Author Archives: kct

เห็ดตับเต่าดำ เห็ดตับเต่าขาว สรรพคุณ และการเพาะเห็ดตับเต่า

เห็ดตับเต่าสองชนิดคือ เห็ดตับเต่าดำ (แบล็คโคลอร์) และเห็ดตับเต่าขาว (ไวท์โคลอร์) เห็ดตับเต่าจัดเป็นเห็ดที่มีราคาแพงที่สุดชนิดหนึ่ง โดยเห็ดตับเต่าดำจะมีราคาสูงกว่าเห็ดตับเต่าขาว เนื่องจากเห็ดตับเต่าดำจะมีรสชาติที่นุ่มกว่า มีการเพาะปลูกที่ยากกว่า และเจริญเติบโตได้น้อยกว่าเห็ดตับเต่าขาว โดยเห็ดตับเต่าเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก จึงถึงมีการเพาะปลูกเพื่อจำหน่ายเป็นจำนวนมาก เห็ดตับเต่าขาวเป็นสายพันธุ์เดียวกันกับเห็ดทรัฟเฟิล เห็ดตับเต่าเป็นเห็ดที่เจริญเติบโตในชั้นดินที่อุดมสมบูรณ์ และเติบโตได้ดีในประเทศไทย รวมถึงมีการจำหน่ายและส่งออกเป็นจำนวนมาก สรรพคุณของเห็ดตับเต่า เห็ดตับเต่าเป็นเห็ดที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ มากมาย เช่น ไฟเบอร์ วิตามินบี 6 แมกนีเซียม โพแทสเซียม ธาตุเหล็ก และฟอสฟอรัส โดยแต่ละสารอาหารล้วนมีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ช่วยลดความดันโลหิต ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ช่วยต้านมะเร็ง เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย การเพาะเห็ดตับเต่า การเพาะเห็ดตับเต่าเป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความชำนาญสูง และสามารถจำแนกกระบวนการเพาะเห็ดได้เป็น 4 ขั้นตอน ได้แก่ การเตรียมก้อนเห็ด: เตรียมโดยการผสมส่วนผสมต่างๆ เข้าด้วยกัน ได้แก่ ขี้เลื่อย 80 เปอร์เซ็นต์ รำข้าว 10 เปอร์เซ็นต์ และปุ๋ยหมัก 10 เปอร์เซ็นต์ […]

ฝาง สรรพคุณ และประโยชน์

ฝาง สรรพคุณ และประโยชน์ ฝาง คืออะไร? ฝางเป็นพืชในกลุ่มพืชตระกูลถั่ว ที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cassia fistula L. ฝางเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางที่พบในพื้นที่เขตร้อนและกึ่งเขตร้อนของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงประเทศไทย ใบฝางเป็นใบประกอบแบบขนนกที่มีใบย่อย 4-8 คู่ ดอกฝางเป็นดอกสีเหลืองสดขนาดใหญ่ที่ออกดอกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง ผลฝางเป็นฝักยาวสีน้ำตาลเข้มที่มีเมล็ดสีดำขนาดใหญ่ สรรพคุณของฝาง แก้ท้องผูก: ฝางมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยเพิ่มการบีบตัวของลำไส้และทำให้อุจจาระนิ่มขึ้น จึงช่วยบรรเทาอาการท้องผูกและช่วยให้ขับถ่ายง่ายขึ้น แก้อาการท้องร่วง: ฝางมีสรรพคุณในการช่วยดูดซับน้ำและเกลือแร่ในลำไส้ จึงช่วยบรรเทาอาการท้องร่วงและช่วยให้ร่างกายดูดซับน้ำและเกลือแร่ได้ดีขึ้น รักษาแผลในกระเพาะอาหาร: ฝางช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหารหรือลำไส้ได้ ช่วยขับปัสสาวะ: ฝางช่วยขับปัสสาวะและช่วยป้องกันการเกิดนิ่วในไตและในกระเพาะปัสสาวะ บำรุงสายตา: ฝางมีเบตาแคโรทีนซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยบำรุงสายตา ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด: ฝางมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ลดความดันโลหิต: ฝางช่วยลดความดันโลหิต ต้านการอักเสบ: ฝางมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยลดอาการอักเสบที่เกิดจากโรคต่างๆ ต้านมะเร็ง: ฝางมีฤทธิ์ต้านมะเร็ง นอกจากนั้นแล้วฝางยังมีสรรพคุณอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ช่วยบรรเทาอาการไข้หวัด ไอ เจ็บคอ ช่วยขับเสมหะ เพิ่มความอยากอาหาร และบำรุงผิวพรรณให้สดใส ประโยชน์ของฝาง ฝางเป็นพืชที่มีประโยชน์อย่างมากต่อมนุษย์ เนื่องจากมีสรรพคุณทางยาหลากหลาย ฝางสามารถใช้รักษาอาการเจ็บป่วยต่างๆ ได้ ทั้งยังสามารถนำมาใช้ปรุงอาหารและทำเป็นอาหารได้ด้วย แต่ก็ต้องระมัดระวังในการทาน […]

