุขภาพดี ช่วยลดความเครียด มะเกี๋ยงมีสารอาหารบางอย่างที่ช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลายและลดความเครียดได้ […]

ว่านนางคุ้ม/ว่านผู้เฒ่าเฝ้าบ้าน และการปลูกว่านนางคุ้ม

ว่านนางคุ้ม[ว่านผู้เฒ่าเฝ้าบ้าน] และการปลูกว่านนางคุ้ม ว่านนางคุ้ม หรือที่รู้จักกันในชื่ออื่นๆ เช่น ว่านผู้เฒ่าเฝ้าบ้าน เป็นพืชล้มลุกที่มีหัวอยู่ใต้ดิน ลำต้นและใบมีลักษณะเป็นเส้นเรียวยาว สีเขียวเข้ม บริเวณปลายใบมีหนามแหลมคม ดอกมีสีขาวหรือสีชมพูอ่อน มีกลีบดอก 5 กลีบ และออกดอกเป็นช่อที่ปลายยอด ว่านนางคุ้มเป็นพืชที่มีความทนทาน สามารถปลูกได้ในดินทุกประเภท ชอบแดดจัด และต้องการน้ำในปริมาณน้อย ว่านนางคุ้มมีสรรพคุณทางยาหลายประการ เช่น ช่วยบำรุงหัวใจและระบบประสาท แก้อาการอ่อนเพลีย ช่วยให้เจริญอาหาร บำรุงร่างกาย บำรุงผิวพรรณ แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย แก้ปวดบวม แก้ช้ำ หรือใช้เป็นยาพอกรักษาแผลสด เป็นต้น นอกจากนี้ ว่านนางคุ้มยังมีฤทธิ์เป็นยาปฏิชีวนะอ่อนๆ สามารถช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราได้ด้วย การปลูกว่านนางคุ้มสามารถทำได้ทั้งในกระถางและลงดิน แต่ถ้าปลูกในกระถางควรเลือกกระถางที่มีขนาดใหญ่พอสมควร เพื่อให้หัวมีพื้นที่ในการเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่ ดินที่ใช้ปลูกว่านนางคุ้มควรเป็นดินร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี และมีการระบายอากาศที่ดี ผสมกับปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกในอัตราส่วน 1:1 รดน้ำให้ชุ่มชื้นสม่ำเสมอ แต่ไม่ควรแฉะจนเกินไป วางกระถางในที่มีแดดจัด เพื่อให้ว่านนางคุ้มเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่

กระชายดำ สรรพคุณ และการปลูกกระชายดำ

กระชายดำとは กระชายดำเป็นพืชที่มีหัวใต้ดิน และเป็นสมาชิกของวงศ์ขิง กระชายดำมักใช้ในการทำยา และมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย รวมถึงการช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยลดความดันโลหิต ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และช่วยต้านการอักเสบ สรรพคุณของกระชายดำ กระชายดำมีสรรพคุณมากมาย รวมถึง ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด โดยกระชายดำมีสารเคมีที่ออกฤทธิ์เช่นเดียวกับอินซูลิน และช่วยให้ร่างกายใช้กลูโคสได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดความดันโลหิต โดยกระชายดำมีฤทธิ์ช่วยลดความดันโลหิตในสัตว์ทดลอง และในคนจำนวนน้อย ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล โดยกระชายดำมีสารเคมีที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในสัตว์ทดลอง และในคนจำนวนน้อย ช่วยต้านการอักเสบ โดยกระชายดำมีสารเคมีที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ และอาจช่วยลดอาการอักเสบต่างๆ ในร่างกายได้ ช่วยเพิ่มสมดุลของฮอร์โมน โดยกระชายดำมีสารเคมีที่ช่วยเพิ่มสมดุลของฮอร์โมนในสัตว์ทดลอง และในคนจำนวนน้อย ช่วยเพิ่มความจำ และการเรียนรู้ กระชายดำมีส่วนผสมที่ทำให้ความจำและการเรียนรู้ดีขึ้น การปลูกกระชายดำ กระชายดำสามารถปลูกได้ในดินที่อุดมสมบูรณ์และมีการระบายน้ำได้ดี ควรปลูกกระชายดำในช่วงฤดูฝน หรือในช่วงที่ดินมีความชื้นสูง ควรเตรียมดินโดยการไถพรวนและกำจัดวัชพืช จากนั้นก็ปลูกกระชายดำได้ ควรรดน้ำกระชายดำอย่างสม่ำเสมอ และควรใส่ปุ๋ยให้กับกระชายดำเป็นประจำ กระชายดำจะใช้เวลาประมาณ 8-12 เดือนในการเจริญเติบโตเต็มที่ และสามารถเก็บเกี่ยวได้ในช่วงฤดูหนาว

กระวาน (cardamom) สรรพคุณ และการปลูกกระวาน

กระวาน (Cardamom) กระวาน (ชื่อวิทยาศาสตร์: Elettaria cardamomum Maton) เป็นพืชในวงศ์ขิง (Zingiberaceae) มีลำต้นเป็นเหง้าอยู่ใต้ดิน ใบเป็นกาบยาวสีเขียวเข้ม ดอกออกเป็นช่อที่ปลายลำต้น แต่ละดอกชั้นนอกสีขาวและสีชมพู ชั้นในสีเหลือง และมีจุดสีแดง สรรพคุณของกระวานมีมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการรักษาโรคและส่งเสริมสุขภาพ สรรพคุณของกระวาน บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียด แน่นท้อง และช่วยขับลม ลดอาการคลื่นไส้อาเจียน โดยเฉพาะอาการแพ้ท้องในหญิงตั้งครรภ์ ช่วยกระตุ้นการย่อยอาหาร บรรเทาอาการไอ และขับเสมหะ ช่วยแก้อาการสะอึก บรรเทาอาการจุกเสียด แน่นท้อง บรรเทาอาการท้องร่วง ท้องเสีย ช่วยลดความเครียด ความวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า ช่วยบำรุงร่างกาย ฟื้นฟูผู้ป่วยหลังเจ็บป่วยได้เร็วขึ้น ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต บำรุงหัวใจ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยลดความดันโลหิต การปลูกกระวาน การเตรียมดิน ดินที่ใช้ปลูกกระวานควรเป็นดินร่วนปนทราย มีการระบายน้ำดี มีความเป็นกรดเป็นด่างอยู่ระหว่าง 5.5-6.5 ปรับปรุงโครงสร้างดินโดยการไถพรวนดินให้ลึกประมาณ 30-40 เซนติเมตร และใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในอัตรา 2-3 ตันต่อไร่ การเตรียมกล้าพันธุ์ […]

บัวกระด้งหรือบัววิคตอเรีย

บัวกระด้งหรือบัววิคตอเรีย บัวกระด้ง หรือบัววิคตอเรีย (Victoria Amazonica) เป็นไม้น้ำขนาดใหญ่ในวงศ์บัว มีถิ่นกำเนิดในลุ่มแม่น้ำอะเมซอนและแม่น้ำปรานาในทวีปอเมริกาใต้ บัวกระด้งเป็นบัวพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยใบกว้างได้สูงสุดถึง 3 เมตร และสามารถรับน้ำหนักได้ถึง 50 กิโลกรัม บัวกระด้งมีลักษณะใบกลมแบน เว้าบริเวณตรงกลางคล้ายกระด้ง ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ บัวกระด้ง ใบมีสีเขียวเข้ม ด้านหลังมีสีม่วงแดง ก้านใบยาวกลวง และมีหนามแหลมปกคลุมตลอดทั้งก้านดอกของบัวกระด้งมีสีขาวหรือชมพู ลักษณะเป็นกลีบซ้อนสองชั้น กลีบชั้นนอกมีจำนวน 4-6 กลีบ กลีบชั้นในมีจำนวนมากกว่า 100 กลีบ กลีบดอกจะบานในตอนกลางคืน และจะหุบในตอนกลางวัน ผลของบัวกระด้งมีลักษณะกลมรี มีสีน้ำตาลหรือดำ ภายในมีเมล็ดจำนวนมาก บัวกระด้งเป็นไม้น้ำที่มีความสวยงาม นิยมปลูกเป็นไม้ประดับในสวนบัวหรือแหล่งน้ำขนาดใหญ่ การปลูกบัวกระด้งนั้นต้องปลูกในน้ำที่มีอุณหภูมิค่อนข้างสูง ประมาณ 20-30 องศาเซลเซียส และต้องมีแสงแดดอย่างเพียงพอ บัวกระด้งจะเจริญเติบโตได้ดีในน้ำนิ่งหรือน้ำไหลเอื่อยๆ ไม่เหมาะกับการปลูกในน้ำไหลเชี่ยว