บานชื่น/ดอกบานชื่น และการปลูกบานชื่น

บานชื่น/ดอกบานชื่น

บานชื่นเป็นดอกไม้ที่มีสีสันสดใสและบานนาน บานชื่นเป็นไม้ล้มลุกที่มีลำต้นอวบน้ำแตกกิ่งก้านสาขามากมาย ลำต้นสูงได้ถึง 1-2 เมตร และมีใบเรียงสลับกันเป็นรูปไข่หรือรูปหัวใจ ปลายใบแหลมหรือหยักเป็นฟันเลื่อย ผิวใบสีเขียวเข้มเป็นมัน ดอกบานชื่นมีกลีบดอก 5 กลีบ เรียงเป็นรูป漏บัว มีหลายสี เช่น สีขาว สีชมพู สีแดง สีม่วง สีเหลือง และสีส้ม

การปลูกบานชื่น

1. การเตรียมดิน: ดินที่เหมาะสมสำหรับการปลูกบานชื่นคือดินร่วนปนทรายที่มีความเป็นกรดเล็กน้อย (pH 5.5-6.5) สามารถระบายน้ำได้ดี และมีความอุดมสมบูรณ์สูง

2. การเตรียมเมล็ด: เมล็ดบานชื่นสามารถหาซื้อได้จากร้านขายเครื่องมือและวัสดุเกษตร เลือกเมล็ดที่สมบูรณ์และมีคุณภาพดี

3. การเพาะเมล็ด:

   • เพาะในถาดเพาะกล้า: หว่านเมล็ดบานชื่นลงในถาดเพาะกล้าที่เตรียมไว้ โรยเมล็ดบางๆ แล้วกลบด้วยดินบางๆ รดน้ำให้ชุ่มแล้วนำถาดเพาะกล้าไปวางในที่ร่มหรือในโรงเรือน

4. การย้ายปลูก: เมื่อต้นกล้าบานชื่นมีอายุประมาณ 1-2 เดือน หรือมีใบจริง 3-4 ใบ ให้ย้ายปลูกในแปลงปลูกที่เตรียมไว้ ปลูกต้นกล้าให้ห่างกันประมาณ 30-40 เซนติเมตร รดน้ำให้ชุ่มหลังจากย้ายปลูก

5. การดูแลรักษา:

   • การให้น้ำ: บานชื่นเป็นพืชที่ต้องการน้ำปานกลาง ควรรดน้ำให้ชุ่มสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
   • การใส่ปุ๋ย: ใส่ปุ๋ยสูตรเสมอ 15-15-15 หรือ 16-16-16 ให้กับต้นบานชื่นทุกๆ 1-2 เดือน เพื่อเสริมสร้างการเจริญเติบโตและการออกดอก
   • การป้องกันกำจัดโรคและแมลง: บานชื่นอาจได้รับความเสียหายจากโรคและแมลงบางชนิด เช่น โรคราแป้ง โรคใบจุด และเพลี้ยอ่อน ควรหมั่นตรวจสอบต้นบานชื่นและกำจัดโรคและแมลงศัตรูพืชทันทีที่พบ

6. การเก็บเกี่ยว: ดอกบานชื่นสามารถเก็บเกี่ยวได้เมื่อดอกบานเต็มที่ โดยทั่วไปแล้วจะใช้เวลาประมาณ 60-90 วันหลังจากย้ายปลูก เก็บดอกบานชื่นโดยตัดที่ก้านดอกเหนือใบ