เผือกคืออะไร
เผือกมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Colocasia esculenta เป็นพืชจำพวกหัวที่ปลูกกันอย่างแพร่หลายในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จนถึงหมู่เกาะแปซิฟิก มีหลายสายพันธุ์ บางชนิดปลูกเพื่อบริโภคหัว บางชนิดปลูกเพื่อความสวยงาม
เผือกเป็นพืชที่มีอายุหลายปี ลำต้นอวบน้ำ ใบกว้างใหญ่เป็นรูปหัวใจ ดอกมีสีขาวหรือเหลืองอ่อน ผลเป็นแบบผลเบอร์รี่สีแดงหรือสีม่วง
สรรพคุณของเผือก
เผือกมีคุณค่าทางอาหารสูง อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ เช่น วิตามินซี วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี3 วิตามินบี6 โพแทสเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส และสังกะสี
เผือกมีสรรพคุณเป็นยาบำรุงร่างกาย ช่วยแก้อาการอ่อนเพลีย ช่วยเจริญอาหาร ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดียิ่งขึ้น ช่วยแก้อาการท้องผูก ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยลดความดันโลหิตสูง ช่วยป้องกันโรคหัวใจ ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง ช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส
การปลูกเผือก
เผือกสามารถปลูกได้ทั้งในดินและในน้ำ ในประเทศไทยนิยมปลูกเผือกในนาข้าวหลังจากที่เก็บเกี่ยวข้าวเสร็จแล้ว
การปลูกเผือกในดิน
- เตรียมดินโดยไถพรวนให้ละเอียด ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก
- ทำหลุมปลูกให้มีระยะห่างกันประมาณ 30-40 เซนติเมตร ลึกประมาณ 10-15 เซนติเมตร
- หว่านเมล็ดเผือกหรือหัวเผือกที่ผ่านการคัดเลือกแล้วลงในหลุมปลูก
- ก ลบดินและรดน้ำให้ชุ่ม
การปลูกเผือกในน้ำ
- เตรียมบ่อปลูกเผือก โดยขุดบ่อขนาดใหญ่ที่มีความลึกประมาณ 1-2 เมตร
- ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไปในบ่อปลูกเผือก
- นำต้นเผือกมาปลูกในบ่อปลูกเผือก
- รดน้ำให้ชุ่ม
การดูแลเผือก
- รดน้ำเผือกเป็นประจำโดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง
- ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักปีละ 2-3 ครั้ง
- กำจัดวัชพืชในแปลงปลูกเผือกเป็นประจำ
- ป้องกันกำจัดโรคและแมลงศัตรูเผือก
การเก็บเกี่ยวเผือก
เผือกสามารถเก็บเกี่ยวได้เมื่อหัวเผือกมีขนาดใหญ่และแก่จัด โดยทั่วไปแล้วจะใช้เวลาประมาณ 7-9 เดือนหลังจากปลูก
การเก็บเกี่ยวเผือกทำได้โดยการขุดหัวเผือกออกจากดินหรือน้ำ แล้วนำมาล้างทำความสะอาด ก่อนที่จะนำไปบริโภคหรือจำหน่าย