ผักโขม และการปลูกผักโขม

ผักโขม ผักโขม (Spinach) จัดเป็นพืชผักตระกูลเดียวกับหัวบีทและผักกาด ซึ่งเป็นผักใบเขียวที่อุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆ มากมาย เช่น ไฟเบอร์, โฟเลต, ธาตุเหล็ก, แมกนีเซียม, วิตามินเอ, วิตามินซี, วิตามินเค, แคลเซียม, โพแทสเซียม, สังกะสี เป็นต้น โดยปกติแล้วผักโขมจะมีใบกว้างทรงไข่กลม มีสีเขียวเข้ม เหมาะที่จะบริโภคให้ได้ประโยชน์สูงสุด เช่น รับประทานสดๆ หรือปรุงอาหาร โดยเฉพาะเมนูแกงจืด การปลูกผักโขม ผักโขมเป็นพืชผักที่สามารถปลูกได้ง่ายและเจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศหรือเขตหนาว และเป็นพืชผักที่ไม่ต้องการการดูแลหรือเอาใจใส่เป็นพิเศษมากนัก ดังนั้นการปลูกผักโขมจึงเหมาะกับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นหัดปลูกพืชผัก โดยขั้นตอนในการปลูกผักโขมมีดังนี้ การเตรียมแปลงปลูกผักโขม เลือกพื้นที่ปลูกผักโขมที่มีแสงแดดส่องถึงอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน ย่อยดินให้ร่วนซุย ใส่ปุ๋ยคอกและแกลบลงในแปลงปลูก รดน้ำให้ชุ่ม การเพาะกล้าผักโขม ผสมดินร่วนละเอียดและปุ๋ยคอกในอัตรา 3:1 หยอดเมล็ดผักโขมลงไปโดยให้มีระยะห่างระหว่างแต่ละเมล็ดประมาณ 1 นิ้ว โรยดินบางๆ ก ลบเมล็ดผักโขม รดน้ำด้วยฝักบัวเบาๆ นำกล้าผักโขมไปวางไว้ในที่ที่มีแสงแดดรำไร การย้ายกล้าผักโขมลงแปลงปลูก เมื่อกล้าผักโขมมีใบจริง 2-3 ใบ ให้ย้ายลงแปลงปลูก โดยให้มีระยะห่างระหว่างแต่ละต้นประมาณ 8-12 […]

เตย/ใบเตย สรรพคุณ และการปลูกเตย

เตย/ใบเตย สรรพคุณ และการปลูกเตย เตยเป็นพืชสมุนไพรหลากหลายชนิดในสกุล Pandanus ซึ่งพบได้ในพื้นที่เขตร้อนและกึ่งเขตร้อนของโลก พืชเตยบางชนิดมีถิ่นกำเนิดในเอเชีย บางชนิดมีถิ่นกำเนิดในแอฟริกา และบางชนิดมีถิ่นกำเนิดในโอเชียเนีย เตยเป็นพืชที่มีความหลากหลายมาก บางชนิดมีลำต้นสูง บางชนิดมีลำต้นเตี้ย บางชนิดมีใบยาว ใบที่กว้าง บางชนิดมีดอกสีสวยงาม และบางชนิดมีผลไม้ที่กินได้ สรรพคุณของเตย เตยมีสรรพคุณทางยาหลากหลาย ได้แก่ ช่วยบรรเทาอาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ช่วยแก้อาการท้องเสีย ท้องร่วง ช่วยขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ช่วยแก้อาการไอ เจ็บคอ ช่วยลดอาการปวด ปวดหัว ช่วยบำรุงหัวใจ บำรุงประสาท ช่วยรักษาโรคเบาหวาน ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง การปลูกเตย เตยเป็นพืชที่ปลูกง่าย สามารถปลูกได้ทั้งในดินและในน้ำ เตยเจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนปนทรายที่มีความชื้นสูง พืชเตยแนะนำปลูกในช่วงฤดูฝน เตยชอบดินร่วนซุย มีอินทรียวัตถุท้องถิ่นหรือปุ๋ยคอก การเตรียมดิน ควรไถพรวนดินลึก 20-30 ซม. และย่อยดินให้ละเอียด สำหรับดินที่เป็นกรดจัด pH ต่ำกว่า 5 ควรปรับสภาพดินโดยการใส่ปูนขาว 200-300 กก./ไร่ การปลูก […]

สนสามใบ (benguet Pine) ประโยชน์ และสรรพคุณ

สนสามใบ (Benguet Pine): ประโยชน์และสรรพคุณ สนสามใบหรือมากาเป็ก เป็นต้นไม้เขียวชอุ่มตลอดปีในสกุล Pinus มีต้นกำเนิดในฟิลิปปินส์ มีความสูงโดยเฉลี่ย 10-30 เมตร โดยมีลำต้นเป็นเปลือกสีน้ำตาลตั้งตรงและมีกิ่งก้านแผ่อกว้างเป็นพุ่มหนาแน่น ใบของสนสามใบมีลักษณะยาวเป็นเข็ม มีสีเขียวเข้ม เป็นกลุ่มละ 3 ใบ และมีขนาดยาวประมาณ 10-15 เซนติเมตร สนสามใบสามารถเจริญเติบโตได้ในดินหลายประเภท แต่พบมากที่สุดในดินที่มีการระบายน้ำดีและมีความเป็นกรดเล็กน้อย สนสามใบมีสรรพคุณทางยาหลายประการ ในการแพทย์แผนไทย มักใช้ส่วนต่างๆ ของสนสามใบเพื่อรักษาอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดท้อง บิด มูกเลือด และโรคผิวหนัง ในการแพทย์แผนจีน สนสามใบใช้เพื่อลดอาการอักเสบ รักษาอาการปวดท้อง และบรรเทาอาการปวดประจำเดือน ประโยชน์ของสนสามใบ นอกจากสรรพคุณทางยาแล้ว สนสามใบยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย ด้วยรูปทรงที่สวยงามและความทนทาน จึงมักปลูกเป็นไม้ประดับทั้งในสวนสาธารณะและในบ้าน ในบางประเทศ สนสามใบยังใช้เป็นไม้เพื่อการค้า โดยใช้เนื้อไม้ในการทำเฟอร์นิเจอร์ กระดาษ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น แม้ว่าสนสามใบจะมีสรรพคุณทางยาและประโยชน์หลายประการ แต่ก็อาจมีผลข้างเคียงได้เช่นกัน หากรับประทานมากเกินไป อาจเกิดอาการระคายเคืองที่ผิวหนัง ตา และระบบทางเดินหายใจ นอกจากนี้ สนสามใบยังมีสาร Tannin […]

ดอกดิน ใช้หุงนึ่งข้าว เด่นต้านมะเร็ง แก้ไอ ลดไข้ แก้โรคข้อกระดูก

ดอกดิน ยาพื้นบ้านที่เต็มไปด้วยสรรพคุณ ดอกดินเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มักพบได้ตามป่าดิบและป่าละเมาะ เป็นไม้ล้มลุกขนาดเล็ก ลำต้นมีสีเขียวแกมแดง ใบเป็นใบเดี่ยว ออกตรงข้ามกัน มีลักษณะเป็นรูปไข่ ผิวใบเรียบ ดอกออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง กลีบดอกมีสีขาวหรือสีชมพูอ่อน มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ดอกดินมีสรรพคุณทางยาหลายประการ เช่น ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง ช่วยบรรเทาอาการไอ ช่วยลดไข้ ช่วยรักษาโรคข้อกระดูก ช่วยลดอาการปวดบวม ช่วยสมานแผล วิธีใช้ดอกดิน นำดอกดินมาตากแห้งแล้วบดเป็นผง ใช้น้ำรัดเอาน้ำมากินครั้งละ 1-2 ช้อนชา วันละ 2-3 ครั้ง ใช้น้ำรัดเอาน้ำมาทาบริเวณที่ปวดบวม ใช้น้ำรัดเอาน้ำมาหยอดหูเพื่อบรรเทาอาการปวดหู ใช้น้ำรัดเอาน้ำมาผสมกับน้ำมันมะพร้าวแล้วนำมาทาบริเวณแผลเพื่อช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น ดอกดินเป็นสมุนไพรพื้นบ้านที่มีสรรพคุณทางยาหลายประการ สามารถใช้รักษาโรคต่างๆ ได้หลากหลาย แต่ทั้งนี้การใช้ดอกดินควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เกิดผลข้างเคียงใดๆ

เงาะ(rambutan) เงาะโรงเรียน และการปลูกเงาะ

เงาะ (Rambutan) เงาะเป็นผลไม้เขตร้อนที่พบได้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีลักษณะเป็นผลกลมรีปกคลุมด้วยหนามอ่อน ๆ มีเกล็ดขนาดเล็กปกคลุม ผลอ่อนมีสีเขียว เมื่อสุกจะมีสีแดงเข้มหรือเหลือง เนื้อในมีรสชาติหวานและฉ่ำ นิยมรับประทานสดหรือแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น น้ำเงาะ แยมเงาะ วุ้นเงาะ เป็นต้น เงาะโรงเรียน เงาะโรงเรียนเป็นพันธุ์เงาะที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย มีลักษณะเด่นคือมีผลขนาดใหญ่ เปลือกบาง เนื้อในหนาแน่น หวานกรอบ และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว เงาะโรงเรียนมีแหล่งกำเนิดในจังหวัดชุมพร แต่ปัจจุบันได้มีการปลูกในหลายพื้นที่ของประเทศไทย การปลูกเงาะ เงาะเป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้น ต้องการน้ำและแสงแดดเป็นจำนวนมาก การปลูกเงาะสามารถทำได้ทั้งแบบปลูกในดินและแบบปลูกในกระถาง โดยทั่วไปแล้วการปลูกในดินจะให้ผลผลิตมากกว่าการปลูกในกระถาง การปลูกเงาะในดินควรเลือกพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีการระบายน้ำที่ดี และมีแสงแดดส่องถึงตลอดทั้งวัน ก่อนปลูกควรเตรียมดินโดยการไถพรวนและใส่ปุ๋ยรองพื้น จากนั้นจึงขุดหลุมปลูกขนาดประมาณ 60 x 60 x 60 เซนติเมตร ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไปในหลุมปลูก จากนั้นจึงวางต้นกล้าเงาะลงในหลุมปลูก กดดินให้แน่นและรดน้ำให้ชุ่ม การปลูกเงาะในกระถางควรเลือกใช้กระถางที่มีขนาดใหญ่พอเหมาะกับขนาดของต้นเงาะ ใส่ดินผสมลงไปในกระถางประมาณ 2/3 ของกระถาง จากนั้นจึงวางต้นกล้าเงาะลงในกระถาง กดดินให้แน่นและรดน้ำให้ชุ่ม การดูแลเงาะหลังจากปลูกต้องรดน้ำให้สม่ำเสมอ ใส่ปุ๋ยบำรุงต้นตามคำแนะนำของผู้ผลิต และกำจัดวัชพืชที่ขึ้นบริเวณโคนต้นเงาะเป็นประจำ เพื่อป้องกันโรคและแมลงศัตรูพืชที่อาจเกิดขึ้นกับต้นเงาะ เงาะเป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ช้า โดยทั่วไปแล้วจะให้ผลผลิตหลังจากปลูกประมาณ […]

