ผักเคล (curly Kale) ราชินีผักใบเขียว คุณค่าทางโภชนาการสูง สรรพคุณ และวิธีปลูก

ผักเคล (curly Kale) ราชินีผักใบเขียว คุณค่าทางโภชนาการสูง สรรพคุณ และวิธีปลูก

ผักเคล (Curly Kale) คืออะไร
ผักเคล หรือผักคะน้าใบหยัก เป็นพืชผักใบเขียวชนิดหนึ่งในตระกูลกะหล่ำที่มีใบหยักเป็นเอกลักษณ์ มีถิ่นกำเนิดในบริเวณทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ในปัจจุบันผักเคลได้รับความนิยมไปทั่วโลกและเป็นที่รู้จักในฐานะสุดยอดอาหารเพื่อสุขภาพ เนื่องจากผักเคลอุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย ทั้งวิตามิน เกลือแร่ และสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพและป้องกันโรคต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

คุณค่าทางโภชนาการของผักเคล

ในผักเคล 1 ถ้วย (หรือประมาณ 67 กรัม) มีคุณค่าทางโภชนาการดังนี้

• แคลอรี: 33
• โปรตีน: 3 กรัม
• คาร์โบไฮเดรต: 6 กรัม
• ไขมัน: 1 กรัม
• ไฟเบอร์: 2 กรัม
• วิตามินซี: 134% (มากกว่าส้ม 1 ลูก)
• วิตามินเค: 684% (ปริมาณสูงมาก)
• วิตามินเอ: 206%
• โฟเลต: 21%
• แมกนีเซียม: 6%
• โพแทสเซียม: 9%

สรรพคุณของผักเคล

1. ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
   ผักเคลอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น แคโรทีนอยด์และวิตามินซี ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ อนุมูลอิสระเป็นสารที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในการเผาผลาญหรือได้รับจากมลพิษในสิ่งแวดล้อม อนุมูลอิสระเหล่านี้สามารถทำลายเซลล์และนำไปสู่โรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ และโรคอัลไซเมอร์

2. ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง
   ผักเคลมีสารอาหารบางชนิดที่อาจช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้ เช่น ซัลโฟราเฟน สารอาหารจากกำมะถันในผักเคลมีฤทธิ์ต้านมะเร็งที่ได้รับการพิสูจน์แล้วในงานวิจัยหลายชิ้น โดยซัลโฟราเฟนสามารถช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งและป้องกันความเสียหายของ DNA โดยเฉพาะโรคมะเร็งปอด มะเร็งตับอ่อน มะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งเต้านม

3. ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
   การรับประทานผักเคลเป็นประจำสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ เพราะผักเคลอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นไขมันชนิดดีที่มีส่วนช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล LDL (ไขมันเลว) เพิ่มระดับคอเลสเตอรอล HDL (ไขมันดี) และลดความดันโลหิต การมีคอเลสเตอรอล LDL สูงและคอเลสเตอรอล HDL ต่ำเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่นำไปสู่ภาวะหลอดเลือดเสื่อมแข็งและโรคหัวใจ

4. ช่วยป้องกันการเสื่อมของดวงตา
   ผักเคลมีสารต้านอนุมูลอิสระลูทีนและซีแซนทีนในปริมาณสูง ทั้งสารต้านอนุมูลอิสระทั้ง 2 ชนิดได้แสดงให้เห็นว่ามีส่วนช่วยปกป้องดวงตาจากโรคร้ายต่างๆ เช่น ต้อกระจกและโรคจอประสาทตาเสื่อมด้วยวัย (AMD)

5. ช่วยบำรุงกระดูก
   ผักเคลเป็นแหล่งของแคลเซียมและวิตามินเคที่ดียอดเยี่ยม ทั้ง 2 สารอาหารนี้ทำงานร่วมกันเพื่อเสริมการสร้างกระดูกและลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน วิตามินเคยังมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการแข็งตัวของเลือด

วิธีปลูกผักเคล

ผักเคลเป็นพืชผักที่ปลูกง่ายและสามารถปลูกได้ในสวนหลังบ้านหรือปลูกในกระถางก็ได้ โดยสำหรับการปลูกผักเคลนั้น สามารถปฏิบัติได้ดังนี้

• เลือกปลูกผักเคลในฤดูที่เหมาะสม ผักเคลชอบอากาศเย็น ดังนั้นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการปลูกผักเคลคือในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิถึงต้นฤดูร้อน และปลายฤดูร้อนถึงต้นฤดูใบไม้ร่วง
• เตรียมดินให้พร้อม ดินที่เหมาะกับการปลูกผักเคลคือดินที่มีความเป็นกรด-ด่างที่เป็นกลางถึงเป็นด่างเล็กน้อย มีการระบายน้ำที่ดี และมีการไหลเวียนของอากาศที่เหมาะสม
• หว่านเมล็ดหรือปลูกต้นกล้า ผักเคลสามารถปลูกได้ 2 วิธีคือ หว่านจากเมล็ดหรือปลูกโดยใช้ต้นกล้า หากปลูกจากเมล็ด ให้หว่านเมล็ดลงในดินที่เตรียมไว้ให้มีระยะห่างประมาณ 1 นิ้ว
• ดูแลผักเคลให้ได้รับการดูแลที่ดี ผักเคลเป็นพืชผักที่ต้องการน้ำและแสงแดดอย่างเพียงพอ ดังนั้นรดน้ำผักเคลให้สม่ำเสมอในช่วงเช้าหรือเย็น และปลูกผักเคลในที่ที่มีแสงแดดส่องถึงอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน

ผักเคลเป็นสุดยอดผักใบเขียวที่อุดมไปด้วยสารอาหารและมีสรรพคุณในการป้องกันโรคต่างๆ มากมาย การรับประทานผักเคลเป็นประจำถือเป็นวิธีที่ดีในการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง นอกจากนี้ด้วยการปลูกง่ายก็ยิ่งทำให้ผักเคลกลายเป็นหนึ่งในผักที่ดีที่สุดที่ควรปลูกไว้รับประทานเอง