มะม่วงหิมพานต์ สรรพคุณ และการปลูกมะม่วงหิมพานต์

มะม่วงหิมพานต์คืออะไร?

มะม่วงหิมพานต์เป็นไม้ยืนต้นที่มีผลที่กินได้ มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาใต้ แต่ปัจจุบันสามารถพบได้ทั่วไปในเขตร้อนและกึ่งเขตร้อนทั่วโลก

ลักษณะของมะม่วงหิมพานต์

มะม่วงหิมพานต์เป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ที่สามารถสูงได้ถึง 15 เมตร มีลำต้นแข็งแรงและมีใบสีเขียวเข้มรูปไข่ ดอกมะม่วงหิมพานต์มีขนาดเล็กสีขาวหรือสีชมพูอ่อน ผลของมะม่วงหิมพานต์มีเปลือกแข็งรูปไต โดยมีเมล็ดเพียงเมล็ดเดียวอยู่ภายใน เมื่อผลสุกเปลือกจะแตกออกและเผยให้เห็นเมล็ดที่บรรจุอยู่ในมัน ซึ่งเรียกว่า “ถั่วมะม่วงหิมพานต์”

ถั่วมะม่วงหิมพานต์

ถั่วมะม่วงหิมพานต์มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยโปรตีน วิตามิน บี6 และกรดไขมันที่ไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจ โดยมีส่วนช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและป้องกันโรคหัวใจได้

สรรพคุณของมะม่วงหิมพานต์

  • ต้านอนุมูลอิสระ: มะม่วงหิมพานต์อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ซึ่งอาจนำไปสู่โรคเรื้อรังต่างๆ เช่น มะเร็งและโรคหัวใจได้
  • ลดความดันโลหิต: มะม่วงหิมพานต์มีโพแทสเซียมสูง ซึ่งมีบทบาทในการควบคุมความดันโลหิตให้เป็นปกติ
  • บำรุงหัวใจ: มะม่วงหิมพานต์มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวสูง ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจ โดยมีส่วนช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและป้องกันโรคหัวใจได้
  • รักษาอาการท้องผูก: มะม่วงหิมพานต์อุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร ซึ่งช่วยรักษาอาการท้องผูกได้
  • ลดน้ำหนัก: มะม่วงหิมพานต์มีแคลอรีสูง แต่ก็อุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร ซึ่งช่วยให้รู้สึกอิ่มได้นานขึ้น โดยช่วยลดความอยากอาหารและป้องกันการกินมากเกินไปได้

การปลูกมะม่วงหิมพานต์

มะม่วงหิมพานต์เป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ดีในเขตร้อนและกึ่งเขตร้อน โดยสามารถปลูกได้ทั่วไปในประเทศไทย

  1. การเตรียมดิน: มะม่วงหิมพานต์ชอบดินร่วนปนทรายที่ระบายน้ำได้ดี มีค่า pH ระหว่าง 5.0-6.5 ก่อนปลูกควรไถพรวนดินให้ลึกประมาณ 30-40 เซนติเมตร และใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน
  2. การปลูก: ขุดหลุมปลูกขนาดกว้างและลึกประมาณ 50×50 เซนติเมตร ห่างกันประมาณ 7-8 เมตร นำต้นกล้าลงปลูกในหลุม ปิดดินที่โคนต้นให้แน่นและรดน้ำให้ชุ่ม
  3. การดูแลรักษา:
    • การให้น้ำ: มะม่วงหิมพานต์ต้องการน้ำในปริมาณมาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง ควรรดน้ำสม่ำเสมอเพื่อให้ดินมีความชื้นเพียงพอ
    • การใส่ปุ๋ย: ควรใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักรอบๆ โคนต้นทุกๆ 3-4 เดือน เพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินและช่วยให้ต้นมะม่วงหิมพานต์เจริญเติบโตได้ดี
    • การตัดแต่งกิ่ง: ควรตัดแต่งกิ่งที่แห้งตายหรือเป็นโรคออก เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค และช่วยให้ต้นมะม่วงหิมพานต์มีทรงพุ่มที่สวยงาม
  4. การเก็บเกี่ยว: มะม่วงหิมพานต์จะเริ่มให้ผลผลิตหลังจากปลูกไปแล้วประมาณ 3-5 ปี โดยผลมะม่วงหิมพานต์จะสุกในช่วงฤดูร้อน เมื่อผลสุกเปลือกจะแตกออกและเผยให้เห็นถั่วมะม่วงหิมพานต์ ควรเก็บเกี่ยวถั่วมะม่วงหิมพานต์เมื่อเปลือกเริ่มแตก เพื่อให้ได้ถั่วที่มีคุณภาพดีที่สุด

15 thoughts on “มะม่วงหิมพานต์ สรรพคุณ และการปลูกมะม่วงหิมพานต์

Comments are closed.