แห้ว/แห้วจีน ประโยชน์ สรรพคุณ และการปลูกแห้ว

แห้ว/แห้วจีน ประโยชน์ สรรพคุณ และการปลูกแห้ว แห้วหรือที่รู้จักกันในชื่อ “แห้วจีน” มีลักษณะเป็นพืชที่มีหัวใต้ดินขนาดใหญ่ หัวมีสีขาว เนื้อในหวานกรอบ หากกินสดๆ จะได้รสชาติหวานฉ่ำและกรุบกรอบ นอกจากนี้ แห้วยังมีสรรพคุณทางยาที่โดดเด่นอีกด้วย ประโยชน์และสรรพคุณของแห้ว บรรเทาอาการท้องเสีย : แห้วมีฤทธิ์ฝาดช่วยสมานลำไส้ จึงช่วยบรรเทาอาการท้องเสียได้ ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด : แห้วมีดัชนีน้ำตาลต่ำและมีเส้นใยสูง ช่วยชะลอการดูดซึมกลูโคสเข้าสู่ร่างกาย จึงช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ในผู้ป่วยเบาหวานหรือผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก บรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย : แห้วมีฤทธิ์ลดการอักเสบ ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย อาการเจ็บปวดข้อ หรืออาการปวดศีรษะได้ บำรุงหัวใจ : แห้วมีโพแทสเซียมและแมกนีเซียม ช่วยควบคุมความดันโลหิตและลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจได้ บรรเทาอาการไอ : แห้วมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัส ช่วยบรรเทาอาการไอ แก้เจ็บคอได้ บำรุงผิว : แห้วมีวิตามินซีสูง ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งดูอ่อนกว่าวัย บำรุงเลือด : แห้วมีธาตุเหล็กสูง ซึ่งธาตุเหล็กมีส่วนสำคัญในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง ช่วยป้องกันและรักษาภาวะซีดได้ การปลูกแห้ว แห้วสามารถปลูกได้ทั้งในนาข้าวและแปลงนา สำหรับการปลูกในแปลงนา ควรไถเตรียมดินให้ละเอียด จากนั้นยกแปลงสูง 10-20 เซนติเมตร […]

