เร่วหอม สรรพคุณ และการปลูกเร่วหอม

เร่วหอม

เร่วหอม หรือที่รู้จักกันดีในชื่ออื่นๆ เช่น โกหยีเงี่ยม โกนุน จันทน์แดง เป็นพืชที่อยู่ในวงศ์ Zingiberaceae ที่มีลักษณะเป็นหัวใต้ดิน มีกลิ่นหอมแรง ซึ่งกลิ่นหอมนี้มาจากสารเคมีที่ชื่อว่า terpene นั่นเอง โดยหัวใต้ดินของเร่วหอมนี้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทั้งในด้านการปรุงอาหารและการรักษาโรค

สรรพคุณของเร่วหอม

  • ช่วยบำรุงร่างกาย โดยเฉพาะหัวใต้ดินมีสรรพคุณช่วยบำรุงร่างกายให้ชุ่มชื่น ไม่เหนื่อยง่าย
  • แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ด้วยการนำหัวใต้ดินของเร่วหอมมาตำหรือคั้นน้ำ แล้วนำน้ำนั้นมาดื่ม จะช่วยบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อได้ เนื่องจากเร่วหอมมีฤทธิ์ในการยับยั้งการบีบตัวของกล้ามเนื้อเรียบในระบบทางเดินอาหารและเพิ่มการสร้างเมือกในกระเพาะอาหาร จึงช่วยลดการระคายเคืองและอาการปวดท้อง
  • บรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียนได้ดี
  • ช่วยขับลมในกระเพาะอาหารและลำไส้
  • แก้ปัญหาอาหารไม่ย่อย
  • กระตุ้นการขับปัสสาวะให้มากยิ่งขึ้น
  • ช่วยขับเหงื่อได้ดี จึงมักนำมาใช้เป็นส่วนผสมในยาหอมและยาแก้ไข้ เพื่อช่วยขับเหงื่อและลดไข้
  • ช่วยบรรเทาอาการไอ
  • ช่วยลดอาการปวดฟัน โดยพืชชนิดนี้มีฤทธิ์ในการต้านเชื้อแบคทีเรียบางชนิด จึงช่วยบรรเทาอาการปวดฟันได้
  • ช่วยขับเลือดประจำเดือน โดยช่วยทำให้ประจำเดือนไหลเวียนดีขึ้น

การปลูกเร่วหอม

  • การเตรียมดิน ควรใช้ดินร่วนปนทรายที่มีการระบายน้ำดี และมีความเป็นกรดเป็นด่างประมาณ 6.0-6.5
  • การเตรียมหัวพันธุ์ ควรเลือกหัวพันธุ์ที่สมบูรณ์ ไม่มีร่องรอยของโรคและแมลง จากนั้นให้แบ่งหัวพันธุ์ออกเป็นแง่งเล็กๆ แล้วนำไปแช่ในน้ำยาฆ่าเชื้อราประมาณ 15 นาที แล้วจึงนำไปปลูก
  • การปลูก นำหัวพันธุ์ที่เตรียมไว้มาปลูกในดิน โดยให้หัวพันธุ์จมลงไปในดินประมาณครึ่งหัว จากนั้นให้กลบดินกลบหัวพันธุ์ให้แน่น รดน้ำให้ชุ่ม แล้วคลุมด้วยฟางข้าวหรือใบไม้เพื่อรักษาความชื้นให้กับดิน
  • การดูแลรักษา ให้รดน้ำสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง และอย่าให้ดินแฉะจนเกินไป อาจจะใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักทุกๆ 2-3 เดือนเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับดิน
  • การเก็บเกี่ยว เมื่อเร่วหอมมีอายุประมาณ 8-12 เดือนก็สามารถเก็บเกี่ยวได้ โดยให้ขุดเอาหัวใต้ดินขึ้นมาแล้วนำมาล้างให้สะอาด จากนั้นให้นำหัวใต้ดินไปตากแดดให้แห้ง แล้วจึงเก็บไว้ใช้ประโยชน์ได้