Skip to content
ชมพู่มะเหมี่ยว/มะเหมี่ยว สรรพคุณ และวิธีปลูกชมพู่มะเหมี่ยว
สรรพคุณของชมพู่มะเหมี่ยว
ช่วยรักษาโรคเบาหวาน ชมพู่มะเหมี่ยวมีฤทธิ์ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด จึงช่วยรักษาโรคเบาหวานได้ โดยในเปลือกของชมพู่มะเหมี่ยวมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของอินซูลิน จึงช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง สารสกัดจากเปลือกของชมพู่มะเหมี่ยวมีฤทธิ์ช่วยลดความดันโลหิต จึงช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูงได้ ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด สารสกัดจากเปลือกของชมพู่มะเหมี่ยวมีฤทธิ์ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด จึงช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง สารสกัดจากเปลือกของชมพู่มะเหมี่ยวมีฤทธิ์ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้ โดยในเปลือกของชมพู่มะเหมี่ยวมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันเซลล์จากความเสียหาย จึงช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง ช่วยบำรุงผิวพรรณ สารสกัดจากเปลือกของชมพู่มะเหมี่ยวมีฤทธิ์ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส โดยในเปลือกของชมพู่มะเหมี่ยวมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันเซลล์ผิวจากความเสียหาย จึงช่วยลดริ้วรอยและจุดด่างดำบนผิวหนัง วิธีปลูกชมพู่มะเหมี่ยว
การเลือกพื้นที่ปลูก ควรเลือกพื้นที่ปลูกที่มีสภาพอากาศอบอุ่นถึงร้อน มีความชื้นสูง และมีแสงแดดส่องเพียงพอ การเตรียมดิน ควรเตรียมดินให้มีสภาพร่วนซุย มีความเป็นกรดด่างเป็นกลาง และมีการระบายน้ำที่ดี การปลูก ควรปลูกชมพู่มะเหมี่ยวในช่วงฤดูฝน โดยขุดหลุมปลูกที่มีขนาดกว้างและลึกประมาณ 50 เซนติเมตร ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไปในหลุมปลูก จากนั้นนำต้นชมพู่มะเหมี่ยวลงปลูกแล้วกลบดินให้แน่น รดน้ำให้ชุ่ม การดูแลรักษา ควรรดน้ำให้ชมพู่มะเหมี่ยวอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน ควรให้น้ำวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น และควรใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักให้กับชมพู่มะเหมี่ยวทุกๆ 3-4 เดือน การเก็บเกี่ยวผลชมพู่มะเหมี่ยว สามารถเก็บเกี่ยวผลชมพู่มะเหมี่ยวได้เมื่อผลมีสีแดงอมม่วง และมีกลิ่นหอม โดยผลชมพู่มะเหมี่ยวจะเริ่มแก่ในช่วงเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม
We use cookies to ensure that we give you the best experience on our website. If you continue to use this site we will assume that you are happy with it. Privacy policy Ok