ว่านนางคุ้ม/ว่านผู้เฒ่าเฝ้าบ้าน และการปลูกว่านนางคุ้ม

ว่านนางคุ้ม/ว่านผู้เฒ่าเฝ้าบ้าน ว่านนางคุ้มหรือว่านผู้เฒ่าเฝ้าบ้าน เป็นว่านที่มีคุณสมบัติทางด้านเมตตามหานิยม โชคลาภ และยังสามารถช่วยป้องกันสิ่งชั่วร้ายและภูตผีปีศาจได้อีกด้วย นอกจากนี้ว่านนางคุ้มยังเป็นว่านที่มีความทนทานและอดทน สามารถปลูกได้ง่ายในสภาพอากาศทั่วไปของประเทศไทย ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ว่านนางคุ้มเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวที่มีลักษณะลำต้นเป็นหัวอยู่ใต้ดิน ลำต้นแท้เป็นแผ่นกลมแบน มีดอกสีขาวตรงกลางดอกมีสีเหลืองติดอยู่กับซอกใบ ปลายใบแหลม การปลูกว่านนางคุ้ม ให้เลือกดินร่วนซุยที่มีความอุดมสมบูรณ์ และมีการระบายน้ำได้ดี เมื่อเตรียมดินเสร็จแล้วให้ขุดหลุมปลูกที่มีขนาดใหญ่กว่าหัวของว่านนางคุ้ม จากนั้นนำหัวของว่านนางคุ้มวางลงไปในหลุมปลูกแล้วกลบดินให้มิด จากนั้นรดน้ำให้ชุ่มและหมั่นรดน้ำเป็นประจำเพื่อให้ดินมีความชื้นอยู่เสมอ การดูแลรักษาว่านนางคุ้ม รดน้ำให้ดินมีความชื้นอยู่เสมอ แต่ไม่ควรแฉะจนเกินไป ใส่ปุ๋ยให้ต้นว่านนางคุ้มทุกๆ 1-2 เดือน โดยใช้ปุ๋ยละลายน้ำหรือปุ๋ยคอก หมั่นกำจัดวัชพืชที่ขึ้นรอบๆ ต้นว่านนางคุ้มเพื่อไม่ให้แย่งธาตุอาหาร ตรวจสอบโรคและแมลงที่อาจจะเกิดขึ้นกับต้นว่านนางคุ้มและกำจัดอย่างถูกวิธี โดยใช้ยาเคมีหรือยาชีวภาพ ประโยชน์ของว่านนางคุ้ม ว่านนางคุ้มมีหลายประโยชน์ ตั้งแต่ช่วยเสริมดวงชะตา เพิ่มโชคลาภ เมตตามหานิยม ป้องกันสิ่งชั่วร้ายและภูตผีปีศาจ

ผักเขียด/ผักขาเขียด/ผักอฮิน ผักวัชพืชตามหนองนา และสรรพคุณเด่น

ผักเขียด/ผักขาเขียด/ผักอฮิน : ผักวัชพืชตามหนองนา และสรรพคุณเด่น ผักเขียด หรือ ผักขาเขียด หรือ ผักอฮิน เป็นวัชพืชที่มักพบได้ตามหนองนาหรือพื้นที่ชื้นแฉะ เป็นผักโบราณที่คนไทยในชนบทนิยมนำมาบริโภค เพราะมีสรรพคุณโดดเด่นหลายประการ คุณประโยชน์และสรรพคุณของผักเขียด ช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย ลดอาการอ่อนเพลีย ช่วยปรับสมดุลและฟื้นฟูระบบประสาท ช่วยแก้อาการร้อนใน ลดไข้ แก้ท้องร่วง ช่วยลดอาการปวดหัวตัวร้อน ช่วยรักษาแผลในปากและหลอดอาหาร ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย ช่วยลดอาการอักเสบในกระเพาะอาหาร ลดอาการท้องอืด ช่วยลดอาการท้องผูก ช่วยขับลม ช่วยบำรุงสายตา รักษาโรคต้อ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดไขมันในเลือด ช่วยรักษาโรคผิวหนัง เช่น สิว ผดผื่น ช่วยบำรุงกำลังและเพิ่มสมรรถภาพทางป ใช้เป็นยาไล่แมลง ใช้สำหรับกำจัดแมลงและสัตว์เล็กๆ วิธีรับประทานผักเขียด นำผักมาต้มให้สุกหรือลวกให้สุก แล้วนำมานึ่งหรือผัดรับประทาน นำผักมาต้มกับน้ำดื่ม หรือคั้นน้ำดื่ม ผสมผักเขียดในอาหาร เช่น ใส่ในแกง ผัด ยำ ใช้ปรุงเป็นยาต้ม หรือยาสมุนปรุง หากรับประทานสดอาจต้องใช้ผักในปริมาณน้อย และเมื่อรับประทานสดควรเลือกผักที่สด สะอาด และปลอดสารพิษ อย่างไรก็ตาม หากมีโรคประจำตัว […]