เห็ดนางฟ้า และการเพาะเห็ดนางฟ้า

เห็ดนางฟ้า

เห็ดนางฟ้า (Pleurotus ostreatus) เป็นเห็ดที่นิยมบริโภคกันอย่างแพร่หลาย โดยมีลักษณะเป็นเห็ดที่มีลักษณะหมวกเห็ดมีสีเทาหรือน้ำตาลอ่อน เนื้อหนานและนุ่ม มี gills สีขาวหรือเทาที่ด้านใต้ของหมวกเห็ด เห็ดนางฟ้ามักพบขึ้นเองตามธรรมชาติบนต้นไม้ที่ตายแล้วหรือใกล้จะตาย แต่ก็สามารถเพาะเลี้ยงได้ในเชิงพาณิชย์

การเพาะเห็ดนางฟ้า

การเพาะเห็ดนางฟ้าเป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมในหลายๆ ประเทศ เนื่องจากเห็ดชนิดนี้มีความต้องการสูงในตลาดและสามารถเพาะเลี้ยงได้ในเชิงพาณิชย์ได้ง่าย กระบวนการเพาะเห็ดนางฟ้ามีขั้นตอนหลักๆ ดังนี้

การเตรียมวัสดุเพาะ

วัสดุเพาะเห็ดนางฟ้าที่นิยมใช้คือขี้เลื่อยไม้เนื้อแข็ง โดยต้องมีการปรับค่าความเป็นกรดและด่าง (pH) ให้เหมาะสม และเติมสารอาหารที่จำเป็น เช่น รำข้าวหรือจมูกข้าวสาลี

การทำเชื้อเห็ด

เชื้อเห็ดนางฟ้าสามารถสั่งซื้อได้จากผู้ผลิตเห็ดพันธุ์ โดยวิธีการทำเชื้อเห็ดคือการนำเชื้อเห็ดมาแยกและเพาะบนอาหารเลี้ยงเชื้อ เช่น เมล็ดข้าวฟ่าง เมื่อเชื้อเห็ดมีการเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว จะนำไปผสมกับวัสดุเพาะ

การบรรจุถุงเพาะ

วัสดุเพาะเห็ดที่ผสมกับเชื้อเห็ดแล้วจะถูกบรรจุลงในถุงพลาสติก โดยใช้เครื่องบรรจุเพื่อให้ได้ขนาดที่เท่ากันและแน่นพอเหมาะ เมื่อบรรจุถุงเสร็จแล้วจะต้องปิดปากถุงให้เรียบร้อย

การบ่มเชื้อ

หลังจากบรรจุถุงเพาะแล้วจะต้องนำไปบ่มเชื้อในห้องควบคุมอุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสม โดยอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการบ่มเชื้อคือ 25-30 องศาเซลเซียส และความชื้นสัมพัทธ์ 80-90% ระยะเวลาในการบ่มเชื้อประมาณ 2-3 สัปดาห์

การเปิดดอก

เมื่อเชื้อเห็ดเจริญเต็มที่แล้ว จะเริ่มมีการสร้างดอกเห็ด โดยวิธีการเปิดดอกคือการเจาะรูบนถุงเพาะเพื่อให้เกิดการถ่ายเทอากาศและแสงเข้าไปภายในถุง จากนั้นนำถุงเพาะไปตั้งในห้องปลูกที่ควบคุมอุณหภูมิและความชื้นให้เหมาะสม โดยอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการเปิดดอกคือ 15-20 องศาเซลเซียส และความชื้นสัมพัทธ์ 85-90% ระยะเวลาในการเปิดดอกประมาณ 7-10 วัน

การเก็บเกี่ยว

เมื่อดอกเห็ดเจริญเติบโตเต็มที่แล้วก็สามารถเก็บเกี่ยวได้ โดยการตัดเห็ดออกจากถุงเพาะ ควรตัดที่โคนดอกและระมัดระวังไม่ให้ดอกเห็ดช้ำ หลังจากเก็บเกี่ยวแล้วควรนำเห็ดไปแช่น้ำเย็นเพื่อช่วยให้เห็ดคงความสดได้นานขึ้น

14 thoughts on “เห็ดนางฟ้า และการเพาะเห็ดนางฟ้า

  1. เด็กหนุ่มผู้เริงร่า says:

    เยี่ยมเลยครับ! ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่มีประโยชน์ครับ ผมจะลองไปเพาะดูบ้าง แต่อาจจะไม่สวยงามเท่ารูปนี้นะครับ 555

  2. แม่บ้านจอมขี้ลืม says:

    โอ้โห!! น่าสนใจจัง เด๋วกลับไปลองทำดูบ้างดีกว่า (พิมพ์ไปก็ลืมไปแระ)

  3. นักวิทย์น้อย says:

    การเพาะเห็ดนางฟ้าเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมสำหรับการผลิตอาหารและสร้างรายได้ โดยมีรายละเอียดและขั้นตอนที่ชัดเจนในบทความนี้เลยครับ

  4. คุณแม่สายเปย์ says:

    น่าสนุกจังค่ะ เห็ดนางฟ้าน่ากินจัง อยากลองปลูกดูแต่กลัวไม่รอด เห็นบอกว่าต้องควบคุมอุณหภูมิด้วย กว่าจะได้กินคงเหนื่อยเลย

  5. จิ๊กโก๋ปากตลาด says:

    เห็นแล้วอยากกินเลยอ่ะ 555 ว่าแต่เห็ดนางฟ้ามีขายตามตลาดหรือเปล่าครับ

  6. นักชิมขาประจำ says:

    อ่านจบแล้วอยากกินเห็ดนางฟ้าขึ้นมาเลย แต่อยากไปกินตามร้านมากกว่า 555

  7. ตาเฒ่าช่างบ่น says:

    สมัยก่อนเคยนิยมเพาะเห็ดฟางกันเยอะเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีคนทำละ เดี๋ยวนี้เห็นแต่เห็ดนางฟ้า

  8. หนุ่มน้อยจอมงง says:

    เห็ดนางฟ้าเพาะเองได้ด้วยหรอ!! ตกใจมากเลยค่ะ

  9. เจ๊เม้าท์กะปิ says:

    เพิ่งรู้ว่าเห็ดนางฟ้ามีประโยชน์เยอะแยะ ไม่ได้มีดีแค่ความอร่อยอย่างเดียวนะเนี่ยยยย

  10. หนุ่มITขาโหด says:

    การเพาะเห็ดนางฟ้าไม่ใช่ง่ายๆ ต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง แม่นๆ เป๊ะๆ เหมือนเขียนโปรแกรมเลยนะ

  11. ตั๋วราคาร้อน says:

    ราคาเห็ดนางฟ้าเดี๋ยวนี้เท่าไหร่ อะ ใครพอทราบบ้าง อยากจะไปซื้อไปทำเมนูโปรด

  12. หยกองุ่นสีเขียว says:

    อันตรายจังว่ะ เพาะเห็ดนางฟ้าเองเดี๋ยวโดนฟ้องละเมิดลิขสิทธิ์นะ

  13. สิงห์นักกินผู้ยิ่งใหญ่ says:

    เห็ดนางฟ้านึ่งจิ้มน้ำพริกหวานๆ กินกับข้าวสวยร้อนๆ ฟินสุดๆ

  14. จ่าพิชิต พชรางกูล says:

    เชื้อเห็ดนางฟ้าที่ใช้เพาะต้องได้มาตรฐานนะครับ ไม่งั้นมีสิทธิ์ได้กินเห็ดพิษ!!

Comments are closed.