ผักโขม และการปลูกผักโขม

ผักโขม

ผักโขม (Spinach) เป็นพืชล้มลุกอายุสั้นที่สามารถปลูกได้ง่าย มีลำต้นตรง สูงประมาณ 20-30 ซม. ใบมีลักษณะกลมรีหรือไข่กลับ มีสีเขียวเข้ม มันวาว กินได้ทั้งสดและสุก โดยมักใช้ประกอบอาหารหลายประเภท เช่น ผัด ยำ แกงจืด ซุป หรือนำไปคั้นเป็นน้ำผักโขมดื่มก็ได้

ผักโขมเป็นผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายหลายชนิด ทั้งวิตามินและแร่ธาตุ เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินเค ธาตุเหล็ก แคลเซียม และโฟเลต เป็นต้น ผักโขมจึงได้รับการยกย่องว่าเป็นราชาแห่งผักใบเขียว และเป็นหนึ่งในผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงที่สุดชนิดหนึ่ง

การปลูกผักโขม

ผักโขมเป็นผักที่ปลูกง่าย สามารถปลูกได้ทั้งในดินและในน้ำ แต่การปลูกในดินจะให้ผลผลิตที่ดียกว่า ผักโขมเจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุยที่มีความเป็นกรดเป็นด่างเล็กน้อย (pH ระหว่าง 6.0-7.0) ดินต้องมีความอุดมสมบูรณ์สูง มีอินทรียวัตถุมาก และมีการระบายน้ำที่ดี

ผักโขมสามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดในการปลูกคือช่วงฤดูหนาว เพราะอากาศเย็นจะช่วยให้ผักโขมเจริญเติบโตได้ดี วิธีการปลูกผักโขมมีดังนี้

  1. เตรียมดินโดยการพรวนดินให้ร่วนซุย ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไปเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับดิน จากนั้นรดน้ำให้ชุ่ม
  2. หว่านเมล็ดผักโขมลงไปในแปลงที่เตรียมไว้ โดยให้เมล็ดมีระยะห่างกันประมาณ 10-15 ซม.
  3. ก ลบเมล็ดด้วยดินบางๆ แล้วรดน้ำให้ชุ่มอีกครั้ง
  4. ดูแลรักษาผักโขมโดยการรดน้ำให้สม่ำเสมอ พรวนดินเพื่อกำจัดวัชพืช และใส่ปุ๋ยเสริมเมื่อจำเป็น
  5. ผักโขมจะเริ่มเก็บเกี่ยวได้เมื่อมีอายุประมาณ 30-45 วัน โดยสามารถตัดใบผักโขมมาใช้ได้เลยโดยไม่ต้องถอนทั้งต้น

ผักโขมเป็นผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และปลูกง่าย ดังนั้นจึงเป็นผักที่ควรมีติดไว้ในสวนครัว เพราะสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู