กระวาน (Cardamom)
กระวาน (ชื่อวิทยาศาสตร์: Elettaria cardamomum Maton) เป็นพืชในวงศ์ขิง (Zingiberaceae) มีลำต้นเป็นเหง้าอยู่ใต้ดิน ใบเป็นกาบยาวสีเขียวเข้ม ดอกออกเป็นช่อที่ปลายลำต้น แต่ละดอกชั้นนอกสีขาวและสีชมพู ชั้นในสีเหลือง และมีจุดสีแดง สรรพคุณของกระวานมีมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการรักษาโรคและส่งเสริมสุขภาพ
สรรพคุณของกระวาน
- บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียด แน่นท้อง และช่วยขับลม
- ลดอาการคลื่นไส้อาเจียน โดยเฉพาะอาการแพ้ท้องในหญิงตั้งครรภ์
- ช่วยกระตุ้นการย่อยอาหาร
- บรรเทาอาการไอ และขับเสมหะ
- ช่วยแก้อาการสะอึก
- บรรเทาอาการจุกเสียด แน่นท้อง
- บรรเทาอาการท้องร่วง ท้องเสีย
- ช่วยลดความเครียด ความวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า
- ช่วยบำรุงร่างกาย ฟื้นฟูผู้ป่วยหลังเจ็บป่วยได้เร็วขึ้น
- ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต บำรุงหัวใจ
- ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
- ช่วยลดความดันโลหิต
การปลูกกระวาน
- การเตรียมดิน
ดินที่ใช้ปลูกกระวานควรเป็นดินร่วนปนทราย มีการระบายน้ำดี มีความเป็นกรดเป็นด่างอยู่ระหว่าง 5.5-6.5 ปรับปรุงโครงสร้างดินโดยการไถพรวนดินให้ลึกประมาณ 30-40 เซนติเมตร และใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในอัตรา 2-3 ตันต่อไร่
- การเตรียมกล้าพันธุ์
การปลูกกระวานนิยมใช้กล้าพันธุ์จากการแยกเหง้า โดยเลือกเหง้าที่มีอายุประมาณ 1 ปี ซึ่งเป็นเหง้าที่สมบูรณ์แข็งแรง ไม่มีโรคและแมลงศัตรูพืช จากนั้นนำเหง้ามาตัดแบ่งออกเป็นท่อนๆ ละประมาณ 5-10 เซนติเมตร แล้วนำไปแช่ในน้ำยาฆ่าเชื้อราประมาณ 30 นาที
- การปลูก
ขุดหลุมปลูกให้มีขนาดกว้างประมาณ 30 เซนติเมตร และความลึกประมาณ 20 เซนติเมตร เว้นระยะห่างระหว่างหลุมประมาณ 1 เมตร 1 แถว และ 1.5 เมตร ระหว่างแถว ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักรองก้นหลุมประมาณ 1 กิโลกรัม จากนั้นนำกล้าพันธุ์ลงปลูก กดดินให้แน่นและรดน้ำให้ชุ่ม
4. การดูแลรักษา
การให้น้ำ: รดน้ำกระวานเป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง ให้รดน้ำวันละ 1 ครั้ง ส่วนในช่วงฤดูฝนควรงดการให้น้ำเพื่อป้องกันการเกิดโรครากเน่า
การใส่ปุ๋ย: ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักทุกๆ 3-4 เดือนในอัตรา 1-2 กิโลกรัมต่อต้น และ ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 ในอัตรา 200-300 กรัมต่อต้นทุกๆ 2-3 เดือน
การกำจัดวัชพืช: กำจัดวัชพืชในแปลงปลูกกระวานเป็นประจำเพื่อป้องกันการแย่งน้ำและธาตุอาหารจากกระวาน
การป้องกันโรคและแมลงศัตรูพืช: หมั่นตรวจสอบแปลงปลูกกระวานเพื่อหาโรคและแมลงศัตรูพืช หากพบให้รีบกำจัดโดยใช้สารเคมีกำจัดโรคและแมลงศัตรูพืชที่เหมาะสม
การเก็บเกี่ยว
สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตกระวานได้เมื่อมีอายุประมาณ 7-8 เดือน โดยการตัดช่อดอกกระวานที่แก่จัดแล้วนำไปตากแดดจนแห้ง กะเทาะเอาเมล็ดออกจากฝัก ตากแดดอีกครั้งจนแห้งสนิท แล้วจึงนำไปเก็บรักษาในภาชนะที่ปิดมิดชิด
ปลูกยากจุง คงเลี้ยงไม่ได้แน่ๆ เลยเรา
น่าปลูกไว้เป็นไม้ประดับด้วย ถ้าได้ใบเขียวๆ คงจะงามตาแปลกดี
เพิ่งจะรู้นะเนี่ยว่ากระวานมันมีสรรพคุณตั้งเยอะแยะไปหมดเลย
ทั้งปลูกยาก แล้วยังจะโรคเยอะอีก ตายแล้วยากจัง
ก็ซื้อเขามากินสิจะไปปลูกให้เปลืองทำไม
ปลูกก็ยาก โรคก็เยอะ กว่าจะได้กินคงหมดตัวกับค่ารักษากระวานไปหมดแล้ว
ขำๆ นะ แต่อยากได้กระวานไปปลูกที่บ้าน จะปลูกลงดิน ลงกระถางก็ได้หมด
ชอบแนะนำคุณประโยชน์ของพืชจังเลย จะให้ดียิ่งกว่านี้ก็ระบุแหล่งที่มาของข้อมูลด้วยจะดีมาก
ใครมีวิธีปลูกกระวานแบบง่ายๆ บ้าง สอนด้วย ข้าขอวิชาหน่อย
รู้เลยว่าคุณชอบเครื่องเทศแน่เลย เห็นพูดแต่เรื่องพืชสมุนไพร
ถ้าคุณไม่ชอบก็ไม่ต้องอ่าน ใครจะไปบังคับคุณล่ะน่า คุณก็เอาเวลาไปอ่านอย่างอื่นสิ
ปลูกยาก ก็ไม่ปลูกดิวะ ลงทุนสูงขนาดนี้ รักจะปลูกก็ต้องลงทุนค่ะ
เขาบอกก็เชื่อเขาไปเหอะ มันไม่เห็นจะมีอะไรเลยนี่
คุณรู้หรือเปล่าว่ากระวานเป็นพืชที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ และมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคสูง