ละหุ่ง (castor) สรรพคุณ และการปลูกละหุ่ง

ละหุ่ง (castor) สรรพคุณ และการปลูกละหุ่ง

ละหุ่งเป็นพืชที่มีความสำคัญทางการเกษตร โดยมีการปลูกกันอย่างแพร่หลายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในภูมิภาคที่มีอากาศอบอุ่น โดยละหุ่งมีคุณสมบัติโดดเด่นในด้านคุณค่าทางโภชนาการและสรรพคุณทางยา นอกจากนี้ยังเป็นพืชที่ปลูกง่าย นิยมนำมาสกัดน้ำมันละหุ่ง

สรรพคุณของละหุ่ง

  • บรรเทาอาการท้องผูก: น้ำมันละหุ่งมีฤทธิ์ในการระบายอ่อนๆ จึงสามารถช่วยบรรเทาอาการท้องผูกได้ โดยน้ำมันละหุ่งจะไปช่วยกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ ทำให้เกิดการขับถ่ายได้ง่ายขึ้น
  • ลดอาการอักเสบ: น้ำมันละหุ่งมีฤทธิ์ในการลดการอักเสบ โดยสามารถช่วยลดอาการปวด บวม และการระคายเคือง
  • รักษาโรคผิวหนัง: น้ำมันละหุ่งสามารถช่วยรักษาโรคผิวหนังต่างๆ เช่น กลาก เกลื้อน และโรคสะเก็ดเงิน โดยน้ำมันละหุ่งจะไปช่วยฆ่าเชื้อราและแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคผิวหนัง
  • ส่งเสริมการเจริญเติบโตของผม: น้ำมันละหุ่งมีกรดไขมันจำเป็นที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของผม โดยน้ำมันละหุ่งจะไปช่วยบำรุงเส้นผม ทำให้ผมดกดำเงางาม
  • รักษาแผล: น้ำมันละหุ่งสามารถช่วยรักษาแผลได้ โดยน้ำมันละหุ่งจะไปช่วยกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ และช่วยลดการติดเชื้อ

การปลูกละหุ่ง

ละหุ่งเป็นพืชที่ปลูกง่าย สามารถปลูกได้ในหลายพื้นที่ โดยสามารถทำได้ตามขั้นตอนดังนี้

  1. การเตรียมดิน: ดินที่เหมาะสำหรับการปลูกละหุ่งคือดินร่วนปนทรายที่มีความอุดมสมบูรณ์ โดยก่อนปลูกควรไถพรวนดินให้ละเอียด และใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน
  2. การปลูก: โดยทั่วไปการปลูกละหุ่งจะทำโดยการหว่านเมล็ดโดยตรงลงในแปลงปลูก โดยควรหว่านเมล็ดให้ห่างกันประมาณ 20-30 เซนติเมตร จากนั้นกลบเมล็ดด้วยดินบางๆ
  3. การดูแลรักษา: ละหุ่งเป็นพืชที่ต้องการน้ำในปริมาณมาก โดยควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงที่ต้นละหุ่งยังเล็กอยู่ นอกจากนี้ควรใส่ปุ๋ยเพิ่มเติมทุกๆ 1-2 เดือน เพื่อช่วยให้ต้นละหุ่งเจริญเติบโตได้ดี
  4. การเก็บเกี่ยว: เมื่อฝักละหุ่งแก่เต็มที่จะมีสีน้ำตาล และเมล็ดละหุ่งจะแห้งและแข็ง โดยทั่วไปการเก็บเกี่ยวละหุ่งจะทำในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม โดยเกษตรกรมักจะตัดต้นละหุ่งลงมาทั้งต้น จากนั้นนำไปตากแดดให้แห้ง แล้วจึงแกะฝักเพื่อนำเมล็ดละหุ่งออกมา